โผล่แล้ว สุดหล่อออฟโรดหรู Mercedes-Benz New GLC Coupé 2023

Mercedes-Benz New GLC Coupé 2023 เครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล สี่สูบเรียง เทอร์โบ พ่วง Mild Hybrid 48V หรือ Plug in Hybrid ชาร์จเต็มวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไกล 119 กิโลเมตร เข้าไทยเร็วๆ นี้....

โผล่แล้ว สุดหล่อออฟโรดหรู Mercedes-Benz New GLC Coupé 2023

Mercedes-Benz GLC Coupé รุ่นใหม่ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบ ให้ผนวกเข้ากับสมรรถนะแบบสปอร์ต ประสิทธิภาพของระบบส่งกำลัง เครื่องยนต์สันดาปภายในทุกรุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ระบบปลั๊กอินไฮบริดที่มีช่วงพลังงานไฟฟ้าเหมาะกับความต้องการในชีวิตประจำวัน นั่นคือการวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไกล 119 กิโลเมตรโดยไม่ติดเครื่องยนต์ หรือเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบ Mild Hybrid 48V พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ทเตอร์เจนเนอเรเตอร์ในตัว เพื่อตัดการเชื่อมต่อแบบเก่าที่ใช้สายพาน (ปั้มน้ำไฟฟ้า) ระบบสะสมพลังงาน regenerative braking

GLC Coupes ปี 2023 ทุกรุ่น วางเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ระบบไฮบริด 48 โวลต์ กำลัง 255 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐานMercedes แจ้งว่า GLC Coupe 2024 ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.8 วินาที GLC Coupe ใหม่ยังมีระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุง ระบบเพลาหน้าสี่ลิงก์ใหม่และการติดตั้งด้านหลังแบบมัลติลิงก์ เพื่อช่วยให้มวลทั้งหมดนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการยึดเกาะและความสบาย

GLC Coupe 2023 Plug-in Hybrid สามรุ่นที่จะขายในยุโรป ได้แก่ GLC300e 4Matic เครื่องยนต์เบนซินพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 230kW 312 แรงม้า ตามด้วย GLC400e 4Matic ซึ่งมีกำลังขับรวมกันที่ 280kW 380 แรงม้า รวมถึงรุ่นดีเซลปลั๊กอินไฮบริด GLC300de 4Matic กำลัง 245kW 333 แรงม้า

GLC Coupe 2023 Plug in Hybrid ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 31.2kWh ทำให้มีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าระหว่าง 119 กม. ถึง 131 กม. สำหรับรุ่นเบนซิน-ไฟฟ้า และระหว่าง 113 กม. และ 130 กม. สำหรับรุ่นดีเซล-ไฟฟ้า

แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้สูงสุด 11kW สำหรับระบบชาร์จไฟกระแสสลับ AC และสูงสุด 60kW สำหรับเครื่องชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC สามารถชาร์จจนเต็มได้ในเวลาประมาณ 30 นาที ตามข้อมูลของ Mercedes-Benz

สำหรับ GLC43 4Matic Coupe และ GLC63 4Matic+ Coupe จากแผนกปรุงแต่งรถตราดาวสมรรถนะสูง AMG ของ Mercedes-Benz ยังไม่มีรายละเอียดคาดว่า ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ขนาด 407 แรงม้า และ 680 แรงม้า ใน GLC Coupe 43 4Matic และ GLC Coupe 63 E Performance 4Matic+

GLC Coupe ใหม่ใช้แพลตฟอร์ม MRA รุ่นปรับปรุง ออกแบบให้ช่วงล่างสามารถใช้งานได้ในเกือบทุกสภาพภูมิประเทศ ไม่ว่าจะอยู่บนไฮเวย์หรือเส้นทางออฟโรดนอกถนนหลักช่วงล่างแบบสปอร์ตออปชันพิเศษ ตัวเลือกการบังคับเลี้ยวที่เพลาหลัง 4.5° ทำให้รถมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นอยู่ในแพ็กเกจเทคโนโลยี พร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC และการขับขี่ออฟโรดด้วยไฟฟ้าล้วนในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด หน้าจอแบบออฟโรดและ "จอภาพที่มีฟังก์ชันใหม่ แสดงภาพจำลองฝากระโปรงแบบโปร่งใสเพื่อการวางตำแหน่งล้อหน้าบนเส้นทางวิบาก เป็นไปอย่างถูกต้องลดความผิดพลาดในการวางตำแหน่งรถเมื่อขับลุยฝ่าทางออฟโรด กล้อง 360° ที่เชื่อมต่อกับซอฟแวร์ เปิดมุมมองของความปลอดภัยแบบใหม่

Mercedes-Benz GLC Coupé ติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชันล่าสุดการแสดงภาพในโหมดไดรเวอร์และจอแสดงผลส่วนกลาง ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายและสะดวกสบาย หน้าจอ LCD สองจอ แสดงข้อมูลที่ชัดเจนและมีโครงสร้างรูปแบบคล้ายกับจอภาพใน New C-Class W206 ระบบนำทางแบบเต็มหน้าจอ ให้คำแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุดแก่ผู้ขับขี่ MBUX Augmented Reality สำหรับการนำทาง มีให้ใช้งานเป็นออปชันเสริม กล้องบันทึกภาพบริเวณด้านหน้ารถ จอแสดงผลส่วนกลางแสดงภาพเคลื่อนไหวและยังซ้อนทับวัตถุ ข้อมูลต่างของการขับเคลื่อน และเครื่องหมายเสมือนจริงบนถนน ได้แก่ ป้ายจราจร ลูกศรบอกทิศทาง คำแนะนำการเปลี่ยนช่องทาง รวมถึงตำแหน่งของบ้านเลขที่ ทำให้การนำทางง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมือง ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการตอบสนองบริการสตรีมเพลง รวมเข้ากับระบบสาระบันเทิง MBUX ที่อ่านข้อมูลเกี่ยวกับจุดสนใจตลอดเส้นทาง ระบบจะตอบสนองต่อป้ายแจ้งเตือนสีเหลือง ฟ้า ขาว ตามมอเตอร์เวย์ ฟังก์ชัน MBUX Smart Home ช่วยให้ลูกค้าบนท้องถนนใน GLC Coupé ใหม่ สามารถเข้าถึงระบบบ้านอัจฉริยะ เช่น ตรวจสอบและปรับอุณหภูมิ ไฟ มู่ลี่ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

Mercedes-Benz GLC Coupé เน้นภาพลักษณ์สปอร์ตเอสยูวี อุปกรณ์ของรุ่น AVANTGARDE มาพร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว และแพ็กเกจตกแต่งภายนอกด้วยพลาสติกโครเมียม รุ่นไฮบริดเปิดตัวด้วยยางแบบผสมที่มีความกว้างต่างไซล์กัน การเน้นความกว้างของตัวรถ จากไฟหน้าไปยังกระจังหน้าแบบไร้รอยต่อ พร้อมตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉกบนฝาครอบกระจังหน้า สัดส่วนและซุ้มล้อที่ดูบึกบึน เพิ่มความสมดุลระหว่างความสง่างามและพลังงานของระบบขับเคลื่อนพ่วง ISG Integrated Starter-generator รุ่น AMG Line มาพร้อมล้ออัลลอย AMG ขอบ 20 นิ้ว และยางรองซุ้มล้อในสีตัวถังล้อมีการเคลือบเงา พร้อมพื้นผิวสองสี อากาศพลศาสตร์ของตัวถังทรงคูเป้ยกสูง มีการปรับให้เหมาะสมด้วยรูปทรงพิเศษ เน้นความกว้างของตัวรถด้วยไฟท้ายแบบสองส่วน พร้อมองค์ประกอบเชื่อมต่อสีดำและสีแดงเข้ม ปิดด้านล่างของกันชนหลังด้วยแผ่นกันรอยโครเมียม

ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GLC Coupé AVANTGARDE แดชบอร์ดมีโครงสร้างที่ชัดเจน ส่วนบนมีลักษณะเหมือนปีก พร้อมช่องแอร์แบบใหม่ที่แบนราบ ส่วนล่างของแดชบอร์ด มีพื้นที่ตกแต่งกว้างขวางที่ไหลเข้าไปยังคอนโซลกลางแบบโค้งได้อย่างไร้รอยต่อ จอ LCD ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว (31.2 ซม.) ด้านหน้าคนขับ ดูเหมือนจะลอยอย่างอิสระเหนือโครงปีกและแผ่นปิด สำหรับจอแสดงผลส่วนกลาง ขนาด 11.9 นิ้ว (30.2 ซม.) ลอยขึ้นจากคอนโซลกลางเช่นเดียวกับแดชบอร์ด พื้นผิวของหน้าจอจะทำมุมเข้าหาคนขับเล็กน้อยเพื่อประสิทธิภาพการมองเห็นและการสัมผัสเพื่อใช้งาน แผงกลางประตูพร้อมที่วางแขนในตัว เปลี่ยนจากพื้นผิวแนวตั้งเป็นแนวนอน เชื่อมโยงกับการออกแบบของคอนโซลกลาง องค์ประกอบไฮเทคด้วยสีเมทัลลิก สามารถใช้เป็นที่จับที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งปุ่มควบคุมกระจกไฟฟ้า คุณสมบัติใหม่คือชุดควบคุมแบบล่าสุด ซึ่งรวมการควบคุมที่เปิดประตูและการปรับเบาะนั่งเข้าด้วยกัน พนักพิงศีรษะและการเชื่อมต่อกับพนักพิงมีฝาปิดได้รับการออกแบบใหม่ สำหรับ AMG Line แดชบอร์ดที่บุด้วยหนัง พร้อมเส้นคาดแบบ nappa-look องค์ประกอบการตัดแต่งบางส่วนมีพื้นผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งรวมถึงไม้วีเนียร์รูพรุนสีน้ำตาล สีแอนทราไซต์ และสีดำ พร้อมชิ้นงานอะลูมิเนียม

มิติตัวถังของ Mercedes-Benz GLC Coupé ใหม่มีขนาดความยาว 4,763 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 31 มิลลิเมตร ความสูง 1,699 มิลลิเมตร สูงกว่ารุ่นก่อน 5 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,888 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 6 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,627 มิลิลเมตร กว้างขึ้น 6 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง1,640 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 23 มิลลิเมตร ความยาวรถที่ยาวขึ้นส่งผลดีต่อระยะฐานล้อและระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนขนาดของความกว้างยังคงเดิมที่ 1,890 มิลลิเมตร New GLC Coupé จุสัมภาระได้มากกว่ารุ่นแรก เพื่อความพร้อมสำหรับการเดินทางพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 545 ลิตร (มากกว่ารุ่นก่อน 45 ลิตร) เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 1,490 ลิตร (เพิ่มอีก 90 ลิตร) ในรุ่นMild Hybrid 48V และ 390-1,335 ลิตรในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ประตูท้าย EASY-PACK เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งจะเปิดหรือปิดด้วยการกดปุ่มโดยใช้กุญแจสตาร์ทรถ สวิตช์ที่ประตูคนขับ หรือที่จับปลดล็อกที่ประตูท้าย

อากาศพลศาสตร์
ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ New GLC Coupé นั้นต่ำแค่ Cd 0.27 มันทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนถึงสามเท่า (รุ่นที่แล้วมีตัวเลขค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศ Cd 0.30) การ ปรับแต่งโดยคำนึงถึงแรงต้านทานของกระแสลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ เกิดจากการจำลองการไหลแบบดิจิตอล (CFD - พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ) รวมถึงการทดสอบในอุโมงค์ลม เสียงลมและเสียงยางลดต่ำลง เกิดจากการปรับแต่งระบบป้องกันเสียงแปลกปลอมภายนอก เปลือกตัวถังมีการหุ้มด้วยฉนวนกันเสียงที่ซับซ้อน เมมเบรนกันเสียงในกระจกบังลมหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน GLC Coupé ยังมีหลังคากระจกซันรูฟแบบพาโนรามา พื้นที่เปิดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยาวกว่า GLC SUV ใหม่ ถึง 6 ซม. ในกรณีที่มีแดดแรง สามารถปิดซันรูฟด้วยม่านกันแสง (ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน)

Mercedes-Benz GLC Coupé ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Mild Hybrid 48 โวลต์ ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารุ่นที่สอง ISG Integrated Starter-generator และระบบไฟฟ้าออนบอร์ด 48 โวลต์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ทเตอร์เจนเนอเรเตอร์แบบบูรณาการในรุ่น Mild Hybrid 48V เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะที่ความเร็วรอบต่ำ ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบไฟฟ้าออนบอร์ดขนาด 48 โวลต์ รองรับการทำงานแบบไฮบริด เช่น การเคลื่อนตัว การเร่งความเร็ว และการนำพลังงานจลจากการเบรก หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่มอเตอร์สตาร์ททำงานได้อย่างรวดเร็วและนิ่มนวลกว่าเดิมด้วยการตัดต่อในฟังก์ชัน Auto Start/Stop

เครื่องยนต์อีกรุ่นคือ เครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลแถวเรียงสี่สูบ เทอร์โบ พ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งมีช่วงการขับด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวโดยไม่ติดเครื่องยนต์มากพอ เพื่อตอบสนองความต้องการในทางปฏิบัติ โปรแกรมการขับขี่แบบไฮบริดที่ปรับปรุงใหม่ จะเข้าสู่โหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้าไว้ในส่วนที่เหมาะสมที่สุดโดยอ้างอิงจากลักษณะของเส้นทาง โดยให้ความสำคัญกับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าในการเดินทางในเขตเมือง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเบนซินหรือดีเซลรถสปอร์ตเอสยูวีพ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด GLC Coupé ใหม่ ทุกรุ่นถูกเน้นไปที่ไดนามิกบนท้องถนน

ชุดขับเคลื่อนไฮบริด ติดตั้งมอเตอร์ซิงโครนัสโรเตอร์ภายในเรือนเกียร์ แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมทำงานทันทีตั้งแต่ออกตัว ทำให้มีความคล่องตัวสูงเมื่อออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง สมรรถนะการขับขี่แบบไดนามิก พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เมื่อวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ทำความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. ใน GLC Coupé 2024 วิศวกรของ Mercedes-Benz ใช้หม้อลมเบรกแบบกลไกไฟฟ้า ควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่ยืดหยุ่น ระหว่างการเบรกแบบไฮดรอลิกกับระบบสะสมพลังงาน regenerative braking โดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การขับขี่ ประสิทธิภาพการเบรกที่เหมาะสมตลอดเวลา รับพลังงานการกู้คืนสูงสุดถึง 100 กิโลวัตต์

แบตเตอรี่แรงดันสูงพัฒนาจากรุ่นต่อรุ่น มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 31.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงการชาร์จให้เต็มด้วยอุปกรณ์เสริม สามารถชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรงผ่านเครื่องชาร์จ DC ขนาด 60 กิโลวัตต์ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% นานประมาณ 30 นาที ส่วนการชาร์จไฟในที่พักอาศัย GLC Coupé 2024 ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC แบบสามเฟสขนาด 11 กิโลวัตต์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบสี่ลิงก์ใหม่ ระบบกันสะเทือนด้านหลังอิสระมัลติลิงก์ที่ติดตั้งกับซับเฟรม ออปชันเสริมมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Air Matic และระบบควบคุมระดับความสูงที่เพลาหน้า-หลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่นมาตรฐาน ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราการบังคับเลี้ยวแบบแปรผัน สำหรับออปชันเสริมที่ต้องควักเงินเพิ่ม เป็นระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC และระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลังแบบแอกทีฟ มาพร้อมมุมบังคับเลี้ยว 4.5° ช่วงล่างถุงลม AIRMATIC ให้การตอบสนองที่รวดเร็วในการปรับค่าการทำงานของแอร์สปริง โดยปรับได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับระยะการยุบและการคืนตัวของโช้คอัพไฟฟ้าแบบถุงลม

GLC Coupé ใหม่เพิ่มความคล่องตัวและมั่นคงเป็นพิเศษด้วยระบบช่วยเลี่ยวที่เพลาล้อหลังแบบใหม่(อุปกรณ์เสริม รวมอยู่ในแพ็คเกจ Tech) ที่ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. ล้อหลังจะเลี้ยวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า และเพิ่มมุมเลี้ยวได้ถึงขึ้นถึง 4.5° เมื่อจอดรถ ทำให้การกลับลำมีระยะสวงเลี้ยวที่สั้นลง มีความคล่องตัวมากขึ้น วงเลี้ยวลดลง 90 ซม. เหลือ 10.9 เมตร เมื่อความเร็วถึง 60 กม./ชม. ขึ้นไป ล้อหลังจะหักเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าได้ถึง 4.5° ฐานล้อที่ขยายออกเสมือนข้อได้เปรียบในรูปแบบของเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้นและความปลอดภัยเมื่อใช้ความเร็วสูง ระหว่างการเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็วหรือการหลบหลีกอย่างกะทันหัน ในระหว่างการบังคับเลี้ยว รถจะตอบสนองต่อคำสั่งพวงมาลัยมากขึ้น ระบบช่วยเลี้ยวที่เพลาหลังจะรวมกับอัตราส่วนการบังคับเลี้ยวที่เพลาหน้าโดยตรงมากขึ้น เพื่อลดการหมุนของพวงมาลัยจากล็อกไปถึงล็อก

