ขับ Nissan Kicks เปิดถนนริมโขง จากอุดรจรมาถึงอุบลฯ

Nissan Kicks เที่ยวลัดเลาะริมโขง ทดสอบประสิทธิภาพมอเตอร์ไฟฟ้าบนเส้นทางสุดขอบตะวันออกอีสาน

ขับ Nissan Kicks เปิดถนนริมโขง จากอุดรจรมาถึงอุบลฯ

ปกติเวลาถึงวาระวันคล้ายวันเกิด ทุกคนก็อยากนึกภาพตัวเอง นั่งอยู่บนโต๊ะ มีของขวัญวันเกิดจากคนสนิทกองพะเนินเทินทึก คุณอธิษฐานแล้วเป่าเทียนให้ดับ ไล่เพื่อนกลับบ้านแล้วก็เอ็นจอยกับของฟรีที่เพื่อนๆ นำมามอบให้ กล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอวยพร และพักผ่อนตามอัธยาศัย

แต่ในวันคล้ายวันเกิดผมปีนี้ ผมตื่นตีสามแหกหน้าล้างตา เดินทางมาสนามบินดอนเมืองเพื่อมาร่วมทริปกับ Nissan ในการขับ Nissan Kicks เอ้า..ถ้าขี้เกียจตื่นแล้วมาทำไม? ก็ยอมรับนะครับว่าถึงปกติผมในวัยกลางคนจะเด้งตัวตื่นตีห้าครึ่งทุกวัน การที่ต้องปั่นงานหลากชิ้นส่งให้ทัน อดนอนต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว จะบอกว่าตีสามตื่นมาหน้าเด้งชมพูยิ้มแย้มคงไม่ได้หรอก แต่การที่จะได้ขับรถยังเส้นทางที่ไม่เคยขับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..เราไม่ต้องออกค่าน้ำมัน (เพราะเราขี้งก) มันเป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว ดินแดนอีสานตะวันออกคือส่วนที่ผมอยากลองไปขับรถเล่นมานานแล้ว ก่อนตาย ผมอยากไปให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ และไปด้วยการขับรถเท่านั้น

ทาง Nissan จัดให้ผมนั่งรถหมายเลข 3 คู่กับคุณ ไปป์ พลพัต สาเลยยกานนท์ นักข่าวรถยนต์จาก PPTV36 ซึ่งผมจะบอกว่าได้ไปป์มานี่อุ่นใจมาก การออกทริปขับที่มีสื่อมวลชนหลากหลายหน้าแล้วต้องฝากชีวิตเราไว้กับการตัดสินใจของเพื่อนร่วมรถ เราก็อยากได้นักขับที่รู้ว่า หนึ่ง ไปได้เร็ว สามารถขับตามหัวขบวนได้ทัน และสอง คือไม่พาเราไปเจ็บหรือตาย ผมขอไปป์ขับเป็นไม้แรก ออกจากอุดรธานีไปยังปั๊มน้ำมันสักแห่งในสกลนคร โดยตกลงกับไปป์ว่า จะลองวิ่งโดยใช้ ECO Mode ดูก่อนว่าการตอบสนองของรถ อัตราเร่ง และการทำงานของระบบปรับอากาศจะเป็นอย่างไร

Nissan Kicks ที่เราขับเป็นรถปี 2022 รุ่นย่อยสูงสุดคือ Autech ซึ่งให้ชุดแต่งมาแบบไม่เยอะจนรกตาและดูสปอร์ตกว่ารุ่นย่อยอื่นนิดๆกำลังดี สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรถรุ่นที่แล้วนั้น นอกจากราคาทางการจะถูกลงแสนกว่าบาท คุณยังได้เครื่องยนต์ปั่นไฟที่ปรับปรุงให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง ได้มอเตอร์ขับเคลื่อนลูกใหม่ที่มีกำลังมากขึ้น ได้แบตเตอรี่ที่มีความจุไฟเพิ่มจาก 1.56kWh เป็น 2.06kWh พร้อมทั้งปรับรูปแบบคันเกียร์ใหม่ ปรับคอนโซลกลางให้เบียดพื้นที่หัวเข่าน้อยลง สำหรับคนส่วนใหญ่ คุณคงเห็นส่วนดีจากราคาค่าตัวที่รุ่นท็อปก็ยังจบที่ 949,000 บาท ซึ่งถ้าไปทาง Toyota กับ Honda ราคานี้คุณจะได้รุ่นล่างสุด หรืออาจจะไม่ได้รุ่นไฮบริดเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่บ้าเทคนิค การที่ราคาลดลงแต่เปลี่ยนส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเยอะขนาดนี้ ถือว่าเป็นโบนัสมากๆ

แต่ใช่ว่าเราจะได้รถที่ดีทุกอย่าง ในราคาที่ถูกกว่าผองเพื่อน ถ้าใครทำรถแบบนั้นได้จริงป่านนี้ยอดจองก็น่าจะข้ามปีแล้ว Nissan Kicks นั้นก็ยังมีจุดอ่อนที่การโดยสารเบาะหลัง ซึ่งแม้จะมีพื้นที่ไม่เล็ก แต่ตัวเบาะนั้นตั้งชัน ปรับเอนไม่ได้ ไม่มีพนักเท้าแขนเบาะหลังและไม่มีช่องเป่าลมแอร์หลัง ดังนั้น บางบ้านที่จำเป็นต้องใช้รถโดยมีคนนั่งหลังไปด้วยประจำ เขาก็ไม่ซื้อเพราะจุดนี้ และ Nissan ก็คงไม่สามารถออกแบบเบาะใหม่ได้ทั้งหมดจนกว่ารถเปลี่ยนผลัดโฉม ส่วนคนไหนที่ปกติมักขับคนเดียวหรือสองคน เบาะหลังก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ทุกคนมีสิ่งที่อยากได้จากรถคันนึงไม่เหมือนกันเสมอไป

ระยะทางบนหน้าปัดขึ้นมาเกือบ 80 กิโลเมตร มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองแสดงค่า 18 กิโลเมตรต่อลิตร ผมตัดสินใจใช้ Eco Mode ลองวิ่งดูเพราะใช้แล้วแอร์ไม่ได้ตัดบ่อยขึ้น เพียงแค่เวลาจะแซงให้ไวต้องกดคันเร่งลึกขึ้น แต่ถ้ากด 100% จะโหมดไหนรถก็ไปไวเท่ากันเพราะวิศวกรคิดไว้เผื่อแซงในเวลาคับขัน ซึ่งตลอดทางที่ขับมายังมีช่วงต้องกดคันเร่งหนักไม่มาก แต่กับการที่เราต้องตามหัวขบวนให้ทัน ทำให้ต้องมีการไล่ความเร็วจาก 60 ไป 100 ออกบ่อย และใช้ความเร็ว 120 ในช่วงที่ถนนโล่ง ซึ่งตัวเลขระดับนี้ ตอนที่ผมลองขับรถรุ่น 2021 ไปต่างจังหวัดโดยนั่งคนเดียว พฤติกรรมการขับใกล้เคียงกัน โหมด Eco เหมือนกัน ก็เห็นตัวเลขอย่างมากคือ 15.5 กิโลเมตรต่อลิตร แม้จะเทียบกันตรงๆ ไม่ได้ แต่พอบ่งได้ว่า ชุดมอเตอร์ แบตเตอรี่ใหม่ และเครื่องปั่นไฟ HR12 ที่ปรับจูนมาใหม่ น่าจะเพิ่มความประหยัดเวลาวิ่งทางไกลได้ราว 10-15%

อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ ใน Kicks รุ่นก่อน จะมีโหมดการขับเคลื่อนแบบ Smart และ Eco ที่เมื่อคุณยกเท้าจากคันเร่งหมด รถจะชะลอจนหยุดได้ ซึ่งผมชื่นชอบและใช้ทุกครั้งที่ขับ แต่พอมารุ่น 2022 นี้ Nissan กลับตัดระบบที่ว่า (One-Pedal Drive) ออก แล้วเปลี่ยนเป็น e-Pedal Step ซึ่งเมื่อยกคันเร่งหมด รถจะหน่วงแต่เมื่อความเร็วลดมาถึงจุดหนึ่ง มันจะยังไหลๆ อยู่ สาเหตุที่เปลี่ยนเพราะ Nissan ทำวิจัยกับลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้ว พบว่าส่วนมากในกลุ่มตัวอย่างไม่ชอบการทำงานของ One-Pedal ที่คุมคันเร่งได้ยาก และบางคนชอบให้รถสามารถไหลได้นิดๆ โดยไม่ต้องกดคันเร่ง ซึ่งจะสะดวกเวลาถอยรถ ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าหาลูกค้า เห็นไหมครับ? บางอย่างที่ผมชอบและใช้ได้ ลูกค้าอีกนับพันอาจไม่ได้ชอบก็ได้

