เจนนี่ ได้หมดฯ เคลียร์ดราม่าสัญญาทาส บังคับเด็กในสังกัด เจ้าของค่ายรวยคนเดียว?

ขยับตัวไปทางไหนก็กลายเป็นดราม่าไปหมด สำหรับนักร้องมากความสามารถและเจ้าของค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น อย่าง เจนนี่ รัชนก ซึ่งดราม่าล่าสุดคือเงื่อนไขในการต่อสัญญาศิลปินในค่าย ที่บอกว่าต้องทำยอดวิวบนยูทูบได้ถึง 10 ล้านวิว และเสนอช่องทางอื่นคือการไลฟ์ขายครีมควบคู่ไปด้วย

ล่าสุด เจนนี่ ได้ควงสามีหนุ่ม ยิว ฉัตรมงคล มางานเปิดตัวแบรนด์ DD เจนนี่ DD Body Cream ที่เธอนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์นี้เอง ณSRP 5 สตูดิโอ และได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจหมดเปลือก พร้อมเคลียร์ถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เรื่องค่ายเพลงมีออกมาหลายกระแสมาก?

ที่ทุกคนบอกว่า เจนนี่บังคับให้เด็กเซ็นสัญญา มันไม่จริงเลยนะคะ มันเป็นเพียงพาดหัวข่าว ถ้าทุกคนเข้าไปอ่านแล้วทุกคนจะเข้าใจว่า ถ้าเด็กได้ 10 ล้านวิว จะต่อหรือไม่ต่อก็ได้ คือตั้งใจทำซีซั่นนี้ อยากให้โอกาส 100% ไม่ได้หวังผลกำไร

ถามว่าทำไมต้อง 10 ล้านวิว คือ 10 ล้านวิวไม่ได้เงินกลับมาเป็นหลักล้านนะคะ ได้แค่หลักแสนสองแสน แต่หนูต้องการให้มีเงินทุนหมุนเวียนมั่ง ไม่ใช่เรายิ่งทำแล้วเรายิ่งแย่ มันจะเข้าเนื้อเราไปเรื่อยๆ เลยคิดว่า งั้นเรามาทำโปรเจกต์ 10 ล้านวิวกันดีกว่า

หลายคนมองว่าระยะเวลามันน้อยไปหรือเปล่า?

2 เดือนน้อยค่ะ เพราะมันจะหมดสัญญาแล้วด้วย เลยต้องทำใจกันตรงนี้ ถามว่าทำไมเจนนี่ถึงต้องมาประกาศให้คนรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะถ้าเราประชุมกันแค่เราหลังบ้าน แน่นอนว่าเราไม่มีกระแส เด็กๆ ก็ไม่เกิด เจนนี่อาจจะโดนด่านิดหน่อยให้คนเข้ามาอ่าน แต่อย่างน้อยเด็กๆ อาจจะได้แจ้งเกิดกับผลงานต่อไปนี้ก็ได้ค่ะ

ที่ผ่านมาเด็กคนหนึ่งจะต้องลงทุนเท่าไร?

1-3 แสนบาทต่อเพลง ไม่รวมค่าไปออกคอนเสิร์ต แล้ว 8 คนนี้ เจนนี่ตั้งใจว่า 10 คิวแรกที่น้องจะไปโชว์ตัว จะให้ไปเล่นฟรี เจนนี่ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั่วประเทศไทยค่ะ

อันนี้เป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกกับน้องๆ หรือเปล่า?

มันเป็นเหมือนข้อเสนอเพิ่ม เพราะเอาจริงๆ อีก 2 เดือน ทุกคนก็จะหมดสัญญา แต่ข้อเสนอที่เจนนี่แนะนำให้ครั้งนี้ เหมือนเป็นการเสนอทางเลือกให้น้องมีโอกาสได้ดังขึ้นมา

พอเจนนี่บอกว่าน้องๆ อีก 2 เดือนสัญญาหมด มีน้องๆ ประมาณ 80% ที่ทักมาว่า ผมไม่อยากไปไหน ผมอยากอยู่กับพี่ เพราะเขามาทางนี้แล้ว เขาขออยู่ต่อ ถ้าคุณอยากจะอยู่ต่อจริงๆ คุณจะต้องแสดงศักยภาพให้เราเห็น มาช่วยกันทำให้เพลงนี้มันดัง แต่ถ้ามันไม่ดังแล้ว สุดๆ แล้ว เดี๋ยวมารอดูว่า หลังเพลงออก พอหมดสัญญาแล้วจะไปทางไหนต่อ เพราะเราไม่ใช่คนใจร้าย

ระหว่าง 2 เดือนที่ทำภารกิจนี้ มีคำแนะนำน้องๆ ยังไงบ้าง?

