Nissan Hyper Force ต้นแบบ Hyper EV ที่อาจกลายเป็น GT-R R36 ในอนาคต

Nissan Hyper Force ต้นแบบ Hyper EV ที่อาจกลายเป็น GT-R R36 ในอนาคต

Nissan Hyper Force ต้นแบบซูเปอร์คาร์ขุมพลังไฟฟ้า ถูกเผยโฉมที่งาน Japan Mobility Show 2023 มีลุ้นพัฒนาต่อยอดเป็น GT-R รหัส R36 ในอนาคต

nissan_hyper_force_08

Nissan Hyper Force เป็นหนึ่งในรถต้นแบบตระกูล HYPER จำนวน 5 รุ่นที่ถูกจัดแสดงในงาน Japan Mobility Show 2023 ซึ่งประกอบไปด้วย Hyper Urban, Hyper Adventure, Hyper Tourer และ Hyper Punk โดยทุกรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่แสดงถึงวิสัยทัศน์การดำเนินงานของนิสสันในอนาคต ควบคู่ไปกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Nissan Hyper Force ถูกติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังสูงสุดกว่า 1,000 กิโลวัตต์ ทำงานคู่กับแบตเตอรี่แบบ All-solid-state ซึ่งนิสสันระบุว่าจะช่วยให้การกระจายน้ำหนักเป็นไปอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า e-4ORCE ซึ่งเมื่อรวมกับโครงสร้างตัวถังทำจากวัสดุคาร์บอนน้ำหนักเบา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งทั้งบนสนามแข่งและทางที่มีความคดเคี้ยว

รูปลักษณ์ภายนอกของ Hyper Force มีกลิ่นอายของ GT-R R35 รุ่นปัจจุบัน ด้วยเส้นสายที่เน้นความดุดัน แข็งแรง ทั้งยังรักษาเอกลักษณ์ไฟท้ายแบบ 4 ดวง ที่พบได้ในรถสปอร์ตตระกูล GT-R มาตั้งแต่อดีต โดยรถต้นแบบคันนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับ NISMO เพื่อให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน ควบคู่ไปกับการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม เสริมด้วยล้อฟอจด์คาร์บอนน้ำหนักเบาที่มีส่วนช่วยตามหลักอากาศพลศาสตร์ และช่วยลดความร้อนของระบบเบรกได้

nissan_hyper_force_05

ในเวอร์ชันต้นแบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่ R (Racing) และ GT (Grand Touring) โดยที่โหมด R จะมีการแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่แบบสมรรถนะสูงด้วยโทนสีแดง เช่น การยึดเกาะของยาง, อุณหภูมิยาง, แรงดันอากาศ, อุณหภูมิระบบเบรก, การกระจายกำลังมอเตอร์ และอื่นๆ

ขณะที่โหมด GT จะแสดงข้อมูลด้วยโทนสีน้ำเงิน โดยจะเน้นแสดงข้อมูลที่เรียบง่ายสำหรับการขับขี่ทั่วไป เช่น ระบบปรับอากาศ, ระบบเครื่องเสียง, ระบบช่วงล่าง และระบบกันโคลง โดยนิสสันระบุว่า Hyper Force เป็นรถรุ่นแรกของโลกที่สามารถปรับการทำงานของช่วงล่างและกันโคลงผ่านหน้าจอขณะขับขี่ได้

nissan_hyper_force_04

เบาะนั่งคู่หน้าถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรงสูง และการออกแบบที่ช่วยเพิ่มความสบายสำหรับการขับขี่ระยะไกล ทั้งยังติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติที่ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ LiDAR และเซ็นเซอร์อีกหลายจุดรอบคัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งบนถนนจริงและสนามแข่งขัน

นอกจากนี้ Hyper Force ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่บนโลกเสมือนและโลกจริงได้อย่างไร้รอยต่อ โดยผู้ขับขี่สามารถสวมหมวกกันน็อกแบบพิเศษเพื่อเล่นเกมขับขี่เสมือนจริงร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ผ่านทางออนไลน์ ขณะที่เทคโนโลยี AR จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถแข่งขันกับเพื่อนหรือนักแข่งคนอื่นๆ ด้วยการฉาย Digital Ghost ขณะขับขี่บนสนามแข่งจริงๆ ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า Nissan Hyper Force จะถูกพัฒนาต่อยอดไปเป็น GT-R R36 ในอนาคต

คุณกำลังดู: Nissan Hyper Force ต้นแบบ Hyper EV ที่อาจกลายเป็น GT-R R36 ในอนาคต

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด