ช่วงอายุเท่านี้ ควรมีประกันอะไรถือติดตัวไว้บ้าง

ช่วงอายุเท่านี้ ควรมีประกันอะไรถือติดตัวไว้บ้าง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับคนในยุคนี้ คือการให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบมีแบบแผน มีการคุ้มครองด้านการเจ็บป่วยโดยที่ยังคำนึงถึงคนข้างหลัง หรือลดภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองยามที่เจ็บป่วย ทำให้การทำประกันในรูปแบบต่าง ๆ เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การจะตัดสินใจซื้อประกันในแต่ละครั้งต้องมีปัจจัยให้พิจารณาอยู่หลายอย่าง มีรูปแบบประกันชีวิตให้เลือกหลากหลายที่ให้ผลประโยชน์แตกต่างกันออกไป รวมถึงการเลือกบริษัทประกันชีวิตที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับ “ช่วงอายุ” ของเราด้วย ว่าในวัยต่าง ๆ ควรมีกรมธรรม์ของประกันประเภทใดอยู่ในมือ เพื่อให้ตอบโจทย์มากที่สุด

เพราะการทำประกัน คือหนึ่งในทางเลือกสำหรับการบริหารและจัดการกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดกับชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งการทำประกันจะเป็นการโอนความรับผิดชอบในเรื่องของความเสี่ยงของเรา ให้แก่บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น การทำประกันที่เหมาะสมกับตัวเองจะมีประโยชน์ต่อชีวิดของเราอย่างมหาศาล มันไม่ใช่การจ่ายเงินทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์อย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ เพราะเมื่อไรที่เราพบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประกันที่เราถือไว้ในมือจะเป็นหลักประกันที่ช่วยให้เรายังมั่นคงอยู่ได้ บริหารและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ทีนี้มาดูกันว่าในแต่ละช่วงอายุ เราควรจะมีประกันประเภทไหนติดมือไว้บ้าง

ช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น ช่วงอายุ 0-20 ปี
แน่นอนว่าเด็กในวัยนี้คงไม่ได้มีรายได้ที่จะควักกระเป๋าซื้อประกันเองถูกไหม แต่จะเป็นหน้าที่ที่พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นคนรับผิดชอบจัดสรรให้มากกว่า ส่วนเป้าหมายในการทำประกันของเด็กวัยนี้ก็คงไม่ใช่ทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี หรือเพื่อทิ้งมรดกไว้ให้คนข้างหลัง ดังนั้น ประกันที่เหมาะกับเด็กที่พ่อแม่ควรทำให้บุตรหลาน ก็คือประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายเนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายยังต่ำ แถมยังมีแนวโน้มที่จะซุกซนตามประสาจนเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องหาหมอขึ้นมา การมีประกันทั้งสองส่วนจะช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลให้พ่อแม่ได้มากกว่าค่าเบี้ยประกันแน่นอน

วัยเริ่มทำงาน ช่วงอายุ 21-30 ปี
คนในวัยนี้คือวัยที่เริ่มเรียนจบ เริ่มทำงาน และเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูก จึงยังไม่มีใครมาพึ่งพิงรายได้ของเรา จึงถือเป็นวัยที่เหมาะแก่การวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างฐานะในอนาคต โดยหลายคนอาจจะยังส่งประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุต่อเนื่อง โดยรับช่วงต่อจากพ่อแม่ในการส่งเบี้ยประกัน เพราะมีบางกรมธรรม์ของประกันบางเจ้าที่สามารถถือต่อได้โดยต้องต่ออายุประกันแบบปีต่อปี ถ้าต่อผ่านก็คุ้มครองไปยาว ๆ ได้เช่นกัน หรือถ้าทำงานบริษัทก็อาจพึ่งสวัสดิการประกันจากทางที่ทำงานก็ได้ แต่ประกันอีกตัวที่ควรพิจารณาทำเพิ่มเติม คือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาวกว่า 10 ปี เพื่อใช้ประโยชน์ในการขอลดหย่อนภาษี

