ภาพคันจริง NETA GT สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า 100% จ่อเผยโฉมที่งาน Motor Expo 2023
ชมภาพคันจริง NETA GT รถสปอร์ตคูเป้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 100% พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูงสุด 462 แรงม้า (PS) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.7 วินาที เตรียมเผยโฉมจริงในไทยที่งาน Motor Expo 2023
NETA GT ถูกพัฒนาให้เป็นรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ถูกเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีนเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มส่งมอบถึงมือลูกค้าในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น โดยคันที่เตรียมนำมาจัดแสดงในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2023 ยังคงเป็นเวอร์ชันพวงมาลัยซ้าย ประกอบไปด้วย 2 รุ่นย่อย คือ GT 660 (รุ่น Long Range) และ GT 580 AWD (รุ่น Performance)
ระบบขับเคลื่อน NETA GT
NETA GT 660 (รุ่น Long Range) ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 231 แรงม้า (PS) หรือ 170 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.5 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 74.48 kWh มีระยะทางขับขี่สูงสุด 660 กม. (ตามมาตรฐานการทดสอบ CLTC)
NETA GT 580 AWD (รุ่น Performance) ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว กำลังรวมสูงสุด 462 แรงม้า (PS) หรือ 340 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 74.48 kWh มีระยะทางขับขี่สูงสุด 580 กม. (ตามมาตรฐานการทดสอบ CLTC)
NETA GT ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบ Five-link พร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 245/45 R19 โดยรุ่น GT 580 AWD จะถูกเพิ่มเติมด้วยคาลิเปอร์เบรกสีแดง และยาง Michelin Pilot Sport 4 High Performance เป็นมาตรฐานจากโรงงาน
ดีไซน์ภายนอกสไตล์สปอร์ตคูเป้
NETA GT ถูกออกแบบให้เป็นรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู พร้อมห้องโดยสารจัดวางแบบ 2+2 ที่นั่ง มาพร้อมกระจกประตูแบบ Frameless เพิ่มความทันสมัยด้วยมือเปิดประตูภายนอกแบบไฟฟ้า (Auto Present Door Handle) ที่จะยกตัวออกเมื่อปลดล็อกประตูรถ และหลังคากระจกแบบ Panorama Glass Roof ช่วยเพิ่มความโปร่งภายในห้องโดยสาร รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ทั้งหมด
กุญแจอัจฉริยะ (Smart Key) ของ NETA GT ควบคุมผ่านระบบสัมผัส โดยผู้ใช้งานจำเป็นต้องกดปุ่มที่ต้องการไว้ชั่วครู่แล้วปล่อย จากนั้นจะขึ้นไฟรูปวงแหวนสีเขียวบริเวณรีโมตเพื่อแสดงถึงการทำงาน โดยกุญแจของ NETA GT ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย โดยสามารถวางตัวกุญแจไว้บน Wireless Charger ภายในรถเพื่อชาร์จไฟได้ตามต้องการ
ห้องโดยสารดีไซน์สุดล้ำ
ภายในห้องโดยสารของ NETA GT ทั้ง 2 รุ่นย่อย ถูกออกแบบเน้นดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมระบบเปิดประตูแบบไฟฟ้าผ่านปุ่มที่ติดตั้งบริเวณแผงประตู และสวิตช์ควบคุมหน้าต่างแบบสัมผัสทั้งหมด ขณะที่การเข้า-ออกเบาะนั่งแถวหลังสามารถกดปุ่มบริเวณด้านในของเสา B-pillar จากนั้นตัวเบาะจะเลื่อนไปทางด้านหน้าโดยอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และกดอีกครั้งเมื่อให้เบาะเลื่อนกลับมายังตำแหน่งเดิม
NETA GT ถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบ Ultra-thin ขนาด 17.6" วางตัวในแนวตั้ง ทำงานบน Smart Cockpit Platform ที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon ในการประมวลผล รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันความบันเทิง เช่น WeTV ได้
บริเวณที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ถูกบุด้วยวัสดุคล้ายหนังกลับเพื่อป้องกันอุปกรณ์ลื่น สามารถวางกุญแจ Smart Key เพื่อชาร์จไฟได้ ใกล้กันเป็นปุ่มรูปสายฟ้าใช้สำหรับควบคุมการทำงานของระบบ One-Click Eject Button ซึ่งมีลักษณะการทำงานแบบเดียวกับระบบ Launch Control เพื่อให้การออกตัวทำได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
NETA GT ยังถูกอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, ระบบควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน, กล้องมองภาพรอบคันที่สามารถเลือกมุมมองได้อย่างอิสระ, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ NETA Pilot 2.5 ที่มีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 2 เป็นต้น
ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างของ NETA GT ก็คือระบบช่วยเหลือการขับขี่ NETA Pilot 2.5 ที่อาศัยการทำงานของเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้รอบคันทั้ง Millimeter Wave Radar 5 จุด, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 จุด, กล้องด้านหน้าแบบ High Perception, กล้องรอบคัน พร้อมระบบประมวลผล Journey 3
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการทำงานของฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ ได้แก่
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ICA
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลนขณะความเร็วสูง HWA
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
ระบบช่วยเตือนการชนรถคันหน้า FCW
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
ระบบช่วยเตือนวัตถุด้านหน้า FCTA
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง TCTA
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW
ระบบเตือนป้ายจราจร TSR
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA และอื่นๆ
ขายจริงแล้วที่จีน แต่ไทยยังไม่ชัดเจน
NETA GT มีราคาจำหน่ายในประเทศจีนอยู่ระหว่าง 178,800 - 226,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 890,000 - 1,130,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับรถสปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า 100% ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 4 วินาที
ปัจจุบันยังไม่มีแผนการทำตลาดในประเทศไทยที่แน่ชัดออกมา โดยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดเพื่อการผลิตเวอร์ชันพวงมาลัยขวา ขณะที่ NETA S ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีโอกาสเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ทาง Neta Auto (Thailand) ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะมีรุ่นใดรุ่นหนึ่งทำตลาดในไทยในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
คุณกำลังดู: ภาพคันจริง NETA GT สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า 100% จ่อเผยโฉมที่งาน Motor Expo 2023
หมวดหมู่: รถยนต์