แพ็กเกจ Driving Assistance Plus ล่าสุด ประกอบด้วยฟังก์ชันเพิ่มเติม ระบบช่วยรักษาระยะห่างแบบแอกทีฟ DISTRONIC สามารถรักษาระยะห่างที่ตั้งไว้ล่วงหน้ากับรถคันหน้าบนถนนทุกประเภท : บนมอเตอร์เวย์ ถนนในชนบท หรือในเมือง สามารถเลือกขีดจำกัดความเร็วปัจจุบันเป็นการตั้งค่าความเร็วได้ด้วยการกดปุ่ม ระบบช่วยเบรกแบบแอกทีฟ ใช้เซนเซอร์ที่ติดตั้งในรถยนต์เพื่อตรวจจับการชนที่ใกล้จะเกิดขึ้นกับการข้ามถนนหรือการจราจรคับคั่งจากรถที่กำลังสวนมา ในกรณีจะที่เกิดอันตราย ระบบสามารถแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพได้ หากผู้ขับขี่ไม่สามารถเบรกได้แรงพอ ระบบเสริมแรงเบรกจะเพิ่มแรงเบรกอย่างเหมาะสมหรือใช้การหยุดฉุกเฉิน คุณสมบัติใหม่ของพวงมาลัยไฟฟ้า Active Steering Assist คือการตรวจจับช่องทางเดินรถด้วยกล้อง 360 องศา โดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำ เช่น เมื่ออยู่ในเลนฉุกเฉิน ฟังก์ชันการเตือนป้ายหยุดและสัญญาณไฟจราจรสีแดงของ Traffic Sign Assistant เป็นแบบใหม่ เซนเซอร์ตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่ทรงพลัง ระบบช่วยจอดรถรองรับผู้ขับได้ดีขึ้นขณะบังคับทิศทาง การรวมเซนเซอร์เข้ากับ MBUX ทำให้การทำงานง่ายขึ้นและให้การสนับสนุนผ่านการแสดงผลด้วยภาพ การบังคับเลี้ยวเพลาหลังที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะรวมอยู่ในระบบช่วยจอดและเส้นทางจะถูกคำนวณตามนั้น ฟังก์ชันเบรกฉุกเฉินยังทำหน้าที่ปกป้องผู้ใช้ถนนรายอื่นเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนที่ดีขึ้น

ระบบช่วยจอดรถใหม่ พร้อมกล้อง 360° เป็นอุปกรณ์เสริม ฟังก์ชันช่วยจอดรถแบบแอกทีฟ PARKTRONIC เปิดทัศนวิสัยรอบด้าน ช่วยให้บังคับทิศทางได้ง่ายขึ้น : จอแสดงผลส่วนกลางแสดงสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชัดเจนด้วยกล้องสี่ตัว (ด้านหน้า, ด้านหลัง, ด้านข้างทั้งสองด้าน) ให้ภาพที่รวมกันเป็นมุมมองแบบเบิร์ดอายวิว 360° หน้าจอยังแสดงมุมมองที่แตกต่างกัน เช่น โหมดด้านหน้า ด้านหลัง หรือโหมดลากจูงรถพ่วง Memory Parking Assistant ช่วยทำให้การจอดง่ายขึ้น : ระบบจะจดจำตำแหน่งที่จอดรถ เช่น วิธีการเข้าและออกจากโรงรถที่บ้าน หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น ระบบจอดอัตโนมัติจะให้ผู้ขับเลือกที่พวงมาลัย ว่าจะดำเนินการจอดรถแบบอัตโนมัติหรือไม่ หาก Memory Parking Assistant ตรวจพบสิ่งกีดขวาง ระบบจะหยุดรถจนกว่าจะนำสิ่งกีดขวางออก

