จุดยืนชัดเจน! "ONE ลุมพินี" ย้ำชัดความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นไปตามมาตรฐานสากล
ONE ลุมพินี
รายการกีฬาต่อสู้ที่ยกระดับมาตรฐานมวยไทยให้ก้าวไปถึงระดับโลก
ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมทั่วโลกมาด้วยดีตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ท่ามกลางการแข่งขันที่เต็มไปด้วยสนุก ดุเดือด เร้าใจ
ในอีกมุมหนึ่งก็มีเสียงสะท้อนจากผู้ชมบางส่วน
ถึงความกังวลด้านความปลอดภัยของนักกีฬา
จากการเห็นนักกีฬาใช้นวมขนาดเล็ก 4 ออนซ์ที่ใช้ในแข่งขัน MMA
มานานหลายสิบปี แต่สำหรับคนไทยกลับเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่
ความปลอดภัยของนักกีฬาจัดเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรกที่องค์กรศิลปะการต่อสู้
ONE คำนึงถึง
โดยก่อนชกนักกีฬาต้องผ่านการตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพพร้อมแข่งขัน
รวมถึงการชั่งน้ำหนักที่ต้องผ่านเกณฑ์การรักษาระดับน้ำในร่างกายด้วย
“เปรม-อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์” กรรมการผู้จัดการ วัน แชมเปียนชิพ
ประเทศไทย อธิบายเรื่องนี้ว่า
“นักกีฬาที่จะได้ชกใน ONE ลุมพินี ต้องส่งผลเลือด การตรวจ HIV
และค่าของตับมาก่อน ถ้าสิ่งเหล่านั้นผ่าน
ทุกคนจะต้องมาที่โรงแรมเก็บตัวในเช้าวันพุธ
จากนั้นจะส่งตัวนักกีฬาไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล เช่น
การตรวจ CT Scan เช็คสมองเพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติไหม”
“มีการตรวจหัวใจ รวมไปถึงการตรวจม่านตา โดยใช้แพทย์เฉพาะทางดูแล
เพื่อเช็คการตอบสนองของม่านตาเป็นอย่างไร
หากมีความผิดปกติแม้แต่เล็กน้อย ก็จะไม่สามารถชกได้
เพราะสิ่งที่สำคัญสุดที่เราคำนึงถึง คือ ความปลอดภัยของนักกีฬา”
ขณะเดียวกัน “จิติณัฐ อัษฎามงคล” ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย
เผยว่าตนทราบดีถึงข้อกังวลของผู้คนในวงการมวยไทยบางส่วน
ที่มองว่าการใช้นวมเล็กมีความอันตรายสูง ไม่ปลอดภัยต่อนักกีฬา
และอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
แต่ในความเป็นจริงนวมเล็กไม่ได้มีอันตรายมากกว่านวมใหญ่อย่างที่บางคนคิด
“นวมขนาด 4 ออนซ์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมกีฬาต่อสู้ มีการใช้มา
20-30 ปี คนมักเข้าใจว่านวมเล็กทำให้หมัดหนักขึ้น
ถูกนำใช้เพื่อให้การแข่งขันดูมีความรุนแรงและอันตรายขึ้น
แต่ความจริงในผลงานวิจัย
มุมหนึ่งชี้ว่านวมเล็กมีความปลอดภัยมากกว่าด้วยซ้ำ
เนื่องจากแรงกระแทกและน้ำหนักหมัดที่กระทบ
รวมถึงอาการเหวี่ยงของสมองนั้นมีน้อยกว่านวมใหญ่”
“นวมเล็กนั้น อาจทำให้เกิดแผลแตกภายนอกง่าย เพราะนวมบางและแข็งกว่า
และมีโอกาสเกิดจังหวะน็อกได้มากกว่านวมใหญ่
แต่อย่าลืมว่านวมใหญ่นั้นสร้างความบอบช้ำสะสมต่อสมองมากกว่า
อาการมือเจ็บ หรือมีแผลแตก สามารถรักษาไม่นานก็หายกลับมาชกได้
แต่สมองถ้าได้รับความบอบช้ำสะสม จะอันตรายต่อนักกีฬาในระยะยาว”
ด้าน “เปรม อริยะวัฏ”
ในอีกฐานะที่เป็นผู้จัดการนักกีฬามืออาชีพระดับโลกหลายคน เสริมว่า
การใช้นวม MMA ให้ถูกต้อง ต้องกำหมัดให้แน่น
โดยนักกีฬาต้องฝึกฝนให้คุ้นชิน
ไปจนถึงการมุ่งเน้นที่ความแม่นยำเข้าเป้า มากกว่าการออกแรงชก
ซึ่งจะทำให้การใช้นวม 4 ออนซ์ มีประสิทธิภาพมากกว่า
“ผมเคยสอบถามน้องโอ๋ (แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต)
ว่าการใช้นวมเล็กชกมวยไทยแตกต่างกับนวมใหญ่ขนาดไหน น้องโอ๋
ตอบว่าไม่ต่างกัน ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝน นวมเล็กอาจป้องกันได้ยาก
เพราะหมัดหลุดรอดไปได้ง่าย แต่นั่นก็ทำให้นักชกต้องปรับตัว
ฝึกการป้องกันตัวมากขึ้น มีการโยกหลบมากกว่าจะตั้งการ์ดยืนรับหมัด
แบบตอนชกมวยไทยด้วยนวมใหญ่”
“อีกอย่างนักมวยไทย ควรต้องปรับตัวกับการใช้นวมเล็ก
เพราะหลายคนเคยชินกับการกำหมัดไม่แน่นตอนใ่ส่นวมใหญ่
และถ้าคนที่ฝึกฝนจนชำนาญจะรู้ว่า การออกหมัดไม่จำเป็นต้องใส่แรง 100%
เหมือนตอนชกนวมใหญ่ เพราะแรง 60-70 % ที่ชกเข้าเป้า
ก็สามารถหยุดคู่ต่อสู้ได้แล้ว”
นอกจากมาตรฐานในเรื่องของการตรวจสุขภาพนักกีฬาอย่างละเอียดก่อนแข่งขัน
ซึ่งเป็นการกลั่นกรองสภาพร่างกายและความพร้อมของนักกีฬาได้แล้ว ONE
ลุมพินี
ยังใช้พื้นเวทีมาตรฐานสูงที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะกับการใช้งานเพื่อการแข่งขันกีฬาต่อสู้
ซึ่งสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาการต่อสู้ดูแลตลอดระยะเวลาการแข่งขัน
รวมถึงผู้ชี้ขาดบนเวทีที่สามารถพิจารณาตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวที
ที่สำคัญคือการดูแลค่ารักษาพยาบาลหลังชก ซึ่งทำให้นักกีฬาอุ่นใจได้ว่า
ค่าตอบแทนที่ได้รับจะยังอยู่ครบถ้วน
แม้จะต้องมีการรักษาอาการบาดเจ็บมากหรือน้อยจากการแข่งขันก็ตาม
แฟน ๆ สามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE
Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม
ONEChampTh
คุณกำลังดู: จุดยืนชัดเจน! "ONE ลุมพินี" ย้ำชัดความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นไปตามมาตรฐานสากล
หมวดหมู่: มวย