เราแวะรับประทานมื้อกลางวันที่สกลนคร แล้วมุ่งหน้าต่อไปร้านกาแฟ 76A The Space ริมแม่น้ำโขง ที่ระยะทางสะสมจากจุดเริ่มต้นประมาณ 240 กิโลเมตร อัตราการสิ้นเปลืองเริ่มลดลงเหลือ 17 กิโลเมตรต่อลิตร เพราะถนนที่มาริมโขงนั้น ทางบางส่วนจะแคบ และรถท้องถิ่นเขาไม่ได้ใช้สปีดบ้าๆ แบบพวกเรา การคิกดาวน์แซงจึงบ่อยขึ้น ผมสลับกันขับกับคุณไปป์ ซึ่งก็ยอมขับโดยไม่เปลี่ยนไปใช้ Normal หรือ Sport Mode แต่เอาจริงๆ ผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์ติดกระหึ่มพยายามจะชาร์จไฟเกือบตลอด

ทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงนั้น ชวนให้ผมมายืนมองเสมอ ไม่ว่าผมจะไปพบที่จังหวัดไหน ที่สกลนครแถวๆ ร้าน 76A นั้น ดูไม่ค่อยพลุกพล่าน จัดที่ทางให้เดินเล่นได้สะดวกพอ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ถ้าใครขับรถเล่นผ่านมาทางนี้ ก็ลองแวะมาได้ครับ บรรยากาศที่ร้านไม่เลวเลย และถ้าไม่นับร้านที่ดูสไตล์คลาสสิกแล้ว เข้าไปข้างในก็มีห้องแอร์ มีคนเปิดแล็บท็อปนั่งทำงาน ไม่ต่างอะไรกับร้านกาแฟในกรุงเทพฯ

แต่จุดที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ คือการได้เห็นพระธาตุพนม ศาสนสถานคู่ขวัญของชาวเมืองนครพนม ผมได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารนี้ตั้งแต่เรียนวิชาสังคมตอน ป.3 แต่มาไม่ถึงเสียที นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ 33 ปีผมได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้วรู้สึกทึ่ง คุณเคยเห็นบางสิ่งแล้วปากพูดไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งไหมครับ ผมชอบมองโบราณสถานแล้วคิดจินตนาการไปว่า เมื่อสมัยที่คนรุ่นแรกๆสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้น โลกเราเป็นอย่างไร พื้นที่บริเวณนั้นๆ จะมีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าเป็นตามตำนาน พระธาตุแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาราว 2,500 ปี ในสมัยนั้น คนเราไม่มีคอมพิวเตอร์และไฟฟ้าใดๆ แล้วเขาสร้างสิ่งต่างๆ กันอย่างไร ถึงแม้เมื่อปี พ.ศ. 2518 องค์พระธาตุจะล้มลง แต่ด้วยพลังศรัทธา ประชาชนพากันร่วมบริจาคเงิน และรัฐบาลมีส่วนในการดำเนินการก่อสร้างใหม่ พระธาตุพนมจึงกลับมาตระหง่านอีกครั้งในปี พ.ศ. 2522 ด้วยความสูงจากระนาบพื้นเท่าๆ กับการเอา Airbus A350 รุ่นตัวสั้นมาตั้ง

การอดนอน การแหกขี้ตาตื่นตีสาม การขับรถมาถึงที่นี่ การได้เห็นองค์พระธาตุด้วยตาตัวเอง ถือว่าคุ้ม

เรานอนกันที่โรงแรมเลอ ลัดดา ที่มุกดาหาร ทาง Nissan ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเตรียมเค้กจานเล็กเท่าเบรกซูเปอร์คาร์ไว้ให้ผมเป่าเทียนวันเกิด ก็ขอแสดงความขอบพระคุณแม้ว่าพอเป่าเทียนเสร็จผมก็จะยังคงรีวิวรถของพวกเขาเหมือนเดิม ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง นอกเหนือจากกรอบหน้าที่ไปแล้วก็ไม่ได้มีอะไรห้ามไม่ให้มีไมตรีกัน Nissan ก็จะยังคงพยายามทำตลาด Kicks โดยพยายามให้มีคำว่าขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไฟฟ้านั่น ไฟฟ้านี่ แล้วผมก็จะยังแซะด้วยการบอกว่ามันก็เป็นรถไฮบริดในสายตาผมอยู่ดีแหละ แย้งกันบ้างเท่าที่จำเป็น ดีกันเท่าที่สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ดีจริงๆ น่าจะเป็นน้องผู้หญิงคนที่ถือเค้กมาให้ผม นั่นแหละ จำไม่ลืมแน่นอน

