ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ‘แค่คนยกน้ำ’ สู่ตำนานลูกหนังตราไก่

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ 'แค่คนยกน้ำ' สู่ตำนานลูกหนังตราไก่ ถ้าตั้งโจทย์ให้บอกชื่อ "ตำนาน" ของวงการลูกหนังฝรั่งเศส ชื่อแรกๆ ที่แฟนบอลทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่มักคิดถึงคงไม่พ้น มิเชล พลาตินี่ หรือ ซีเนอดีน ซีดา...

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ‘แค่คนยกน้ำ’ สู่ตำนานลูกหนังตราไก่

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ‘แค่คนยกน้ำ’ สู่ตำนานลูกหนังตราไก่

ถ้าตั้งโจทย์ให้บอกชื่อ “ตำนาน” ของวงการลูกหนังฝรั่งเศส ชื่อแรกๆ ที่แฟนบอลทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่มักคิดถึงคงไม่พ้น มิเชล พลาตินี่ หรือ ซีเนอดีน ซีดาน

หรือในลำดับรองๆ ลงมาก็อาจมี อีริก คันโตน่า, เธียร์รี่ อองรี, ฌุสต์ ฟองแตน ให้ไล่เรียง

ขณะที่ชื่อของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ แม้โดดเด่นในหมู่แฟนบอลชาวฝรั่งเศส แต่สำหรับแฟนทั่วๆ ไป เขาอาจไม่ใช่คนแรกๆ ที่คิดถึง

สมัยเป็นนักเตะ เดส์ชองส์เคยค้าแข้งกับสโมสรใน 4 ลีกใหญ่ของยุโรป ไล่มาตั้งแต่ น็องต์ส, โอลิมปิก มาร์เซย, บอร์โดซ์, ยูเวนตุส, เชลซี และ บาเลนเซีย โดยเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ

REUTERS/Molly Darlington

เดส์ชองส์จัดเป็นนักเตะฝีเท้าดีคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบสไตล์การเล่นของเขา อาทิ อีริก คันโตน่า อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติที่เคยบรรยายถึงเดส์ชองส์ไว้เมื่อปี 1996 ว่า “เขาติดทีมมาได้เพราะทุ่มเทเต็มร้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนหิ้วถังน้ำ เพราะนักเตะแบบเขาหาได้ทั่วไปทุกมุมถนน”

ด้วยเหตุนี้ในปีเดียวกัน หลังจากเดส์ชองส์ร่วมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับยูเวนตุส เป็นแชมป์ยุโรปหนที่ 2 ของเขาต่อจากปี 1993 (กับมาร์เซย) เดส์ชองส์จึงแขวะกลับก็องโต้ว่า “จะมีนักเตะดาดๆ ที่หาได้ตามมุมถนนสักกี่คนที่คว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัย?”

ตอนที่เขาแขวนสตั๊ดกับบาเลนเซียในปี 2001 เขาเคยเล่นในรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 4 ครั้ง และเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามอีก 1 ครั้ง, ร่วมคว้าแชมป์ลีก 5 ครั้ง (ลีกเอิง 2 สมัยกับมาร์เซย และกัลโช่ เซเรียอา 3 สมัย กับยูเวนตุส) รวมถึงได้ถ้วยโคปปา อิตาเลีย กับเอฟเอคัพอีกอย่างละสมัยด้วย

ในระดับทีมชาติ เดส์ชองส์ติดทีมชาติฝรั่งเศส 103 ได้สวมปลอกแขนกัปตันนำทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ต่อด้วยแชมป์ยุโรปในอีก 2 ปีถัดมา

หนึ่งในคุณสมบัติโดดเด่นของเขาคือความเป็นผู้นำ และทักษะการบริหารคน

REUTERS/Matthew Childs

มาร์เซล เดซายี่ อดีตเพื่อนร่วมทีมบอกว่า เดส์ชองส์เป็นกัปตันทีมทุกทีมที่ทั้งคู่เล่นด้วยกัน เขามีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ และตอนที่เขาเข้าไปรับงานคุมทีมชาติครั้งแรก ก็ได้รับความเคารพจากคนลูกหนังในวงการว่าจะหากลยุทธที่ลงตัวให้กับทีมได้

เดส์ชองส์เริ่มงานโค้ชในปี 2001 หลังแขวนสตั๊ด โดยคุมทั้งโมนาโก ยูเวนตุส มาร์เซย และมาถึงทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2012 หลังจากทีมประสบความล้มเหลวในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ติดๆ กัน

เขาเริ่มจากพาทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 โดยแพ้ให้เยอรมนี แชมป์ปีนั้น ต่อด้วยเข้าชิงยูโร 2016 ก่อนพ่ายโปรตุเกสฉิวเฉียด 0-1 ปอล ป๊อกบา ให้สัมภาษณ์เชิงตั้งคำถามเรื่องแท็กติกของโค้ช

REUTERS/Paul Childs

หากยังจำกันได้ แคมป์ทีมชาติฝรั่งเศสเคยมีปัญหาภายในเรื่องนักเตะงัดข้อกับโค้ชในยุค เรย์มงด์ โดเมอเน็ค มาครั้งนี้ เดส์ชองส์ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลาย เขาประกาศออกสื่อว่า ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบเรื่องฟอร์มการเล่นของทีม ซึ่งรวมถึงตัวเขาเองด้วย แต่เขาจะปกป้องนักเตะทุกคน ขอเพียงให้ตั้งใจทำผลงานให้ดีเท่านั้น

หลังจากนั้น ฝรั่งเศสก็ก้าวไปคว้าแชมป์โลก และเดส์ชองส์กลายเป็นคนลูกหนังคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ทั้งในฐานะนักเตะและโค้ชต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ ซึ่งเคยคว้าแชมป์กับบราซิลตอนเป็นนักเตะในปี 1958 และ 1962 ก่อนคุมทีมคว้าแชมป์โลกปี 1970 อีกคนคือ “ไกเซอร์” ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ ตำนานลูกหนังอินทรีเหล็ก กับแชมป์โลกสมัยเป็นนักเตะปี 1974 และเป็นโค้ชในปี 1990

(Photo by Shaun Botterill/Getty Images)

มาถึง ฟุตบอลโลก 2022 เดส์ชองส์กำลังไล่ตามประวัติศาสตร์เล็กๆ ที่ในอดีตมีเพียงคนเดียวเคยทำได้ นั่นคือการเป็นโค้ชซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน

ว่ากันตามจริง การแข่งขันเวิลด์คัพ 20 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ นั่นคือ อิตาลีปี 1934 และ กับบราซิล ในปี 1958 และ 1962 แต่กรณีของแซมบ้าใช้โค้ชคนละคนกัน จึงมีเพียง วิโตริโอ พอซโซ่ โค้ชชาวอิตาเลียนผู้ล่วงลับเท่านั้นที่เคยทำได้สำเร็จ

สำหรับเดส์ชองส์มายืนอยู่หน้าประตูประวัติศาสตร์ดังกล่าวแล้ว อยู่ที่นัดชิงชนะเลิศกับอาร์เจนตินาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบว่า เขาจะจารึกชื่อเคียงข้างพอซโซ่ในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังได้หรือไม่

คุณกำลังดู: ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ‘แค่คนยกน้ำ’ สู่ตำนานลูกหนังตราไก่

หมวดหมู่: ฟุตบอลต่างประเทศ

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด