อันตรายจากการใช้ “ด่างทับทิม” ทั้งในครัวเรือน และการรักษาโรค
หากใครใช้ด่างทับทิมในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ หรือนำมาล้างผักลดสารพิษ อาจจะต้องอ่านบทความนี้ก่อน
“ด่างทับทิม” สารเคมีผลึกสีม่วงที่หลายๆ บ้านใช้เพื่อการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เป็นที่รูจักกันมาอย่างยาวนานหลาย 10 ปี แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีจริง แต่หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจเกิดอันตรายขึ้นได้
ประโยชน์ของด่างทับทิม ที่เรามักใช้กันอยู่บ่อยๆ
- นำมาละลายน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ นำน้ำไปใช้ต่อ
โดยผสมให้น้ำด่างทับทิมเป็นสีชมพูอ่อนๆ จางๆ
- นำมาละลายน้ำ เพื่อนำน้ำไปใช้ล้างผัก แช่ผัก
เพื่อลดสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ต่างๆ
โดยผสมให้น้ำด่างทับทิมเป็นสีชมพูอ่อนๆ จางๆ
- ผสมน้ำแช่เท้า เพื่อบรรเทาอาการของโรคน้ำกัดเท้า
โดยผสมให้น้ำด่างทับทิมเป็นสีชมพูเข้ม ชมพูบานเย็น
- แพทย์แผนโบราณแนะนำให้แช่แผลที่เป็นริดสีดวงทวารลงในน้ำผสมด่างทับทิม เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
อันตรายจากการใช้ด่างทับทิม
- หากผสมเกล็ดทับทิมกับน้ำในปริมาณมาก (น้ำเป็นสีม่วง)
ระดับความเข้มข้นที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวหนังไหม้เมื่อสัมผัสถูกผิวหนังของเราได้
รวมถึงการระคายเคืองเยื่อบุตาเมื่อกระเด็นเข้าตา
หากรู้สึกระคายเคืองให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง
- ด่างทับทิมเป็นวัตถุไวไฟเมื่อเจอกับสารละลายบางชนิด เช่น น้ำมัน
ดังนั้นการมีด่างทับทิมเอาไว้ใช้ในครัว ที่มีน้ำมันอยู่ด้วย
อาจเสี่ยงต่อการเกิดการเผาไหม้ได้ เช่น น้ำมันหกใส่ด่างทับทิวโดยตรง
หรือการใช้ผ้าเช็กน้ำมัน แล้วนำมาเช็ดเศษด่างทับทิมที่หกอยู่ตามโต๊ะ
หรือพื้นครัว เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆ เช่น
สารประกอบโลหะหนัก กรด หรือเบสต่างๆ อีกด้วย
- เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
หากน้ำด่างทับทิมไหลลงสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ
อาจส่งผลเสียโดยเป็นพิษร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ
และส่งผลกระทบในระยะยาวได้
- ห้ามเผลอดื่ม ชิม จิบ หรือทานไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หรือปริมาณเท่าใด
เพราะอาจเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ได้ หากเผลอนำเข้าปาก
ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด
- การกะปริมาณในการใช้ด่างทับทิมค่อนข้างลำบาก
หากผสมอ่อนไปอาจไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อโรค
แต่หากเข้มไปก็อาจจะเป็นอันตราย
ดังนั้นในการใช้งานเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน
ควรหาข้อมูลอย่างละเอียดในการใช้ แต่ด้วยการใช้ที่ค่อนข้างลำบาก
ปัจจุบันจึงมีตัวเลือกอื่นที่ใช้ง่าย และอันตรายน้อยกว่าออกมาแทน เช่น
การฆ่าเชื้อโรคในน้ำด้วยเครื่องกรองน้ำ
หรือการล้างผักด้วยน้ำยาล้างผักโดยเฉพาะ เป็นต้น
- การแช่แผลที่เป็นริดสีดวงทวารลงในน้ำผสมด่างทับทิม รวมถึงการแช่เท้าในน้ำผสมด่างทับทิมเพื่อบรรเทาอาการโรคน้ำกัดเท้า อาจเห็นผลจริงเมื่อผสมน้ำด่างทับทิมในปริมาณที่พอเหมาะ และใช้เวลาไม่มากจนเกินไป (ไม่เกิน 20-30 นาที) การผสมน้ำด่างทับทิมเข้มข้นมากเกินไป หรือแช่น้ำนานเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออาการที่เป็นอยู่ได้
ดังนั้น คำแนะนำคือ หากสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ด่างทับทิม ไปใช้สิ่งอื่นได้ ควรใช้สารอื่นที่ปลอดภัย และใช้งานง่ายมากกว่า หากจำเป็นต้องใช้ด่างทับทิมจริงๆ ควรศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน หรือปรึกษาผผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ทุกครั้ง นอกจากนี้หากเป็นการใช้ด่างทับทิมเพื่อรักษาโรค ควรอยู่ในการดูแล และคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น ไม่ควรซื้อมาใช้เองโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายมากขึ้น และจะรักษายากกว่าเก่า
คุณกำลังดู: อันตรายจากการใช้ “ด่างทับทิม” ทั้งในครัวเรือน และการรักษาโรค
หมวดหมู่: สุขภาพ
แชร์ข่าว