7 สัญญาณอันตราย เหนื่อยล้าจนไม่ไหวทั้งกายและใจ
เคยเป็นกันไหม ปากบอกไหว แต่ร่างกายและจิตใจไปในทางตรงกันข้าม มาสำรวจตัวเองกันว่ายังปากแข็งไม่ไหวบอกไหวอยู่หรือเปล่า
ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่ข้างในไม่ไหวแล้ว หรือใจน่ะเศร้าแต่ก็ยังฝืนยิ้มฝืนหัวเราะไป อยากจะบอกว่าอย่าฝืนเลยถ้ารู้สึกเศร้า ก็ปลดปล่อยมันออกมา ไม่ต้องทนหรือเก็บมันเอาไว้ไม่ว่าจะเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว เรื่องเรียน เรื่องงาน ถ้าเก็บเอาไว้ก็มีแต่จะทำร้ายตัวเอง และร่างกายก็จะแสดงออกด้วยอาการแปลก ที่คุณเองก็จะสังเกตได้ว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม ลองมาสำรวจกันไหมว่าคุณมีครบทั้ง 7 อาการเลยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรีบดูแลตัวเอง และหัวใจของคุณเองแบบด่วนๆ เลย
- อารมณ์เสียบ่อยเกินไป
ถ้าคุณต้องอยู่กับความเศร้าเป็นเวลานานๆ สภาพจิตใจของคุณจะไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับเรื่องราวที่ซับซ้อนในชีวิตได้ ความอดทนคุณจะต่ำลง และคุณจะรู้สึกท้อใจได้โดยง่าย นั่นคือความผิดปกติทางอารมณ์อันมาจากความเศร้าที่เกาะกินอยู่ในใจคุณนานเกินไป มันเหมือนกับคุณแบกรับภาระอันหนักอึ้งเอาไว้บนสองบ่า พอเจอฟางเส้นสุดท้ายอารมณ์ของคุณก็พร้อมที่จะปริแตกลงมาทันที
- คุณรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด
เวลาที่ความเศร้าเกาะกุมจิตใจคุณ แม้ว่าจะไม่มีงานให้ทำมากนักแต่ทำไมคุณรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างรอบตัวดูจะไม่เหมือนปกติธรรมดาที่เคยเป็น คุณพยายามที่จะเรียกความรู้สึกตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ก็ทำได้ยากเต็มที และที่สำคัญคุณรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด นั่นเป็นเพราะความเศร้าอยู่กับคุณนานเกินไป และมันค่อยๆ กัดกินความรู้สึกของคุณไปช้าๆ จนทำให้คุณรู้สึกว่าเรื่องราวรอบตัวนั่นแสนน่าเบื่อจนทำให้คุณไม่มีพลังจะทำอะไรต่อได้
- พูดจาช้าลง
เมื่อคุณอยู่กับความเศร้า คุณจะไม่รู้สึกอยากพูดคุยกับใคร และทำให้คุณเบื่อหน่ายที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น เมื่อต้องเริ่มบทสนทนากับใครคุณจะตอบเขาได้ช้าลงกว่าปกติ และคุณจะรู้สึกได้ว่าคุณไม่สนุกไปกับบทสนทนา ที่ครั้งหนึ่งคุณเคยเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณต้องเผชิญหน้ากับความเศร้า ทำให้คุณยังไม่อยากพูดอะไรกับใคร คุณต้องการเวลา เพื่อเยียวยาสถานการณ์ในชีวิตให้ดีขึ้น
- คุณรู้สึกปวดหลัง
กระดูกสันหลังก็เหมือนโครงสร้างหลักของร่างกายที่ต้องคอยรองรับ พฤติกรรมและความรู้สึกทางอารมณ์ของคุณ เมื่อคุณมีความรู้สึกเศร้า ความรู้สึกกดดันจะถูกส่งไปที่กระดูกสันหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหลัง หรือมีอาการปวดหลังเรื้อรัง อาการจะเริ่มที่ละนิดจากส่วนท้ายของหลัง ก่อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงช่วงไหล่และคอ
- มีปัญหาเรื่องการนอน
การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอน และถ้าคุณมีเรื่องให้ทุกข์ใจการนอนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกลับมาพลังเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าคุณต้องเจอเรื่องที่เศร้าใจ และต้องอยู่กับมันเป็นเวลานานๆ ปัญหาเรื่องการนอนจะเป็นปัญหาหลักที่คุณต้องเผชิญ หรือถึงจะนอนหลับได้ตามปกติก็เป็นการนอนที่ไม่ดีพอ และทำให้คุณรู้สึกเหมือนไม่ได้พักผ่อนเมื่อตื่นขึ้นมา
- คุณรู้สึกปวดหัวตลอดเวลา
ความรู้สึกปวดหัวแทบจะเป็นสัญญาณแรกๆ สำหรับคนที่ต้องเจอเรื่องเศร้าและต้องยุ่กับเรื่องดังกล่าวเป็นเวลานานๆ เมื่อใจเราเศร้า จะส่งผลกระทับไปยังความรู้สึกนึกคิดของคุณ ทำให้คุณไม่รู้สึกมีความสุขเลย คุณอาจจะเริ่มมีอาการปวดหัวจากต้นคอ แล้วค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ และถ้าคุณยังคงปล่อยให้ใจจมอยู่กับความเศร้านานขึ้นเรื่อยๆ นอกจากปวดหัวแล้วคุณจะมีผมร่วงตามมา
- จากที่เคยเดินกระฉับกระเฉงคุณจะกลายเป็นคนที่เดินช้าลงและลากเท้าไปเรื่อยๆ
ลองนึกถึงเวลาที่ใจคุณเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ ความรู้สึกกระฉับกระเฉงของคุณจะลดลงทันที สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัดเจนเวลาที่คุณรู้สึกเศร้า คุณจะเดินลากเท้าไปอย่างช้า ไม่ใช่การเดินแบบปกติที่คุณเคยทำเป็นประจำ เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณต้องรีบหาสาเหตุที่แท้จริงของความรู้สึกเศร้าที่เกาะอยู่ในอารมณ์ของคุณเอง และจงอย่าได้รู้สึกอายที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
คุณกำลังดู: 7 สัญญาณอันตราย เหนื่อยล้าจนไม่ไหวทั้งกายและใจ
หมวดหมู่: สุขภาพใจ-สมอง