ยางรถทนทานแค่ไหนดูได้จากเลข Treadwear บนแก้มยาง

ยางรถทนทานแค่ไหนดูได้จากเลข Treadwear บนแก้มยาง

การเปลี่ยนยางรถยนต์ไม่เพียงแค่จะต้องเช็กสัปดาห์และปีที่ผลิตเท่านั้น แต่ยังควรเช็กค่าอื่นๆ โดยเฉพาะ Treadwear ที่บ่งบอกว่ายางเส้นมีอายุการใช้งานยาวนานแค่ไหนอีกด้วย

ค่า Treadwear คืออะไร?

โดยปกติแล้วยางทุกเส้นจะระบุค่า Treadwear เอาไว้เป็นเลข 3 หลัก อ้างอิงตามมาตรฐานการแบ่งเกรดคุณภาพยางที่เรียกว่า Uniform Tyre Quality Grading (UTQG) ซึ่ง Treadwear จะบ่งบอกถึงอัตราความสึกหรอช้าและเร็วของยางแต่ละเส้น เช่น 200, 350, 400 หรือกระทั่ง 800 ก็มี

ยางที่มีค่า Treadwear สูง บ่งบอกถึงอัตราการสึกหรอที่ช้ากว่า สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า ในทางกลับกัน ยางที่มีค่า Treadwear ต่ำ มีอัตราการสึกหรอมากกว่า ทำให้อายุการใช้งานสั้นกว่านั่นเอง

แม้ว่ายางที่มีค่า Treadwear สูงจะมีความทนทานมากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยเนื้อยางที่มีความแข็งกว่า อาจเจอข้อเสียไม่พึงประสงค์ขณะใช้งาน เช่น ยางมีเสียงดัง, แข็งกระด้าง, ไม่เกาะถนน ฯลฯ จึงเหมาะกับรถที่ใช้งานหนัก วิ่งออกต่างจังหวัดเป็นประจำ เพราะช่วยยืดระยะเวลาเปลี่ยนยางออกไปได้

ขณะที่ยางที่มีค่า Treadwear ต่ำ มีความนิ่มของเนื้อยางมากกว่า การยึดเกาะถนนจึงดีกว่า ให้ความเงียบในการใช้งาน แลกมาด้วยอายุการใช้งานที่สั้นกว่านั่นเอง

ค่า Treadwear ไม่ใช่ค่ามาตรฐานสำหรับเทียบแต่ละยี่ห้อ

ตัวเลข Treadwear ของยางแต่ละรุ่นถูกกำหนดขึ้นโดยผู้ผลิตยางเอง ไม่ใช่มาตรฐานของหน่วยงาน หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นยางที่มี Treadwear 400 ของผู้ผลิต A อาจมีการสึกหรอแตกต่างจากยางที่มี Treadwear 400 ของผู้ผลิต B เล็กน้อย

นอกจากนี้ ประสิทธิภาพต่างๆ ของยางแต่ละรุ่น เช่น ความนุ่มเงียบ, ความทนทาน, การยึดเกาะถนน ฯลฯ ยังมีปัจจัยอื่นอีกนอกเหนือจากค่า Treadwear เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ผลิตยาง, การออกแบบโครงสร้างยาง หรือการออกแบบลวดลายของดอกยาง เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องพิจารณาควบคู่กันไปด้วย

เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนเปลี่ยนยางใหม่ด้วยนะครับ

คุณกำลังดู: ยางรถทนทานแค่ไหนดูได้จากเลข Treadwear บนแก้มยาง

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด