ป้ายจราจรแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร?

ป้ายจราจรบนท้องถนนที่เราพบเห็นกันอยู่ทุกวันนั้นมีหลากหลายรูปแบบและสีสัน ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายและหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง บทความนี้ Sanook Auto จะมาไขข้อข้องใจว่าป้ายแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร

ป้ายพื้นสีขาว

ป้ายพื้นสีขาวส่วนใหญ่จะเป็นป้าย "บังคับ" หรือ "เตือน" โดยป้ายบังคับจะมีขอบสีแดงและสัญลักษณ์สีดำ เช่น ป้ายห้ามเลี้ยวขวา ป้ายห้ามกลับรถ หรือป้ายจำกัดความเร็ว ส่วนป้ายเตือนจะมีขอบสีดำและสัญลักษณ์สีดำเช่นกัน เช่น ป้ายทางโค้ง ป้ายทางแคบ หรือป้ายทางขรุขระ ป้ายประเภทนี้มีไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน

ป้ายพื้นสีเหลือง

ป้ายพื้นสีเหลืองส่วนใหญ่จะเป็นป้าย "เตือน" เช่น ป้ายเตือนทางแยก ป้ายเตือนทางข้ามทางรถไฟ หรือป้ายเตือนเขตโรงเรียน ป้ายประเภทนี้มีไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า

ป้ายพื้นสีส้ม

ป้ายพื้นสีส้มส่วนใหญ่จะเป็นป้าย "เตือน" ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนน เช่น ป้ายเตือนทางเบี่ยง ป้ายเตือนคนทำงาน หรือป้ายเตือนเครื่องจักรกำลังทำงาน ป้ายประเภทนี้มีไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้างหรือซ่อมแซม

ป้ายพื้นสีฟ้า

ป้ายพื้นสีฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นป้าย "แนะนำ" หรือ "ข้อมูล" เช่น ป้ายบอกทาง ป้ายบอกระยะทาง หรือป้ายบอกสถานที่สำคัญ ป้ายประเภทนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ขับขี่ในการเดินทาง

ป้ายพื้นสีแดง

ป้ายพื้นสีแดง เป็นป้าย "ห้าม" หรือ "หยุด" เช่น ป้ายหยุด ป้ายห้ามเข้า หรือป้ายห้ามจอด ป้ายประเภทนี้มีไว้เพื่อบังคับให้ผู้ขับขี่หยุดรถ หรือห้ามกระทำการบางอย่าง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

การเข้าใจความหมายของป้ายจราจรแต่ละสีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่อย่างปลอดภัย การปฏิบัติตามป้ายจราจรอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้การจราจรบนท้องถนนเป็นไปอย่างราบรื่น

คุณกำลังดู: ป้ายจราจรแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร?

หมวดหมู่: เคล็ดลับยานยนต์