DIGITAL LIGHT
Mercedes-Benz GLC Coupé ติดตั้งไฟหน้า LED High Performance เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนระบบส่องสว่างประสิทธิภาพสูงอย่าง DIGITAL LIGHT กลายมาเป็นอุปกรณ์เสริม แสงสว่างของไฟหน้า ถูกสร้างขึ้นโดยระบบเมทริกซ์ในชุดไฟ LED สามารถควบคุมทิศทางของการส่องสว่างได้อย่างอิสระเพื่อไม่ให้แสงไฟไปรบกวนรถยนต์ทั้งข้างหน้าและรถที่กำลังแล่นสวนทางมา DIGITAL LIGHT กระจายและควบคุมแสงได้ตามเป้าหมาย เพื่อตอบสนองต่อเงื่อนไขต่างๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือทัศนวิสัยที่ดีเมื่อขับบนถนนที่ปราศจากแสงไฟ ไม่รบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่น DIGITAL LIGHT พร้อมฟังก์ชันการฉายภาพเป็นอุปกรณ์เสริม ให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ ช่วยให้สามารถสื่อสารกับรถยนต์คันอื่นบนถนได้ ตัวอย่างเช่น การฉายเส้นนำทาง สัญลักษณ์ และภาพเคลื่อนไหว เทคโนโลยีอัจฉริยะจะไฮไลต์คนเดินถนนในเขตอันตรายด้วยฟังก์ชันสปอตไลต์ และระบุตำแหน่งที่ชัดเจนด้วยจุดทิศทางที่คาดการณ์ไว้ สัญลักษณ์เตือนจะปรากฏขึ้นเมื่อผู้ขับไปผิดทางบนทางมอเตอร์เวย์หรือถนนวันเวย์

Mercedes-Benz GLC Coupé กับโหมดการขับขี่แบบออฟโรดและ DSR (Downhill Speed Regulation) รุ่นปลั๊กอินนำไฮบริด เสนอการขับขี่ออฟโรดด้วยแรงขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตรของมอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน ทำให้ควบคุมกำลังได้ง่าย สามารถขับบนเส้นทางออฟโรดได้อย่างแม่นยำและควบคุมทิศทางได้ง่ายได้แม้ในภูมิประเทศที่ท้าทาย เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานเฉพาะเมื่อรถเคลื่อนที่จริงๆ เท่านั้น ความต้องการพลังงานจึงต่ำที่ความเร็วบนทางออฟโรดปกติ ทำให้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้นาน ในภูมิประเทศที่สมบุกสมบัน

โหมดออฟโรด GLC Coupé มาพร้อมกล้อง 360° มีโหมดมองทะลุฝากระโปรงโปร่งใสผ่านจอแสดงผลส่วนกลาง ที่จะแสดงมุมมองเสมือนจริงใต้ส่วนหน้าของรถ รวมถึงล้อหน้าและตำแหน่งบังคับเลี้ยว ทำให้ผู้ขับ สามารถรับรู้สิ่งกีดขวาง เช่น ก้อนหินขนาดใหญ่หรือหลุมบ่อลึกได้เร็วและง่ายขึ้น โหมดหน้าจอออฟโรดใช้จอแสดงผลสองจอ เพื่อการนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจน การควบคุมและฟังก์ชันหลักสำหรับสภาพถนนแบบออฟโรด เหนือสิ่งอื่นใด จอแสดงผลตรงหน้าคนขับจะแสดงระดับองศาของความลาดเอียง ระดับความสูงของภูมิประเทศ พิกัดทางภูมิศาสตร์ และเข็มทิศ รวมถึงสปีดความเร็วของรถและความเร็วเครื่องยนต์เมื่อทำงานด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน จอแสดงผลส่วนกลางแสดงตำแหน่งภูมิประเทศ ณ ปัจจุบัน แสดงมุมบังคับเลี้ยวของล้อหน้า หากรถมีการบังคับเลี้ยวที่ล้อหลัง ระบบจะแสดงทิศทางการบังคับเลี้ยวของล้อหลังด้วย ฟังก์ชั่นการขับขี่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานแบบออฟโรด ควบคุมได้ง่ายดายผ่านหน้าจอมอนิเตอร์กลาง.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: โผล่แล้ว สุดหล่อออฟโรดหรู Mercedes-Benz New GLC Coupé 2023

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด