ความท้อแต่ไม่ถอย และคำขอ ‘อย่าด้อยค่าหนังไทย’ จาก ไพโรจน์ สังวริบุตร

  คลิปที่ ไพโรจน์ สังวริบุตร ออกมาพูดเรื่องหนัง 'วัยอลวน 5' ที่เขากำกับ และเจอปัญหาว่า เมื่อแรกเข้าโรงภาพยนตร์ มีรอบฉายแค่ไม่กี่โรง แถมยังเป็นโรงละ 1 รอบ ตอนสิบโมงเช้า ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าถ้าเป็น...

ความท้อแต่ไม่ถอย และคำขอ ‘อย่าด้อยค่าหนังไทย’ จาก ไพโรจน์ สังวริบุตร

คลิปที่ ไพโรจน์ สังวริบุตร ออกมาพูดเรื่องหนัง ‘วัยอลวน 5’ ที่เขากำกับ และเจอปัญหาว่า เมื่อแรกเข้าโรงภาพยนตร์ มีรอบฉายแค่ไม่กี่โรง แถมยังเป็นโรงละ 1 รอบ ตอนสิบโมงเช้า ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้เขาหมดตัวแน่ กลายเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
หลายคนเห็นใจ จึงชักชวนกันว่าจะไปดู ขณะอีกหลายคนมองว่างานชิ้นนี้เอ๊าท์ พร้อมบอกว่าดู ‘อวตาร 2’ ที่ฉายชนโปรแกรมกันดีกว่า
ด้านไพโรจน์ก็ว่าเขาอยากให้คนที่ดูหนังของเขาแล้ว หรือตั้งใจจะไปดูช่วยส่งเสียงสะท้อนถึงโรงหนังหน่อย เพื่อโรงจะได้ทราบข้อมูล
แล้วในที่สุดเขาก็ได้จำนวนรอบเพิ่มขึ้น

….
ไพโรจน์ซึ่งทำหนังเรื่องนี้ในนาม The 5th Element Film ซึ่งเป็นบริษัทของลูกสาว โดยใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่หนังมีฉายแค่รอบเช้า คำถามที่เขาได้รับคือ
“ถ้าอย่างนี้จะต้องลางานดูกันเลยเหรอ”
ซึ่งฟังแล้วก็ช้ำ
อย่างไรก็ดีทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นไม่ได้กล่าวโทษใคร ขณะเดียวกันก็ยังขอบคุณที่เพิ่มรอบให้
“หนังมีมาตั้งแต่ปี 2519 ถือเป็นหนังอมตะ จะทำแบบไม่ละเอียดไม่ได้ เลยกลายเป็นลงทุนมาก ตัวแสดงนี่เพียบเลย ฉาก โปรดัคชั่นทุกอย่าง แต่พอให้โรงเท่านี้ เราจะขับเคลื่อนอะไรได้ แล้วส่วนใหญ่พอเข้าไปแล้ว ถ้าเกิดไม่มีคนดู เขาก็ถอดเราทิ้ง”

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องเร่งทำ จึงเป็นการพยายามสื่อสารต่อผู้ชมว่า “ตอนนี้หนังมีโรงกลับมาแล้วนะครับ” และ “เรียกร้องขอให้ทุกคนที่อยากจะดู ให้ไปดูหน่อยว่ามีรอบไหน มีโรงไหน และช่วยขยับไปดูหน่อย เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเขาคืนโรงมาให้ แล้วคนไม่ไปดู เพราะไม่รู้ หรือยังไม่พร้อม เดี๋ยวเขาก็จะเอากลับไปอีก”
ที่มีคนมองว่าเรื่องมันเอ๊าท์ ไม่โดนใจ ผู้ชมในยุคสมัยปัจจุบัน “อันนั้นเป็นเรื่องแน่นอนครับ” ไพโรจน์รับ
“ไม่ว่าหนังหรือไม่ว่าอะไร ไม่สามารถที่จะถูกใจคนดูทั้งหมดได้ แต่ต้องให้เราพิสูจน์ก่อน”
“อย่าด้อยค่าหนังไทยตั้งแต่เริ่มต้น”
“ทุกวันนี้โลกของการแข่งขัน บางทีกลุ่มผู้ใหญ่ก็จะดูหนังกลุ่มผู้ใหญ่ วัยรุ่นก็จะดูหนังวัยรุ่น เราโปรโมทตลอด หวังใจว่าจะให้พ่อ แม่ ได้ดู บอกไปว่าหนังเรื่องนี้ ไม่แนะนำให้เด็กวัยรุ่นไปดูนะ เพราะรสนิยมการเสพความบันเทิงมันต่างกัน ซึ่งเราประกาศชัดเจนมาตลอด”

ตอนที่หนังเข้าโรงช่วงปลายปี ตอนนั้นมีหนังเข้าพร้อมกัน 13 เรื่อง ทั้งไทยและเทศ ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าต้องมีการเบียดโรงกัน และแม้วันนี้ วัยอลวน 5 จะมีโรงและมีรอบเพิ่มขึ้น แต่ไพโรจน์ซึ่งทั้งร่วมแสดง และยังควบตำแหน่งผู้กำกับก็ว่า “ณ วินาทีนี้ มันคืนทุนยาก”
“แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็บรรเทา หรือทำให้เราได้โชว์ผลงานให้เห็น ว่าสิ่งที่เราทำมันดี มันเลวยังไง ซึ่งมันเป็นความปรารถนาสูงสุดของคนทำหนัง”

เขายังแสดงความเห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ถ้าหากหนังได้โรงไปเลย 1 โรง ฉายไปแล้ว 3-4 วัน แต่ไม่มีคนดู แล้วถูกถอด “ถ้าเป็นกรณีอย่างนี้ รับได้นะครับ” หรือจะเป็นสลับกัน อย่างวันนี้มีรอบเช้า อีกวันหนึ่งมีรอบเย็น เขาก็คิดว่าคนทำหนังน่าจะยังโอเค
ส่วนที่มีคนเอาวัยอลวน 5 ไปเทียบกับอวตาร 2 แล้วบอกดูอวตาร 2 ดีกว่า ไพโรจน์ก็ว่า ในความเห็นของเขา อวตาร 2 เป็นหนังน่าดู แต่การนำไปเปรียบเทียบ “เราเทียบไม่ได้อยู่แล้ว”
“เราลงทุน 30 ล้าน แต่เขาลงทุน 4,000 ล้าน เขาอาจจะอลังการงานสร้างมากกว่า ความตื่นตาตื่นใจมีมากกว่า แต่ถ้าพูดถึงในมิติของความเป็นไทย เราก็มีความสนุกในแบบของเรา เราก็มีมิติของความประทับใจ ความซาบซึ้งใจ ความเข้าใจในจิตวิญญาณของความเป็นไทย ผมว่าตรงนี้เราสู้ได้ คิดว่าเรามีดีของเรา”


ขณะเดียวกัน “ในฐานะคนไทยด้วยกัน และรักความเป็นไทย ก็น่าที่จะช่วยส่งเสริมหนังไทย แต่ไม่ใช่หลับหูหลับตาส่งเสริม เรื่องอะไรก็ดูไปหมด ไม่ใช่ ให้ดูประวัติความเป็นมา ดูเบื้องหลัง หรือเข้าไปดูหน่อย ว่าคุณภาพของเราเป็นยังไง”
“ผมกล้าพูดได้ว่าผมรักหนังไม่แพ้ใครในโลก อาชีพนี้เริ่มกันมาตั้งแต่ปู่ ย่า สืบทอดกันมาเป็นพ่อ เป็นเรา รักมันที่สุด ต่อไปก็อยากสืบทอดต่อไปเรื่อยๆ”
“พอมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ท้อไหม ท้อแน่นอน แต่เราถอยไม่ได้ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะเราทิ้งสิ่งที่เรารักไม่ได้”
“ก็อยากจะบอกว่าตอนนี้มีโรงคืนมานะ ใครตั้งใจจะดู ช่วยกันดูหน่อย หรือใครที่ไม่ได้คิดจะดู ลองพิจารณาหน่อยว่าดูกันสักรอบได้ไหม”
“ถ้าเห็นรายได้น้อยและตัดสิน มันเป็นการด้อยค่า”
 เพราะฉะนั้น “ไปดูก่อน แล้วค่อยตัดสิน” คือคำขอจากเขา

คุณกำลังดู: ความท้อแต่ไม่ถอย และคำขอ ‘อย่าด้อยค่าหนังไทย’ จาก ไพโรจน์ สังวริบุตร

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด