เปิดใจ ผอ.โรงเรียนสิริรัตนาธร เผยที่มาจม. การสอบไม่ได้ตัดสินอนาคตเด็ก

ผู้อำนวยการโรงเรียนสิริรัตนาธร เผยถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของการออกจดหมายถึงผู้ปกครองนักเรียน เพื่อให้เข้าใจลูกหลาน และอย่าให้ผลการเรียนมาตัดสินอนาคตเด็ก

เปิดใจ ผอ.โรงเรียนสิริรัตนาธร เผยที่มาจม. การสอบไม่ได้ตัดสินอนาคตเด็ก

จากจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสิริรัตนาธร ที่ผู้อำนวยต้องการส่งสารให้เกิดความเข้าใจลูกหลาน และอย่ามองว่าผลการสอบเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตเด็ก ทำให้เกิดกระแสชื่นชมในโลกโซเชียล ถึงแนวคิดที่ทันสมัยและเข้าใจเด็กยุคใหม่ของโรงเรียนแห่งนี้

ดร.สายันต์ ต่ายหลี ผู้อำนวยการโรงเรียนสิริรัตนาธร ได้เผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงวัตถุประสงค์ในการโพสต์หนังสือประกาศเรื่องการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โดยมีใจความในย่อหน้าแรกที่ต้องการส่งสารไปยังผู้ปกครองของเด็กนักเรียนว่า การสอบไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จของลูกหลานเสมอไป เพราะอนาคตของเด็กยังอีกยาวไกล และมีเรื่องให้เรียนรู้อีกมากมาย จึงอยากให้ผู้ปกครองเข้าใจในตัวเด็ก และไม่ตัดสินด้วยผลสอบที่มีคะแนนดีๆ เท่านั้น

“ใจความของจดหมายนี้ผมแปลมาจากข้อความที่ส่งต่อกันมา ซึ่งเป็นเรื่องของประเทศสิงคโปร์ที่เคยมีข่าวว่าผู้ปกครองกดดันลูกหลานเรื่องผลการเรียน จนทำให้เด็กเครียดจนฆ่าตัวตาย เช่นเดียวกับสังคมของเกาหลีใต้ที่คาดหวังเรื่องการเรียนของเด็กๆ สูงมาก ตั้งแต่ประถมจนทำให้เด็กไม่มีความสุขในชีวิต ผมจึงต้องการส่งสารนี้ไปยังผู้ปกครองให้เกิดความเข้าใจลูกหลาน ว่าถึงแม้ผลการสอบของลูกหลานจะออกมาไม่ดี แต่ไม่ได้แปลว่าเด็กไม่เก่ง เขาอาจจะเก่งด้านอื่นที่ผู้ปกครองไม่รู้มาก่อนก็ได้”

ขณะเดียวกัน ดร.สายันต์ ก็ต้องการส่งสารนี้ไปยังเด็กนักเรียนด้วยเช่นกัน เพื่อให้เด็กได้ฉุกคิดว่าตอนนี้เขาสนใจเรื่องอะไรมากที่สุด ค้นหาความต้องการของตนเองให้เจอ และทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง

เมื่อถามถึงความกดดันเรื่องการเรียนในสังคมไทยที่มีต่อเด็กๆ เมื่อเทียบกับสิงคโปร์และเกาหลีใต้แล้ว ดร.สายันต์ ให้ความเห็นว่า ในวัฒนธรรมไทยที่มีทั้งการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย รวมกัน และครอบครัวเล็กที่มีแค่พ่อ แม่ ลูก ก็มีความกดดันเช่นกัน แต่การมีโควิด-19 ระบาดก็ทำให้กระทบกับการใช้ชีวิตในหลายๆ ด้าน ทำให้ความกดดันที่มีต่อการเรียนของลูกหลานไม่มากเท่าสิงคโปร์และเกาหลีใต้ เพราะมีเรื่องอื่นให้น่ากังวลมากกว่า

“ผมคิดว่าเด็กไทยมีความกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงความเห็น ดังที่เราจะเห็นในหลายๆ รูปแบบตามสื่อต่างๆ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมของเรายังไม่มีความกดดันเรื่องการเรียนเท่า 2 ประเทศที่กล่าวมา”

เป็น ผอ.โรงเรียน ต้องเข้าใจเด็กยุคใหม่

จากการที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนจึงต้องทำความเข้าใจเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ และต้องปรับทัศนคติพ่อแม่และผู้ปกครองเพื่อให้เข้าใจลูกหลานด้วย เนื่องจากช่วงชีวิตในวัยมัธยมเป็นช่วงวัยรุ่นที่ต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งเรื่องกายภาพร่างกาย อารมณ์ ความคิด การแสดงออก ที่เปลี่ยนไปจากช่วงวัยเด็กประถมค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของเด็กยุคใหม่ให้มากขึ้น

ดร.สายันต์ ต่ายหลี ผู้อำนวยการโรงเรียนสิริรัตนาธร กำลังพูดคุยกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง
ดร.สายันต์ ต่ายหลี ผู้อำนวยการโรงเรียนสิริรัตนาธร กำลังพูดคุยกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง

“เราต้องมีวิธีบริหารจัดการเด็กๆ โดยดูจากความเชื่อมโยงของเด็กวัยรุ่นในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่แต่ละยุคมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นตัวแปรต่อความรู้สึกนึกคิดของเด็กๆ จำนวนมาก จึงเป็นความท้าทายที่จำเป็นต้องทำให้เราเข้าใจเด็กวัยรุ่นยุคนี้ที่ไม่เหมือนกับสมัยก่อน”

สำหรับผลการตอบรับของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อประกาศดังกล่าว ส่วนใหญ่จะแสดงความคิดเห็นไปในทางด้านบวก เช่น เห็นด้วยกับประกาศนี้ ชื่นชมกับแนวคิดนี้ และหลายคนก็จะหันหน้าเข้าลูกเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจกันมากขึ้น

ส่วนความคิดเห็นของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะเป็นการแซวคืนแบบหยอกล้อว่าต่อไปไม่ต้องส่งการบ้าน หรือไม่ต้องสอบแล้วก็ได้ ซึ่งเขาเข้าใจดีว่าเป็นการแซวเล่นแบบสนุกสนาน เพราะเด็กๆ ก็รู้ถึงความสำคัญว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทำ ในวัยนี้เด็กอาจจะมองแค่อนาคตของตนเองในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กจะสนใจเรื่องอนาคตของตัวเองในระยะยาวมากขึ้น.

ขอบคุณภาพ:โรงเรียนสิริรัตนาธร

คุณกำลังดู: เปิดใจ ผอ.โรงเรียนสิริรัตนาธร เผยที่มาจม. การสอบไม่ได้ตัดสินอนาคตเด็ก

หมวดหมู่: แม่และเด็ก

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด