เกียร์ออโต้ ฟอกเกียร์คืออะไร? ทำความเข้าใจ ก่อนเปลี่ยนถ่ายของเหลวหล่อลื่น

ฮิตกันจัง เกียร์ออโต้ ฟอกเกียร์ เพื่อประโยชน์อะไร? จำเป็นแค่ไหนที่ต้องฟอกก่อนเปลี่ยนน้ำมันเกียร์!

เกียร์ออโต้ ฟอกเกียร์คืออะไร? ทำความเข้าใจ ก่อนเปลี่ยนถ่ายของเหลวหล่อลื่น

การบำรุงรักษาเกียร์อัตโนมัติให้มีสมรรถนะการใช้งานได้ดีที่สุดด้วยวิธีการฟอกเกียร์ ที่เคยได้ยินกันมานั้นจัดอยู่ในโหมดการบำรุงรักษา (เชิงป้องกัน) หากเกียร์มีปัญหาไปแล้ว ก็ไม่สามารถแก้ไข หรือตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถได้ ยกเว้นเสียแต่ ปัญหานั้นมีสาเหตุมาจาก น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ รั่ว ขาดหรือพร่อง อธิบายพอเป็นสังเขปเบื้องต้นว่า

ถาม : คำว่าฟอกเกียร์ คืออะไร?

ตอบ : การทำความสะอาดภายในระบบเกียร์อัตโนมัติ ด้วยวิธีกรองน้ำมันเกียร์เก่าเพื่อคัดแยก และกักเก็บสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนในน้ำมันไม่ให้ไหลกลับเข้าไปในระบบเกียร์อีก ทำแบบนี้เป็นอนุกรม วนซ้ำๆ อยู่นาน 30 นาที แล้วจึงตัดต่อเป็นแบบขนานเพื่อถ่ายน้ำมันเกียร์เก่าที่ฟอกสะอาดแล้วทิ้งไปให้หมด
ก่อนการเติมน้ำมันเกียร์ใหม่ (เกรดสังเคราะห์แท้) ให้เข้าไปแทนที่เต็มแบบเต็มไส้เต็มพุง ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้แบบ 100% หรือที่เรียกว่า แบบเต็มระบบ นั่นเอง! โดยวิธีการปฏิบัติงานที่ผ่านมาศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อมักไม่เคยทำแบบนี้ให้กับรถของท่าน แม้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ก็เปลี่ยนให้เพียงแค่ “บางส่วน” เท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนให้แบบเต็มระบบ!

ถาม : ประโยชน์ที่ได้รับจากการฟอกเกียร์คืออะไร?

ตอบ : คือการที่ได้ชำระล้างเมือก/คราบยางเหนียว อันเกิดจากการเสื่อมสภาพของน้ำมันเกียร์ที่ติดเกาะอยู่กับใบพัดของทอร์คคอนเวอร์เตอร์ และตกตะกอนเป็นตะกรันอยู่ก้นอ่างเกียร์ กำจัดเศษสิ่งสกปรกที่เกิดจากการสึกหรอของผ้าคลัตช์/ซีลยาง-โอริง เศษโลหะเล็กๆ ระดับไมครอน ที่ไหลหมุนเวียนไปพร้อมกับน้ำมันเกียร์ตลอดเวลา ในขณะที่ขับใช้งานท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดของประเทศไทย ทำให้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติมีความข้น/หนืดสูง จากสิ่งสกปรก ทำให้มีแรงดันต่ำ ส่งผลให้ของเหลวหล่อลื่นที่มีความสำคัญไหลเวียนช้า ก่อให้เกิดอาการคลัตช์ลื่น/สะดุด/กระตุกเบาๆ สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยใช่เหตุ เหมือนพัดลมแอร์บ้าน หรือโบลเวอร์ที่ใช้งานมานาน ทำให้มีฝุ่นเกาะใบพัดและตะแกรง การล้างทำความสะอาดให้เหมือนตอนที่ซื้อใหม่ ทำให้พัดลมแอร์หรือโบลเวอร์ สะอาดไม่มีฝุ่นเกาะ ก็ย่อมหมุนแรงกว่า และประหยัดไฟได้

ถาม : ผลพลอยได้โดยตรงจากการฟอกเกียร์คือ?

ตอบ :
1. ได้เคลือบฟันเฟืองให้เบาลื่นไม่ขบแน่น (ATF)
2. ได้กระชับความฝืดระหว่างสายพานกับพูลเลย์ (CVT)
3. ได้ฟื้นฟูสภาพซีลยาง/โอริง ให้กลับมานุ่มนวล
4. ได้ล้างคราบสกปรกในช่องทางเดินสมองเกียร์
5. ได้ขจัดคราบเหนียวที่ติดค้างใบพัดในทอร์คเกียร์
6. ทำให้ต่อเกียร์เนียน เปลี่ยนเกียร์ลื่น
7. ทำให้ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ (ประหยัดเชื้อเพลิง)
8. ทำให้ได้ใช้เกียร์เต็มตามสมรรถนะสูงสุด
9. ทำให้อายุเกียร์มีอายุไขตามอายุการใช้งานจริง ไม่พังก่อนเวลาอันควร เนื่องจากไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์

ย้ำ เกียร์ออโต้เทพๆ ที่เครมว่า ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติตลอดอายุการใช้งาน ส่วนใหญ่พอหมดระยะประกัน เกียร์ก็พังกันแทบทั้งนั้น จากสาเหตุที่ไม่เคยเปลี่ยนถ่ายของเหลวมานาน นานขนาดบางคันวิ่งมา 150,000 กิโลเมตร ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ จนเกียร์พังคาเท้ากันเลยทีเดียว

ภูมิภาคเขตร้อนชื้นของไทย อุณหภูมิในระบบเกียร์จะสูงมากกว่าการขับใช้งานอยู่ในเขตหนาว โดยเฉพาะการวิ่งๆ หยุดๆ ตามสภาพการจราจรที่หนาแน่นของกรุงเทพฯ หรือวิ่งขึ้นลงทางภูเขาสูงชันบ่อยๆ ทำให้เกิดการสึกหรอมากกว่าวิ่งออกทางไกลยาวๆ บนทางราบ ด้วยความเร็วคงที่ ต่อเนื่อง อันนั้นถ้าเป็นทางราบเรียบๆ เกียร์ก็ไม่ถือว่าถูกใช้งานหนักแต่อย่างใด แต่ถ้าวิ่งใช้งานประจำอยู่ในเมืองที่มีรถติดหนักสาหัสทุกวัน นั่นหมายถึงภารกรรมของระบบขับเคลื่อนโดยเฉพาะชุดส่งกำลังอย่างเกียร์อัตโนมัติ ก็จะพบว่ามีการสึกหรอสูงกว่า จากการเดี๋ยวเคลื่อนตัวเดี๋ยวหยุดรอสัญญาณไฟ เป็นแบบนี้ตลอด นานวันเข้า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ การสึกหรอจากการใช้งานจะส่งผลให้เกียร์มีอายุการใช้งานหดสั้นลง

เขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย มักจะมาพร้อมกับฝน 100 ปี 1,000 ปี คือตกจนไฟหน้าแทบจะส่องลงไปในน้ำ ฝนตกน้ำท่วมขังเป็นประจำ ทำให้เกิดการควบแน่น และก่อไอน้ำในระบบเกียร์ได้ง่าย น้ำมันเกียร์ที่ใช้ในภูมิภาคนี้จึงเสื่อมสภาพเร็วกว่าเขตหนาว จากความร้อนและความชื้นที่ประดังกันเข้ามา ทำให้น้ำมันเกียร์ มีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปีเท่านั้น

ระยะเวลาดังกล่าวจึงมีความเหมาะสมที่จะฟอกเกียร์แล้วเปลี่ยนของเหลวหล่อลื่นในระบบใหม่ทั้งหมดแบบเต็มระบบ หรือเมื่อขับแล้วรู้สึกว่าเกียร์ออโต้ของรถตนเองนั้นเริ่มมีอาการอืด หนืด หน่วง กวาดรอบเครื่องยนต์ บริโภคเชื้อเพลิงมากขึ้นอย่างผิดปกติชัดเจน หรือมีอาการกระตุกกระชาก ใส่เกียร์ R หรือ D แล้วต้องรอสักพัก ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเดิม อาการดังกล่าวนั้นหมายความว่าควรนำรถไปฟอกเกียร์และเปลี่ยนของเหลวหล่อลื่นก่อนที่จะพังจนไปไม่ได้นะจ๊ะ.

ข้อมูลจาก : ศูนย์ฟอกเกียร์ เซ็นเตอร์ วีล ออโตโมทีฟ

https://www.facebook.com/thutiya

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358

คุณกำลังดู: เกียร์ออโต้ ฟอกเกียร์คืออะไร? ทำความเข้าใจ ก่อนเปลี่ยนถ่ายของเหลวหล่อลื่น

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด