แนะนำ 8 รถมือสองรุ่นใหญ่ถูกกว่าอีโคคาร์ป้ายแดงที่หาซื้อได้ในปี 2565 นี้

19 ธ.ค. 2565 | 08:35 น.

แม้ว่าตลาดรถยนต์ป้ายแดงเริ่มกลับมาคึกคักหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลง แต่ตลาดรถยนต์มือสองก็ถือว่าคึกคักไม่แพ้กัน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ในราคาคุ้มค่า สามารถเป็นเจ้าของรถรุ่นใหญ่ได้ในราคารถเล็ก Sanook Auto จึงขอแนะนำ 8 รถมือสองรุ่นใหญ่น่าใช้แต่ราคาถูกกว่าอีโคคาร์ป้ายแดง จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย

Toyota Camry (ACV50) รุ่นปี 2012 - 2018
ราคามือสองปัจจุบัน: 380,000 - 890,000 บาท

แม้ว่า Toyota Camry โฉม ACV50 จะตกรุ่นไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังถือว่ายังคงภูมิฐานน่าใช้ แถมยังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร, 2.5 ลิตร และไฮบริด 2.5 ลิตร หากต้องการเป็นเจ้าของในราคาต่ำกว่า 5 แสนบาท ให้เน้นไปที่รุ่นก่อนปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ทางที่ดีควรเลือกคันที่เป็นรถบ้านแท้ๆ ไม่ใช่รถบริษัทหรือประจำตำแหน่งที่มักผ่านการใช้งานมาหนักหน่วง

Honda Accord (G9) รุ่นปี 2013 - 2019
ราคามือสองปัจจุบัน: 450,000 - 890,000 บาท

หากว่าชอบความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว แต่ยังต้องการรถขนาดใหญ่รองรับการใช้งานได้ทั้งครอบครัวแล้วล่ะก็ Honda Accord โฉม G9 ก็น่าจะตอบโจทย์ได้เช่นกัน หากอยากได้ความแรงควบคู่ไปกับความประหยัดก็แนะนำไปเล่นตัวไฮบริด 2.0 ลิตร หรือหากกังวลค่าบำรุงรักษาในระยะยาวก็หันไปเล่นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร หรือ 2.4 ลิตรได้เช่นกัน

Nissan Teana (L33) รุ่นปี 2013 - 2019
ราคามือสองปัจจุบัน: 410,000 - 780,000 บาท

Nissan Teana โฉม L33 เป็นอีกหนึ่งรถดีที่หลายคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าทางนิสสันจะไม่ทำตลาดเทียน่าอีกต่อไปแล้ว แต่โฉมนี้ก็ยังถือว่าร่วมสมัย ขับไปไหนก็ดูดี ขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร พ่วงเกียร์อัตโนมัติ CVT ก็ทั้งแรงและประหยัดไม่น้อยหน้าคู่แข่ง (อย่างน้อยก็ประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 6 สูบ ในรุ่นตัวถัง J31 และ J32 ก็แล้วกัน)

Volvo S80 รุ่นปี 2008 - 2014
ราคามือสองปัจจุบัน: 250,000 - 590,000 บาท

หากใครเป็นสายยุโรปแต่งบจำกัดลองดู Volvo S80 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดูก็ได้ แม้ว่าจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่แนะนำให้เล่นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลรหัส D3 หรือ D4 ที่ทั้งแรงและประหยัด แถมทนมือทนเท้ากว่าที่หลายคนคิด ยิ่งถ้าใครได้สัมผัสเบาะหนังนุ่มๆ และช่วงล่างแน่นหนึบของวอลโว่แล้วล่ะก็ รับรองว่าจะไม่อยากกลับไปมองรถญี่ปุ่นอีกเลย (เว้นแต่เห็นบิลค่าซ่อมเท่านั้นแหละ)

Mazda CX-5 รุ่นปี 2013 - 2017
ราคามือสองปัจจุบัน: 390,000 - 590,000 บาท

สำหรับใครที่ต้องการความอเนกประสงค์มากกว่ารถเก๋งทั่วไปแล้วล่ะก็ Mazda CX-5 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ราคามือสองในปัจจุบันหล่นมาจากป้ายแดงค่อนข้างมาก หากต้องการเน้นค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่จุกจิก ก็ให้ลองมองดูรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร แต่ถ้าอยากได้ความแรงควบคู่ไปกับความประหยัดก็มีเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรเป็นทางเลือก แต่ทางที่ดีควรศึกษาปัญหาเฉพาะรุ่นและแนวทางแก้ไขเสียก่อน รับรองว่าใช้ได้อย่างสบายใจแน่นอน

Nissan X-Trail รุ่นปี 2014 - 2020
ราคามือสองปัจจุบัน: 420,000 - 850,000 บาท

Nissan X-Trail ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ถูกใครหลายคนมองข้ามไปเช่นกัน ทำให้ราคามือสองค่อนข้างตกลงมาจากป้ายแดงพอสมควร แต่ในทางกลับกันสมรรถนะของรถรุ่นนี้ก็ถือว่าไม่แพ้ใคร แถมยังมีห้องโดยสารกว้างขวางรองรับได้ 7 ที่นั่งอีกต่างหาก จะเลือกเครื่องยนต์เบนซินล้วนก็ได้ หรือหันไปคบไฮบริดก็ไม่เลว

Mitsubishi Pajero Sport รุ่นปี 2008 - 2015
ราคามือสองปัจจุบัน: 320,000 - 580,000 บาท

หากต้องการขยับไปพีพีวีรุ่นใหญ่แล้วล่ะก็ Mitsubishi Pajero Sport โฉมแรกก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เพราะรถรุ่นนี้ขึ้นชื่อในด้านความอเนกประสงค์ ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้แบบครบๆ ในยุคนั้น มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร

Kia Grand Carnical รุ่นปี 2006 - 2012
ราคามือสองปัจจุบัน: 290,000 - 420,000 บาท

ส่วนใครที่ต้องการรถครอบครัวจริงๆ สามารถนั่งโดยสารไปได้ทั้งบ้าน แต่ต้องการราคาไม่สูงนัก Kia Grand Carnival ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความอเนกประสงค์ในแบบรถเอ็มพีวีแท้ๆ นั่งสบายทั้ง 3 - 4 แถว แถมยังได้เครื่องยนต์ดีเซล 2.9 ลิตร ที่ให้ความแรงไม่แพ้ค่ายญี่ปุ่น แถมยังประหยัดกว่าเอ็มพีวีที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินล้วนแน่นอน

อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ในการเลือกรถ หลีกเลี่ยงการซื้อรถที่ประสบอุบัติเหตุหนัก พลิกคว่ำ หรือจมน้ำมา รวมถึงมองหาอู่ในการบำรุงรักษารถยะยาวเป็นทางเลือกด้วย ยิ่งปัจจุบันมีกลุ่มในสื่อสังคมออนไลน์ให้ค้นหาข้อมูลรถแต่ละรุ่นอยู่มากมาย เพื่อที่จะได้เลือกคันที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุดนั่นเอง