ชมภาพ “TANK 300” ใหม่ เอสยูวีรุ่นเล็กจากค่าย GWM ก่อนวางขายในไทยปีนี้

13 ก.พ. 2566 | 17:33 น.

ภายหลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมเปิดตัวรถเอสยูวี “TANK 300” ขุมพลังไฮบริดภายในปี 2566 นี้ เราลองไปดูสเปกเบื้องต้นกันก่อนว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

TANK 300 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือก 2 รุ่นหลัก ได้แก่ TANK 300 รุ่นปกติ และ TANK 300 City ที่เน้นการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ตัวถังมีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,760 มม. ความกว้าง 1,930 มม. ความสูง 1,903 มม. และความยาวฐานล้อ 2,750 มม. หากเทียบกับ Haval H6 ในปัจจุบันแล้วจะพบว่า TANK 300 มีขนาดตัวถังใหญ่กว่าในทุกมิติ

Tank 300 ถูกวางให้เป็นเอสยูวีระดับพรีเมียมสำหรับผู้ที่ต้องการความแปลกไม่ซ้ำใคร ติดตั้งไฟหน้าทรงกลมคาดด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ถูกล้อมอยู่ในกรอบที่เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกับกระจังหน้า เสริมความบึกบึนด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่ชวนให้นึกถึง Jeep Wrangler พร้อมไฟท้ายแบบ LED ทรงตั้ง และที่เก็บล้ออะไหล่ติดตั้งไว้บริเวณประตูท้ายช่วยเสริมบุคลิกความเป็นรถออฟโรด

ภายในห้องโดยสารของ Tank 300 ถูกตกแต่งอย่างหรูหราตามฉบับรถพรีเมียมสัญชาติจีน มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทางแบบ 3 มิติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เสริมด้วยระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย กล้องตรวจจับใบหน้าของผู้ขับขี่ และรองรับการอัปเกรดเฟิร์มแวร์แบบ FOTA ได้

นอกจากนี้ Tank 300 ทุกรุ่นย่อยยังมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning, ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Automatic Emergency Braking ที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist, ระบบช่วยขับขี่ขณะการจราจรหนาแน่น Traffic Congestion Assist และระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door Open Warning เป็นต้น

ขุมพลังของ Tank 300 ที่วางจำหน่ายในประเทศจีนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 387 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมโหมดการขับขี่แบบออฟโรดที่มีให้เลือก 7 โหมด ในรุ่น City Edition และ 9 โหมดในรุ่น Off-Road

ขณะที่เวอร์ชันไทยคาดว่าจะถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบ กำลังสูงสุด 245 แรงม้า (180 kW) แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 106 แรงม้า (78 kW) แรงบิดสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร (อ้างอิงจากสเปกออสเตรเลีย) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน

ส่วนรายละเอียดเวอร์ชันไทยอย่างเป็นทางการต้องติดตามกันอีกครั้ง