"อ้ายสติ๊ก" แฮปปี้ เป็นเขยอีสานมา 6 ปี ดีต่อใจอีหลีเด้อ

27 เม.ย. 2566 | 07:15 น.

อ้ายสติ๊ก บรรยายความรู้สึก เป็นเขยอีสานมา 6 ปี ดีต่อใจอีหลี ควงคู่ นางบี สู้จนร่ำรวย แต่ไม่เคยลืมวิถีชีวิต ถิ่นเคยอยู่อู่เคยนอน ปลื้มสุดๆ กำลังจะได้เป็นพ่อคน

"ดิมิทรี ปาสกาล เจอราส์ อองรี บูเตออเลอซ์" หรือ "อ้ายสติ๊ก" หนุ่มชาวฝรั่งเศส จากบ้านเกิดเมืองนอน มาเที่ยวประเทศไทย พร้อมกับเสื้อผ้าติดตัวมาเพียงแค่ 6 ชุด ก่อนพบรักแท้กับ "สุภาวดี ไลลานี บูเตอเลอช์" หรือ "นางบี" แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ควงคู่สู้ทำมาหากินอยู่หลายปี แจ้งเกิดเป็นเน็ตไอดอล จากการถ่ายการใช้ชีวิตบ้านๆ กลางทุ่งนา อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ บ้านเกิดของนางบี และประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจ พลิกชีวิตมาเป็นเศรษฐี เปิดใจกับทีมข่าว Sanook.com ระหว่างใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านในถิ่นอีสานใต้ อ้ายสติ๊ก บอกว่า นับจากวันที่ตกลงปลงใจเข้าประตูวิวาห์กับ นางบี ปัจจุบันเขาเป็นเขยอีสานมาได้ 6 ปีแล้ว

เขาบอกต่อว่า แม้วันนี้ ตนกับนางบี กำลังไปได้สวยกับการทำธุรกิจสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่เคยลืม วิถีชีวิตถิ่นเคยอยู่อู่เคยนอน มีการแบ่งเวลาจากการทำธุรกิจในเมืองหลวง กลับไปใช้ชีวิตเรียบง่าย กลางทุ่งนาแดนดินถิ่นอีสานใต้เสมอ

"เวลากลับมาที่สุรินทร์ รู้สึกดีต่อใจ" อ้ายสติ๊กบอก

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้มีนางบีร่วมด้วย เมื่อนางบี ถามว่า รู้สึกยังไงเป็นลูกเขยคนอีสานมา 6 ปีแล้ว อ้ายสติ๊กตอบว่า ดีใจมาก ชอบมาก

"เป็นคนอีสานเด้อ"

"ชอบคน ชอบควาย ชอบอาหาร ชอบส้มตำ ไข่มดแดง ต้มเล้ง เนื้อผัดน้ำมันหอย"

เมื่อนางบี ถามว่า ชอบอะไรอีก อ้ายสติ๊ก ตอบแบบหยอกกลับ ตามสไตล์คูรักหนุ่มฝรั่งเศษกับสาวอีสาน ที่มีความร่าเริงสนุกสนาน เรียกเสียงฮา เป็นจุดขายมัดใจเอฟซี

"ชอบจูบหอยเมีย"

"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ แบบนี้"

คำตอบของสามี ทำเอานางบีเฮาแตก รีบอธิบายให้สามี ที่เริ่มพูดภาษาอีสานเป็นต่อยหอย แต่ยังสื่อสารได้ไม่เต็มร้อย และยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำบางคำ

"โอ้ยเนาะ ชอบจูบหอย เขาเรียกว่าหอยจูบ หอบจูบที่เมียทำให้กิน"

"ใช่ๆ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ โอเค"

สติ๊กตอบรับ ก่อนบอกต่อว่า นอกจากอาหารการกินแล้ว เขายังหลงใหลศิลปวัฒนธรรมอีสาน ชอบไปเซิ้งหน้าเวทีหมอลำ

นางบีเสริมขึ้นมาว่า สามีเคยบอกว่า ที่ประเทศฝรั่งเศส มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ ถ้าไม่ใช่คนรวยจริงๆ หรือได้รับมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย เป็นไปได้ยากที่จะได้เป็นเจ้าของครอบครองที่ดินผืนใหญ่ เพราะมีราคาแพงมาก

อ้ายสติ๊กเล่าต่อว่า การดำเนินชีวิต ที่ บ้าน จ.สุรินทร์ เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีอะไรยุ่งยาก มีอะไรกินก็กินตามที่มี มีความสุขกับการ เลี้ยงควาย เลี้ยงม้า เลี้ยงสุนัข

รวมทั้ง ออกไปหาอาหารตามฤดูกาล อาทิ แหย่ไข่มดแดง หาปลา ขุดปู ซึมซับมาจากการที่นางบี และคนในครอบครัวของนางบี ทำให้ดู พอแดดร่มลมตกก็พา "หญิงโรส" น้องสาวของนางบี ที่ไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่เกิด ออกไปนั่งรถซาเล้งเที่ยวรอบหมู่บ้าน

"หญิงโรสนี่จะติดอ้ายสติ๊กมาก"

นางบีกล่าวเสริม ก่อนบอกว่า เธอและครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ในวันนี้ ต้องขอบคุณอ้ายสติ๊ก ที่ชักชวนเธอกลับมาตั้งหลัก จ.สุรินทร์ หลังจากออกจากบ้านไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ที่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต แต่ก็ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ดั่งใจปรารถนา ซึ่งการถอยกลับมาตั้งหลักที่บ้าน ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

"ก่อนหน้านั้นอ้ายสติ๊กมาเที่ยว อยู่กับนางบีที่ภูเก็ต เงินก็ไม่ค่อยมี อ้ายสติ๊กเป็นคนชวนกลับมาอยู่สุรินทร์"

"ตอนนั้นก็คิดว่า กลับมาอยู่บ้านเนาะ มาทำนา คิดว่าจะรวยค่ะ แต่ว่ามันยากค่ะ เพราะว่าบ้านนางบีไม่ได้มีแหล่งน้ำใหญ่ๆ พอจะทำนาได้ตลอดปีนะคะ ทำนาอาศัยแค่น้ำฝนแค่นั้นค่ะ"

"แต่ต่อมาเราก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็เพราะว่า เป็นคนชอบถ่ายรูป และเล่นโซเชียลอยู่แล้ว ก็เลยถ่ายทอดความเป็นอยู่ ความบ้านๆ แล้วก็อวดตามความเป็นจริงเลย นั่งกินข้าวอะไรกันแบบนี้"

"นางบีเป็นสายฮาอยู่แล้ว คนเริ่มชอบ เริ่มแชร์ชีวิตของนางบีกับอ้ายสติ๊ก ออกไปค่ะ ทำให้มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก"

"พอเราเริ่มผลิตสินค้ามาขาย ก็ให้การสนับสนุนสินค้าของนางบีนะค่ะ บีอีซีแบรนด์ บีนัวร์ น้ำปลาร้า เป็นจุดเริ่มต้นของนางบีเลยค่ะ แล้วก็จะกลับมาเร็วๆ นี้อีกจ้ะ"

อ้ายสติ๊ก มีอาชีพปรึกษาทางด้านการเงิน และการลงทุน ควบคู่กับการดูแลธุรกิจของครัว บอกต่อว่า เวลานี้เขากำลังมีความสุขล้นอก เพราะกำลังมีลูกกับนางบี จะได้เป็นพ่อคนเร็วๆ นี้

"ดีใจ ดีใจจะเป็นพ่อ ลูกจะเรียกอ้ายสติ๊ก บักพ่อ บักพ่ออีแม่ บักพ่อ ดีใจมากจะเลี้ยงลูก"

นางบีหัวเราะร่วน ที่อ้ายสติ๊กบอกว่าจะให้ลูกเรียก "บักพ่อ" ก่อนทำความเข้าใจกับสามี ตามประสาคู่รักอารมณ์ดี

"โอ้ยกูไม่เคยเห็นใคร ลูกจะเรียกบักพ่อหรอก เขาไม่ได้เรียกอย่างนั้น เขาจะเรียกว่า อีพ่ออีแม่ แบบนี้"

"อีแม่โอเค บักพ่อ เออบักพ่อก็บักพ่อ ไม่เรียกแบบนี้เหรอ" สติ๊กย้อนถาม

"ไม่ ไม่มีใครเรียกแบบนี้"

"คุณพ่อ ใช่ คุณพ่อคุณแม่ ปะป๊า หะ ปะป๊า ปะป๊า เออ แด๊ดดี้" สติ๊กเริ่มเข้าใจ

ท้ายการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นางบีถามอ้ายสติ๊กว่า เมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว จะเลี้ยงลูกแบบไหน อ้ายสติ๊กตอบว่า เลี้ยงแบบผสมผสาน

นางบีถามอีก ผสมผสานแบบไหน เลี้ยงวัวบ้าง เลี้ยงควายบ้าง แบบนี้ หรือเปล่า สติ๊กตอบว่า "เลี้ยงกับซาเล้ง ขี่ควาย แบบนี้"

นางบีย้อนถาม "จะเลี้ยงแบบผสมผสาน ก็คือแบบว่าจะพาลูกขี่ซาเล้ง และก็ขี่ควายไปด้วย เข้าใจอะไรผิดไหมนี่ เออเอาแล้วแต่จะเลี้ยงเถอะ ลูกเธอแล้ว"

"ในความหมายของอ้ายสติ๊ก คือ นางบีเข้าใจนะคะว่า เขาจะเลี้ยงทั้งวัฒนธรรมของฝรั่ง และก็วัฒนธรรมไทยของเราแบบนี้ค่ะ สรุปง่ายๆ คืออันไหนดี เราก็บอกอันนั้นค่ะ"