ทุกคนต้องแสดงตัวตนให้มากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้นักร้องที่เขาไม่มีค่ายหรือนักร้องอิสระ ทุกคนสามารถดังได้ด้วยตัวเอง แค่ทุกคนขยัน ยิ่งถ้าเรามีคนซัพพอร์ต เราจะต้องทำให้มากกว่าเดิม เพราะถ้ารอแค่เจนนี่ เจนนี่ ก็จะไม่ทันเนาะ เราต้อง 50/50 เลยค่ะ อยากให้ทุกคนช่วยในการไลฟ์สด ปั่นกระแสตัวเอง ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีตัวตนก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าคนไม่ดัง เพลงก็ดังยากเหมือนกัน

หากยอดครบ 10 ล้านวิว เราจะถามความสมัครใจในการต่อสัญญากับเด็กๆ อีกไหม?

ถามแน่นอนค่ะ เพราะถ้าใครไม่อยากไปต่อ เราก็ยินดีค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กล้วนๆ แต่นี่ไม่มีสิ่งไหนเลยที่เจนนี่บังคับ เราอยากให้ทุกคนรู้ว่าการทำค่ายเพลง มันเป็นอะไรที่เราต้องทุ่มเททุ่มใจ ลงทุนไปเยอะมากเหมือนกัน ตอนนี้ที่อยู่กันทั้งหมด 12 คนที่เจนนี่ดูแลอยู่

คำครหาต่างๆ ที่เป็นดราม่า กับข้อสัญญาที่เจนนี่บอก คนมองว่ามันเป็นการทำนาบนหลังคน?

ทำนาบนหลังคนน่าจะมาจากที่เจนนี่ให้น้องๆ ขายดีดีครีม และให้ออเดอร์ละ 50 บาท คือเจนนี่แค่เสนอทางเลือกให้น้องๆ บางคนที่มีทั้งคนที่พ่อแม่ป่วย รายได้ไม่เพียงพอ เราก็บอกว่ามาขายสินค้าพี่ไหม ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย พี่ส่งให้แพ็กให้ พี่ให้ออเดอร์ละ 50 บาท

เจนนี่มองว่าคนที่เขาอยากจะได้โอกาสตรงนี้ ตัวแทนจำหน่ายเขาจะต้องมาเปิดบิลอย่างน้อย 2,500 เขาถึงจะได้ขายของเรา แต่เราอยากให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการขายฟรี ใครจะขายก็ได้ ไม่ขายก็ได้ แต่น้องลิลลี่เป็นคนเสนอว่า ถ้าน้องเขาขายได้เป็นหมื่นหลอด แล้วเขาช่วยกัน เราจะต่อสัญญาได้ไหม เราก็บอกว่าโอเค ถ้าทุกคนทำได้ อยากได้ข้อเสนอตรงนั้น เราก็เพิ่มข้อเสนอให้อีก

พอเราเพิ่มข้อเสนอ เราพูดออกไป บางทีคนที่ไม่ได้เสพข่าวจริงๆ จะดราม่าว่า สุดท้ายก็ให้ขายของตัวเอง แต่ถ้าเจนนี่ไปเปิดบิลบ้านคนอื่นมาให้น้องได้ไหม ก็ได้ แต่ถ้าขายไม่ได้ นั่นแปลว่าเราก็ขาดทุนอีก เพราะตอนนี้เจนนี่ไม่ได้มีของติดตัว เราต้องไปขอซื้อกับตัวแทนในกลุ่ม เพื่อมาส่งให้น้องๆ เอง เพราะเราไม่มีของแล้ว

เหมือนเป็นการเพิ่มอาชีพ เพิ่มความสามารถให้น้องๆ ดีกว่า เพราะการที่เป็นนักร้องดังทุกวันนี้มันยากแล้ว ถ้าจะเป็นนักร้องทางเดียวแล้วไม่ดัง ก็เหมือนชีวิตจะทำมาหากินทางอื่นไม่ได้ เราก็มอบช่องทางการทำมาหากินในอนาคตให้น้องเขา ก็เป็นโอกาสที่ดีมาก

หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมเจ้าของค่ายถึงรวยอยู่คนเดียว?

อยากจะให้ทุกคนมองเห็นว่า เจนนี่ไม่ได้ทำแค่อย่างเดียว ทุกวันนี้หนูรีวิวสินค้า พิธีกร เล่นละคร รับจ้าง ร้องเพลงงานคอนเสิร์ต งานเลี้ยงอะไรเอาหมด เพราะเราคิดว่าถ้ารอแค่งานร้องเพลง เราก็ไม่รอดเหมือนกัน เรามีครอบครัวที่ต้องดูแล ยืนยันว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งเด็ก แต่เป็นการยื่นโอกาสใหม่ๆ

แต่จริงๆ ถ้าสัญญาหมด เจนนี่ก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน เพราะพอทำค่าย ทำดีเราก็ไม่ค่อยได้ดี เพราะคนตัดสินเราจากเรื่องเก่าๆ แต่พอทำไม่ดีก็จะโดนด่า อย่างเช่นถ้าไม่ต่อสัญญาก็จะมองว่าเราทิ้งเด็ก แต่ถ้าต่อสัญญาแล้ว อยู่ไปแล้วไม่ดังขึ้นอีก เราก็จะโดนด่า คือการทำค่ายเพลงของเจนนี่มันใช้ใจ แล้วต้องทุ่มเทจริงๆ ที่จะต้องทำต่อ

ที่ผ่านมาควักเงินมาทุ่มกับค่ายนี้เยอะไหม?

เกือบ 10 ล้านค่ะ ทั้งที่อยู่ที่กินแล้วก็สร้างค่ายใหม่ ตึก 20 ล้าน เพื่อให้น้องๆ มีที่อยู่ที่กินที่ดีขึ้น เพราะเราเคยมีดราม่าเรื่องที่นอน ว่าเด็กนอนไม่สบาย แต่เจ้าของค่ายนอนห้องแอร์สบาย เราก็ทำให้ อย่างที่บอกว่าอันไหนปรับให้ได้ก็คือปรับให้ อันไหนที่มันไม่ได้จริงๆ เราต้องขอโทษค่ะ

หลังจากประกาศไป น้องๆ พร้อมที่จะสู้ต่อไหม?

เขาบอกว่าถ้าไม่ถึง 10 ล้านวิว ขออยู่ต่อได้ไหม เราชอบสงสารคน เดี๋ยวค่อยตัดสินหลังเพลงออกดีกว่า กลัวมากพอมีลูกอะค่ะ คือจิตใจทุกอย่าง ไหนจะงานที่กรุงเทพฯ ทำพิธีกร พอไม่มีเวลาให้เขาจริงๆ แล้วเหมือนเราดองน้องไว้

ทุกวันนี้การรับงานรีวิว เจนนี่ไม่เคยหักเปอร์เซ็นต์เลยนะคะ เพราะคิดว่าเรามีมากพอแล้ว เราไม่จำเป็นจะต้องมาอยากได้แค่สองสามพันเลย หรือหักเปอร์เซ็นต์ตรงนั้นของเด็ก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนมักมองไม่ค่อยเห็น แล้วก็จะมองแค่ว่า เจ้าของค่ายคนนี้มีประวัติไม่ดี เคยดูแลเด็กไม่ดี

ไม่อยากให้ตัดสินตรงนั้น เพราะทุกอย่างมันต้องใช้เวลา แล้วเจนนี่ก็ใหม่มากสำหรับการทำค่าย ทุกวันนี้เราพัฒนามาอย่างเต็มที่ เราทำให้ทุกคนเต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ.

คุณกำลังดู: เจนนี่ ได้หมดฯ เคลียร์ดราม่าสัญญาทาส บังคับเด็กในสังกัด เจ้าของค่ายรวยคนเดียว?

หมวดหมู่: ความบันเทิง