ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี?
ตอบปัญหาคาใจ ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี? จะทราบได้อย่างไรว่ายางที่ติดรถหมดอายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยางรถยนต์มีตัวแปรที่หลากหลาย
ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน สภาพเส้นทาง สภาพอากาศและอุณหภูมิ
น้ำหนักบรรทุกและแรงดันลมยาง
ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแปรที่คอยบั่นทอนอายุของยางให้หดสั้นลง
ยางติดรถยนต์ เมื่อผ่านการใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง
ยางจะเริ่มต้นขั้นตอนของการเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ
ตามวันเวลาและระยะทางของการขับขี่ใช้งาน
ยิ่งนานวันเข้ายางก็จะเสื่อมไปเรื่อยจนหมดอายุการใช้งานต้องเปลี่ยนยางใหม่
ปัจจุบัน อายุการใช้งานของยางเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 กิโลเมตร
หรือประมาณ 2-3 ปี เมื่อขับใช้งานตามปกติมีวิ่งใกล้ๆ
สลับกับการออกทางไกล มีขับบนผิวทางที่ขรุขระ ยางจะเริ่มต้นการสึกหรอ
สังเกตจากร่องดอกยางจากที่เคยลึกก็เริ่มตื้น
ไหล่ยางมีร่องรอยของการสึกอย่างชัดเจนเมื่อขับบนเส้นทางที่มีโค้งคดเคี้ยว
หากไม่ใช้รถบ่อยส่วนใหญ่หนักไปทางจอดแช่อยู่กับบ้านไม่ค่อยได้ขับขยับออกทางไกล
ยางที่ครบอายุบางครั้งยังมีดอกลึกราวกับยางใหม่แต่มีเนื้อยางแข็งกระด้าง
จะทราบได้อย่างไรว่ายางที่ติดรถหมดอายุการใช้งาน
ยางที่ใช้งานวิ่งบนทางคอนกรีตบ่อยๆ ด้วยความเร็วสูง ดอกยางจะสึกมากกว่าการขับบนถนนลาดยางด้วยความเร็วต่ำ สภาพอากาศก็มีผลกับอายุการใช้งานของยางติดรถ ในอดีต ยางในเขตร้อนจะมีการออกแบบส่วนผสมในเนื้อยางให้มีความทนทานมากกว่ายางในเขตหนาว แต่ปัจจุบัน นวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ที่ใช้ในการผลิตยางนั้นก้าวหน้าไปไกลมาก ส่วนผสมในเนื้อยางรุ่นใหม่สามารถรับมือกับสภาพอากาศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะร้อนตับแตกในทะเลทราย หรือหนาวเย็นจนเป็นน้ำแข็งในแถบขั้วโลก ยางยุคใหม่ก็สามารถรับมือได้ในทุกสภาพอากาศ จนกว่าจะหมดอายุการใช้
สภาพเส้นทางก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้อายุการใช้งานของยางหดสั้นลง เมื่อบวกกับการขับที่ผิดวิธีก็ยิ่งบั่นทอนทำให้ยางไปเร็วขึ้น ทางที่เต็มไปด้วยโค้งวกไปวนมา ทางแบบภูเขาสูงชันที่มีทั้งเนินขึ้นลงกับทางโค้งวกอ้อมหุบเขา ทำให้คนขับต้องเร่งความเร็ว หักเลี้ยวและเบรกอยู่ตลอดเวลา เส้นทางแบบนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้อายุการใช้งานของยางหดสั้นลงจนน่าตกใจ โดยเฉพาะการขับเร็วในเส้นทางดังกล่าว ยางจะหมดดอกเร็วกว่าขับบนทางราบ ถนนที่โรยด้วยกรวดหยาบ ถนนลูกรัง ถนนที่เทด้วยคอนกรีต ถนนที่ชำรุดเสียหายหรืออยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงก็สามารถทำให้ยางในรถของคุณไปเร็วขึ้นกว่าปกติ
การขับขี่ด้วยความเร็วสูงติดต่อกันยาวนาน เมื่อเจอกับทางโล่งๆ แล้วรถที่คุณขับก็เป็นรถสมรรถนะสูง คงไม่มีใครซื้อรถราคาหลายล้านมาคลานเล่นแน่ๆ เมื่อขับเร็วติดต่อกันนานๆ จะทำให้อุณหภูมิยางสูงขึ้น การออกตัวแรง กระชากออกไปด้วยโหมดสูงสุด ทำให้ยางคุณพังเร็ว การบรรทุกหนักบ่อยๆ ยัดอัดของเข้าไปจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่กำหนด เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว ภาระการรับน้ำหนักทั้งหมดจะตกอยู่กับยาง ทำให้ยางสึกหรอเร็ว ยิ่งบรรทุกหนักแล้วไปเจอทางเขาทางโค้ง แล้วยิ่งขับเร็วยางก็เสื่อมสภาพเร็วเป็นเงาตามตัว
ลมยางมีความสำคัญกับการใช้งาน หากลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้ยางร้อนอย่างรวดเร็ว แก้มยางสึกหรอเสียหาย หนักข้อก็ถึงกับยางร่อนออกจากล้อหรือระเบิด ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เท่ากับค่ามาตรฐานที่กำหนด เมื่อต้องขับออกทางไกลก่อนไปก็เติมลมเผื่อเพิ่มขึ้นอีกนิด ควรเติมลมยางในช่วงที่อุณหภูมิของยางยังไม่สูงมาก ขับออกจากบ้านวิ่งหาที่เติมลมก็ไม่ควรขับซะเร็วจนยางร้อน เติมลมยางแข็งเอาไว้ก่อนนิดๆ จะปลอดภัย แต่ห้ามเติมมากจนเกินไปซึ่งจะเสี่ยงกับการระเบิดอีกเช่นกัน จุ๊บลมที่ใช้งานมานานก็ควรตรวจสอบดูให้ดีๆ ว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมใช้
ระยะการเปลี่ยนยางใหม่ บางคนลากไปถึง 5-6 หมื่นกิโลเมตร
มันใช้งานได้ก็จริง แต่ความปลอดภัย ร่องดอกยาง โครงสร้างแก้มยาง
คงไม่เหมือนยางที่สดใหม่ ยางเป็นอุปกรณ์สำคัญ
หากทำงานผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิต
เมื่อเห็นว่าได้เวลาที่จะต้องเปลี่ยนก็อย่าไปเสียดายเงิน
แนะนำเปลี่ยนยางใหม่ไปเลยไม่ควรใช้ยางเปอร์เซ็นต์ราคาถูก
ระยะที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนประมาณสี่หมื่นกิโลเมตร บวก-ลบ มากน้อย
ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน
เลือกยางให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพและรูปแบบของรถจะทำให้ควบคุมทิศทางได้ดีขึ้นแถมยังช่วยประหยัดน้ำมันถ้าล้อไม่ใหญ่จนเกินไปและใช้ยางประเภทลดแรงเสียดทานที่เน้นการประหยัดเชื้อเพลิง.
ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี?
หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์