วัยผู้ใหญ่สร้างครอบครัว ช่วงอายุ 31-50 ปี
วัยนี้เป็นวัยที่คนส่วนใหญ่เริ่มต้นสร้างครอบครัว และวางแผนมีบุตร นั่นหมายความว่ารายได้ของเราจะไม่ใช่รายได้ที่ใช้คนเดียวหรือใช้แค่เลี้ยงดูพ่อแม่อีกต่อไป หลาย ๆ คนเริ่มขยับขยายที่อยู่อาศัย และมีแผนสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เมื่อมีภาระมากขึ้นตามสถานะที่อาจจะเป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว ควรเตรียมพร้อมรับมือกับภาระที่กำลังจะเพิ่มขึ้น ด้วยการมองหาหลักประกันให้กับคนในครอบครัว ประกันชีวิตที่เหมาะกับคนวัยนี้ คือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นการพร้อมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับหัวหน้าครอบครัว

นอกจากนี้ เรายังควรวางแผนความคุ้มครองให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเองอีกด้วย ถ้าซื้อบ้านและกำลังผ่อนบ้าน ควรมองหา ประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MRTA) เพื่อที่ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้น คนในครอบครัวก็จะยังมีบ้านให้อยู่อาศัย หรือซื้อประกันชีวิตแนบสัญญาชดเชยรายได้ ในกรณีที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันกับหัวหน้าครอบครัวจนไม่สามารถทำงานได้ จะได้มีการชดเชยรายได้ให้ เป็นการลดภาระที่ครอบครัวจะต้องแบกรับ หรือถ้าอายุยังไม่มาก จะพ่วงประกันสุขภาพไปกับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองยาวด้วยก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเท่าไรนัก ทำให้เบี้ยประกันจะยังไม่สูง และมีโอกาสทำผ่านสูง

หากอายุเริ่มเยอะขึ้น การพิจารณาทำประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อให้มีรายได้อย่างต่อเนื่องเตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ และยังให้ประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย ทั้งนี้ อย่าลืมศึกษาความคุ้มค่าของประกันบำนาญเปรียบเทียบกับการลงทุนเพื่อการเกษียณประเภทอื่น ๆ ด้วย เพราะประกันชีวิตแบบบำนาญอาจไม่ได้ให้ความคุ้มครองหรือผลตอบแทนที่สูงนัก แต่จะเป็นการการันตีเงินที่จะได้รับหลังเกษียณเท่านั้น

วัยเตรียมเกษียณ ช่วงอายุ 51 ปีขึ้นไป
เนื่องจากคนวัยนี้ภาระต่าง ๆ เริ่มลดลง ลูก ๆ ก็เติบโตจนเข้าสู่วัยทำงานบ้างแล้ว ประกันที่เหมาะกับคนวัยนี้ที่สุด คือ ประกันสุขภาพ ทั้งค่ารักษาพยาบาลหรือคุ้มครองโรคร้ายแรงทั้งหลาย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บก็เพิ่มขึ้นด้วย ถ้าไม่ทำประกันสุขภาพไว้ เจ็บป่วยทีอาจต้องเจอกับค่ารักษาพยาบาลชนิดที่นอนเอามือก่ายหน้าผาก ครั้นจะไม่รักษาก็ไม่ได้ด้วย ซึ่งถ้าไม่อยากให้เงินเก็บที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิตมลายหายไปกับการรักษาตัว การทำประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพ นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการบริหารความเสี่ยงในวัยที่เอาเริ่มเอาแน่เอานอนไม่ได้

อย่างไรก็ดี ประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นคนจ่ายเบี้ยเอง เผื่อลูก ๆ จะซื้อให้เป็นของขวัญสำหรับพ่อแม่ ซึ่งแน่นอนว่าพวกลูก ๆ จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากประกันสุขภาพของพ่อแม่ได้ด้วย

คุณกำลังดู: ช่วงอายุเท่านี้ ควรมีประกันอะไรถือติดตัวไว้บ้าง

หมวดหมู่: ผู้ชาย

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด