10 ข้อ กันโง่! เมื่อคิดจะซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง
คนที่โดนหลอกส่วนใหญ่ก็เนื่องจากความไม่รู้ หรือรู้ไม่เท่าทันเล่ห์กลของคนคิดไม่ซื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนๆ ยิ่งกรณีซื้อ-ขายสินค้ามือสองที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน รถ สินค้าแบรนด์เนม ฯลฯ ก็มักจะโดนหลอกกันได้ง่ายๆ อย่างช่วงนี้กระแสมอเตอร์ไซค์กำลังอินใครๆ ก็ถอยมาขี่กัน ตลาดมอเตอร์ไซค์มือสองก็คึกคัก พร้อมกับมีกรณีฉ้อโกง ย้อมแมว ให้เห็นอยู่เนืองๆ
ดังนั้นหากคุณคิดจะซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง แต่ไม่ได้เป็นเซียน หรือกูรูที่รู้เรื่องมอเตอร์ไซค์ชนิดหลับตาคล่ำก็หยั่งรู้ได้ละก็ มาดู 10 ข้อต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้คุณไม่โดนหลอก และได้มอเตอร์ไซค์ที่ใช่มีคุณภาพไปไว้ในครอบครอง
10 ข้อ กันโง่! เมื่อคิดจะซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง
1. ตรวจสภาพภายนอก
ขั้นตอนแรกของการซื้อหาของมือสอง
ก็คือการตรวจสอบสภาพภายนอก โดยรถมอเตอร์ไซค์
ต้องดูสภาพก่อนว่าพอใจหรือถูกใจขนาดไหน
ถ้าถูกใจก็เข้าไปดูรายละเอียดกันต่อถึงเรื่องร่องรอยต่างๆ
ซึ่งร่องรอยที่ว่านี่คือร่องรอยของการล้มนะครับ ไม่ใช่รอยขูดขีดเล็กๆ
น้อยๆ เพราะบางที่แค่รอยขูดขีดอาจทำให้คุณพลาดสภาพภายในเจ๋งๆ ก็ได้
ร่องรอยของการล้มนั้นสามารถดูได้จากจุดที่ล้มแล้วจะโดนพื้นก่อน เช่น
แฮนด์ แฟริ่งข้าง พักเท้า พวกนี้เวลาล้มแล้วจะโดนพื้นก่อนเสมอ
แต่การล้มอย่างนี้เพียงอย่างเดียวก็เป็นการล้มแบบไม่หนักมาก แค่ไถลๆ
เปลี่ยนอะไรใหม่ก็ดูดีเหมือนเดิม
แต่สิ่งที่อยากให้สนใจเป็นพิเศษ คือ ตรวจสอบตัวถังรถว่ามีรอยเชื่อมใหม่มาหรือไม่ โช้กอัปหน้า-หลังมีการคดไหม สวิงอาร์มเป็นอย่างไร พวกนี้จะเกี่ยวกับการชน หรือล้มหนักๆ มาแล้ว ซึ่งสามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจจะกระเทือนถึงเครื่องยนต์ได้ และเราก็ไม่ควรเสี่ยงเลือกรถคันนี้มาครอบครอง
2. ตรวจสภาพเครื่องยนต์ (เบื้องต้น)
การตรวจดูสภาพเครื่องยนต์เบื้องต้นนั้นช่วยในการตัดสินใจได้พอสมควร
ซึ่งทำได้โดยการซักถามข้อมูลจากตัวเจ้าของรถเช่น เคยชน
หรือล้มมาหรือไม่? เคยเปลี่ยนอะไรภายในอะไรบ้าง?
ปกติเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ กี่กิโลเมตร
หรือครั้งสุดท้ายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไร?
เครื่องยนต์ตัวนี้กินน้ำมัน น้ำมันเครื่องบ้างรึเปล่า?
จากนั้นก็เอาข้อมูลนั้นมาประกอบกับการดูด้วยตาของเราเองอีกครั้ง เช่น
มีรอยการเปิดฝาสูบมาหรือไม่
โดยให้ดูที่รอยต่อระหว่างฝาสูบกับเสื้อสูบว่ามีรอยของกาวแดง
หรือร่องรอยที่ผิดปกติ (รอยใหม่ๆ) ส่วนที่ตีนเสื้อสูบก็ตรวจดูเช่นกัน
และดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเยิ้มมาก่อนหรือไม่
ส่วนรถที่มีหม้อน้ำก็ดูรอยน้ำรั้วที่จุดข้อต่อต่างๆ รอยน้ำสนิมที่เป็นคราบในจุดต่างๆ ซึ่งรอยเหล่านี้นอกจากบอกให้เรารู้ว่าเคยมีรอยน้ำรั่วที่ใดบ้าง ในส่วนคาร์บูเรเตอร์ก็สังเกตว่าแห้งดีหรือไม่ มีกลิ่นน้ำมันโชยออกมามากรึเปล่า แต่ถ้าเป็นเครื่องหัวฉีดก็ผ่านไปครับดูด้วยตาเปล่าลำบาก พวกนี้ต้องจับปลั๊กเช็กเอา
3. ตรวจระบบเบรก
เบรกถูกใช้งานหนักพอๆ
กับเครื่องยนต์
การตรวจดูก็เริ่มจากการสังเกตท่อทางน้ำมันเบรกว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
ตรงนี้สามารถบอกได้ว่าเจ้าของเอาใจใส่ดูแลรถดีแค่ไหน
เพราะระบบเบรกเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก
ซึ่งเกี่ยวกับความปลอดภัย ถ้าระบบนี้ไม่ได้ถูกดูแล
ก็บ่งบอกว่าเจ้าของเก่านั้นไม่ได้รักษารถเท่าที่ควรแล้วจะหวังให้ไปดูแลเรื่องเครื่องยนต์
บอกเลยว่ายากครับ
จากนั้นก็ตรวจเช็กพวกคาลิเปอร์เบรกกันว่ามีรอยกระแทกมั้ย
เพราะอาจทำให้คาลิเปอร์เบี้ยวได้
ทีนี้ก็มาดูที่จานเบรกกันต่อว่ามีร่องรอยอะไรบางไหมเช่น จานคด จานไหม้
เพื่อนำข้อมูลไปต่อราคา (ถ้าชอบคันนี้จริงๆ นะ)
พอดูด้วยตาเปล่าเรียบร้อยก็ลองหมุนล้อดูว่าเบรกมีการติดขัดอะไรหรือไม่
แล้วก็ลองเบรกดูทั้งล้อหน้า-ล้อหลัง ว่ามีเสียงอะไรผิดหูมั้ย
ส่วนถ้าจะลองว่าเบรกลื่น เบรกได้ไหม อันนี้ต้องลองขับแล้วเบรกดู
เพราะเรื่องเบรกต้องดูกันให้ดี
4. ตรวจช่วงหน้า - หลัง
ช่วงหน้าในที่นี้เหมารวมหมด ตั้งแต่วงล้อ ยาง โช้กอัป ไฟหน้า ไฟเลี้ยว แผงคอ ฯลฯ พูดง่ายๆ คือ ครึ่งรถช่วงหน้าทั้งหมด ถามว่าดูทำไม? ก็ต้องบอกว่ามันต่อเนื่องจากการตรวจระบบเบรกหน้าครับ บางคันเบรกแน่น แต่ขายึดคาร์ลิปเปอร์เบี้ยวนิดเดียว ขับไปๆ เบรกก็ไม่อยู่ กินผ้าเบรกข้างเดียว แค่เรื่องเล็กๆ ก็อาจเป็นหายนะครั้งใหญ่ได้ ดังนั้นตรวจสอบให้ละเอียดเอาไว้ก่อนดีกว่า ลองโยกแผงคอดูว่าลูกปีนคอเป็นยังไงบ้าง ซีลโช้กอัปรั่วมั้ย ส่วนด้านหลังก็เช่นกัน โช้กอัปหลังของเดิม หรือเปลี่ยนมา ถ้าเป็นรถไม่เกิน 2 ปี แล้วมีการเปลี่ยนโช้กอัปใหม่ก็กระไรอยู่
5. ตรวจเรือนไมล์และระบบไฟ
ดูเรือนไมล์ว่าเป็นของตรงรุ่นไหม เป็นของที่เปลี่ยนมาใส่ใหม่หรือเปล่า จากนั้นก็เปิดสวิตช์ ON ดูว่าไฟบอกสัญญาณทำงานทั้งหมดไหม หรือถ้ามีไฟเตือนอะไรขึ้นมาก็ต้องถามสาเหตุที่มาให้แน่นอนและชัดเจนครับ ไม่งั้นจะต้องมานั่งเสียค่าโง่เจ็บใจกันเปล่าๆ ยิ่งพวกบิ๊กไบค์นี่อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ กล่องไฟตัวหนึ่งแพงเอาเรื่องทีเดียว
6. ตรวจตัวถัง
ลองดูรอยบุบของโครง โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้ๆ ตำแหน่งรอยเชื่อม ให้ดูว่ามีรอยร้าวของรอยเชื่อมหรือไม่ เพราะในตำแหน่งใกล้รอยเชื่อมมันอันตรายหากเกิดการกระแทก อีกส่วนที่ควรตรวจดูคือ บริเวณรอยเชื่อมระหว่างโครงรถกับคอรถ ตรวจดูว่ารอยเชื่อมนั้นมีสีกระเทาะออกมาเหมือนโดนกระแทกมาหรือเปล่า ถ้ามีก็อาจจะชนมาจนคอเสียศูนย์ไปแล้ว (อันนี้ต้องลองขี่ดูนะครับ)
7. ตรวจสายยาง, สายไฟต่างๆ
ให้ตรวจดูสายยาง ท่อ
และสายไฟต่างๆ ดูว่ามีรอยชำรุด หรืออยู่ในสภาพใด
ให้สังเกตว่าถ้ารถไม่เกิน 2-3 ปี พวกสายยาง ท่อ
และสายไฟยังไม่ถึงอายุของมัน
ถ้ามีการเปลี่ยนมาก็ให้ถามถึงสาเหตุที่เปลี่ยน และในส่วนสายไฟนั้น
ให้ตรวจดูความเรียบร้อยของการเดินสายด้วย
ในรถที่มีหม้อน้ำให้ลองบีบท่อน้ำดูว่ากรอบหรือแข็งหมดสภาพรึเปล่า
8. ตรวจท่อไอเสีย
บริเวณคอท่อไอเสียกับปะเก็นท่อไอเสีย ดูว่าน็อตคอท่ออยู่ครบหรือหรือถูกเปลี่ยน เพราะส่วนมากจะมีปัญหาบริเวณนี้ จากนั้นดูสภาพของท่อไอเสีย โดยดูจากสนิมที่กิน เนื้อเหล็ก ไล่ตั้งแต่คอท่อ จากนั้นก็ไปดูที่ปลายท่อว่ามีอะไรเยิ้มเกาะมากไหม เพราะมันแสดงถึง สภาพเครื่องยนต์ได้ โดยส่วนมากเจ้าของก็จะเช็กมาแล้วแต่ยังไงก็ต้องมีคราบให้เห็นอยู่บ้าง เพียงแต่อย่าขี้เกียจก้มดูก็แล้วกัน
9. โซ่, สายพาน, เพลาท้าย
ระบบส่งกำลังนอกจากจะถามเจ้าของถึงการเปลี่ยนแปลงหรือซ่อมบำรุงแล้ว
ก็ต้องตรวจดูด้วยตัวเองควบคู่กันไปด้วย อย่างโซ่ก็ต้องดูทั้งระบบ
ซึ่งหมายถึงสเตอร์หน้า - หลัง ว่าสึกหรอไปมากน้อยขนาดไหน
ส่วนถ้าเป็นรถสายพานก็เปิดช่อง
เช็กสายพานออกมาดูว่าสายพานมีสภาพเป็นอย่างไร ยึดไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
หรือถ้าเป็นแบบเพลาขับ - เฟืองท้าย
ก็ต้องถามถึงการเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายครั้งล่าสุดรวมถึงเปิดดูสีและระดับน้ำมันจริงด้วย
10. ถึงเวลาลองเครื่อง
ขอเขาลองสตาร์ทเครื่องดู ลองฟังเสียงดูว่ามีเสียงแปลกออกมาหรือแหลมออกมาไหม ถ้าไม่แน่ใจลองบิดเร่งรอบ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเบิ้ลเครื่องอย่างรุนแรง ส่วนมากถ้าเครื่องสะอาด (เครื่องไม่เคยถูกเปิด) ก็มักจะมีแค่เสียงวาล์ว คราวนี้ลองขับดูครับ เพราะการลองขับนั้นตรวจสอบได้หลายอย่างมาก ตั้งแต่เรื่องเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก โช้กอัป ฯลฯ เอาเป็นว่าก่อนจะซื้อต้องลองขี่ดูให้ได้ครับ หากไม่สามารถทดลองขับได้ก็อาจต้องหลีกเลี่ยงคันนั้นไป อีกเรื่องที่สำคัญเรื่องทะเบียนครับ จะโอน จะจ่ายเงิน หรือจะโอนลอยก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก แต่ต้องตรวจเอกสารดูให้ดี ระวังไปเจอรถขโมย รถเถื่อน เดี๋ยวงานงอก แล้วจะหาว่าไม่เตือนกัน
จริงๆ แล้วรถมือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ของคนชอบเล่นรถ ด้วยราคาที่น่าสนใจ การเติมแต่งที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ และเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่หาไม่ได้ในรถใหม่ป้ายแดง แต่ทั้งนี้คุณก็ต้องเลือกให้ดี ดูให้เป็น ทางที่ดีลองนำ 10 ข้อนี้ไปพิจารณาดูครับ รับรองว่าช่วยได้แน่นอน
คุณกำลังดู: 10 ข้อ กันโง่! เมื่อคิดจะซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง
หมวดหมู่: รถยนต์