เช้าตรู่เราออกจากมุกดาหาร มุ่งหน้าสู่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม ซึ่งหลายคนนึกภาพไม่ออก แต่ถ้าเป็นคนฟังข่าวพยากรณ์อากาศ ดวงอาทิตย์ขึ้นกี่โมงกี่ยาม คุณจะได้ยินคำว่า “ที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา (กี่นาฬิกาก็ว่าไป) ผมเคยไปเยือนผาแห่งนั้น รวมถึงไปดูรูปภาพชนเผ่าโบราณที่ผาแต้มแล้วเมื่อ 12 ปีก่อนในรถ Nissan Tiida (รถของตัวเอง) มันก็บังเอิญละ ที่กลับไปที่นั่นอีกครั้ง ก็เป็นรถของ Nissan เหมือนกัน

สภาพเส้นทางจากมุกดาหารออกมาได้สักพัก รู้เลยว่าคุณไม่ควรเอารถสปอร์ตยางแก้มเตี้ยมาวิ่งแถวๆ นี้เลย ถนนเป็น 1 เลนไป 1 เลนกลับ มีกับดักเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่แม้แต่ Nissan Navara ที่เป็นรถนำเห็นยังต้องชะลอ และถ้าคุณไม่เจอหลุม ก็จะเจอถนนที่สภาพเหมือนโดนฝนกัดเซาะมาตั้งแต่วันที่พระธาตุพนมบูรณะเสร็จ บอกเลยนะครับว่า เก็บรถล้อขอบ 19-20 ยางแก้มเตี้ยไว้บ้านเถอะ แต่ในสภาพแบบนี้ ทั้งผมและคุณไปป์ก็ต้องวิ่งทำเวลาเพื่อไปให้ถึงผาชะนะไดเร็วที่สุด หาไม่เช่นนั้น พวกเราจะต้องทิ้งจุดหมายนี้ แล้วตรงเข้าตัวเมืองอุบลฯ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินให้ทัน

ช่วงล่างของ Kicks นั้น ถ้าจะให้พูดแบบคนแอนตี้ Nissan ก็บอกได้ว่ารูปแบบช่วงล่างสตรัท/ทอร์ชั่นบีมนั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่ และความสามารถในการซับแรงกระแทกหลุมปูดใหญ่ที่ความเร็วต่ำนั้น อาจไม่ประทับใจคนที่เคยชินกับรถยุโรปใหญ่ๆ นั่งนุ่มๆ แต่เมื่อต้องมาพบกับสภาพถนนแบบนี้ แถมยังต้องไปด้วยสปีดที่มากกว่าปกติ ผมว่านี่แหละคืองานถนัดที่ Kicks รับมือได้สบาย เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น เอาสักประมาณ 120 ช่วงล่างที่เคยแข็งกระด้าง กลับกลายเป็นกระชับแบบกำลังดี เมื่อพบหลุม เราต้องกระทืบเบรกตัวโก่งแล้วหักหลบในแบบที่ ถ้าแม่แฟนมาด้วย คุณหมดสิทธิ์แต่งงานแน่นอน

สภาพที่ย่ำแย่ ทำให้รถสามารถแสดงความสามารถของมันได้เต็มที่ หลุมนับร้อย เราหลบกันได้เกือบหมดทั้งขบวน บางจุดมีฝุ่นจับพื้นถนนและทราย ระบบช่วยการทรงตัว VDC ก็เข้ามาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถเลี้ยวรถเลี่ยงอุปสรรคต่างๆ ได้ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะมากับขบวนแล้วต้องทำเวลา ผมว่าผมคงอยากลดสปีดลงเพื่อลดความเครียดบ้าง ดูเหมือนรถจะรับมือกับสภาพแบบนี้ได้ดีกว่าผมเสียอีก สิ่งเหล่านี้ บวกกับอัตราเร่งที่ถือว่าเร็วถ้าเทียบกับรถไฮบริดราคาใกล้เคียงกัน และยังสามารถรักษาระดับกำลังไว้ได้ดีแม้จะกระทืบคันเร่งต่อเนื่อง Kicks จึงน่าจะเป็นรถที่เหมาะมากสำหรับการขับทางไกลได้อย่างมั่นใจ

ที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม ดวงอาทิตย์ขึ้น..กี่โมงไม่รู้ แต่ Nissan ให้เรามากินข้าวเที่ยงกันที่นี่ ดังนั้น การที่ผาแห่งนี้คือจุดแรกของประเทศไทยที่ได้เห็นพระอาทิตย์ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใด ผมและน้าเต้ย นิธิ ช่อง AutolifeThailand เลยนอนเกะกะอยู่ใต้ร่มไม้ ในขณะที่ผู้สื่อข่าวท่านอื่นลงไปชมทิวทัศน์บริเวณผากัน พวกที่หนุ่มๆ หน่อย ก็ไปอัดคลิปลง Social โดยยืนริมผาแล้วพูดใส่คลิป เริ่มต้นด้วยคำว่า “ที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี...” คุณไปป์ก็ทำแบบนั้น แล้วหันมายิ้ม บอกว่า “ผมอยากมายืนอัดคลิปตัวเองพูดแบบนี้ ตรงนี้ มานานแล้ว” ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเอ็นจอยอะไรขนาดนั้นเลย แต่พวกเราผู้ชายก็แบบนี้ละครับ มันจะมีบางสิ่งที่คนทั้งโลกไม่เข้าใจว่าเราจะทำไปทำไม แต่เราทำแล้วมีความสุขเป็นบ้า

ถ้าใครจะมาผาชะนะไดตอนนี้ ถนนหนทางขึ้นดีกว่าเมื่อ 12 ปีก่อนมาก แต่ถนนมันจะเป็นเลนเดียวนะครับ ถ้ามีขบวนรถวิ่งมา รถเลนสวนจะต้องเอาครึ่งคันลงไปแปะข้างทางเพื่อให้คนอื่นผ่านไปได้ ที่จุดรอด้านล่างจะมีป้อมทหารแล้วเขาก็จะมีกำหนดเวลาในการขึ้นและลงผา ถึงคุณจะอยากขับกลับใจจะขาด แต่ถ้ายังไม่ถึงกำหนดเวลาที่ปล่อยรถให้ขับลงมาได้ คุณก็จะมาไม่ได้ครับ

ตกเย็น เราขับรถพาตัวเองมาที่สนามบินอุบลราชธานี Kicks ทุกคันในขบวน ผ่านการซัดอย่างหนัก ผ่านถนนหลากหลายรูปแบบ และได้อัตราสิ้นเปลืองต่างๆ กันทั้งที่ขับมาด้วยกันตลอด คันที่แย่ที่สุดน่าจะ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรถของพวกเราทำได้ 16 ขึ้น ด้วยความเร็วแบบนั้น หากเอารถของคู่แข่งมาวิ่ง การจะได้ตัวเลขระดับ 18 ขึ้นไปคงยาก ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการปรับปรุงที่ Nissan ทำไปไม่ได้เสียเปล่า Kicks 2022 ตอนนี้ เป็นรถที่นอกจากจะมีราคาน่ารักขึ้นแล้ว ก็ยังสามารถขับไกลขึ้นได้ด้วยน้ำมันเท่าเดิม เป็นรถที่เหมาะถ้าคุณชอบรถที่ใช้น้ำมันคุ้มค่า ประหยัดน้ำมันมากถ้าวิ่งในเมือง และมีเรี่ยวแรงเวลาออกทางไกล แต่ยังไม่ประสงค์ที่จะผันตัวไปเป็นเจ้าของรถ EV เนื่องด้วยข้อจำกัดในการใช้งานต่างๆ เช่น ขับทางไกลบ่อย ไม่มีเวลารอชาร์จไฟ หรืออาศัยอยู่ในคอนโดฯ ซึ่งไม่มีที่ชาร์จรถไฟฟ้าให้

ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนอีกคัน ลองรับไปพิจารณาดู แต่อย่าลืมคำนึงถึงลักษณะการใช้งานจริงอย่างรอบด้าน เพราะอย่างที่ผมบอกครับ ไม่มีรถคันไหนเกิดมาแล้วเก่งในทุกด้าน รองรับความต้องการได้ทุกสิ่ง เราจึงต้องคิดให้นาน ว่ารถคันไหนจะเปรียบเสมือนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วพอดีกับตัวเรา และยังทำให้เราดูดีขึ้น.

Pan Paitoonpong

คุณกำลังดู: ขับ Nissan Kicks เปิดถนนริมโขง จากอุดรจรมาถึงอุบลฯ

หมวดหมู่: รีวิวรถใหม่