พ่อแม่คือลมใต้ปีกของลูก จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของแบรนด์ Keziah สู่เวที New York Fashion Week
หนึ่งในความฝันของพ่อแม่ส่วนใหญ่คือการได้เห็นลูกเติบโต มีอาชีพการงานที่ดีมั่นคง เช่น หมอ ทนายความ วิศวกร นักบัญชี ฯลฯ โดยมองข้ามความฝันของลูกไปว่าเขาต้องการอะไร แต่ไม่ใช่กับครอบครัวชุมพวง
หนึ่งในความฝันของพ่อแม่ส่วนใหญ่คือการได้เห็นลูกเติบโตมีอาชีพการงานที่ดีมั่นคง หลายคนจึงอยากให้ลูกได้ทำอาชีพยอดนิยมอย่าง หมอ ทนายความ วิศวกร นักบัญชี ฯลฯ โดยมองข้ามความฝันของลูกไปว่าเขาต้องการอะไร
แต่ไม่ใช่กับ กรกมล ชุมพวง และ ยุภวัลย์ ย่องภู คุณพ่อคุณแม่ของ เคสิยาห์ ชุมพวง หรือ วินนี่ และ วจนะ ชุมพวง หรือ ฮีโร่ สองพี่น้องวัย 10 และ 11 ขวบ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า “Keziah” ที่ได้โชว์ผลงานของตัวเองบนเวทีระดับโลกอย่าง New York Fashion Week เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเป็นดีไซเนอร์ที่อายุน้อยที่สุดของงานนี้อีกด้วย
แรงผลักดันที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก
“ตอนแรกก็อยากให้ลูกเป็นทนายเหมือนกับเรา เพราะเป็นอาชีพที่ได้การยอมรับในสังคมไทย จนเมื่อได้รู้จักกับเพื่อนบ้านชาวอเมริกันที่เป็นมิชชันนารีที่ชอบงานศิลปะ และสอนให้ลูกเรารักงานศิลปะไปด้วย เขาช่วยจุดประกายให้เรารู้ว่าดีไซเนอร์คืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ที่ประเทศเขางานนี้เป็นอาชีพที่น่ายกย่องไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เราจึงหันมาสนับสนุนให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เขารักอย่างเต็มที่” กรกมล ชุมพวง ผู้เป็นพ่อเล่าถึงที่มาของการสนับสนุนลูกให้เดินทางสู่เป้าหมายที่ตัวเองต้องการกับทีมไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ
กรกมล เผยว่าเมื่อเขาได้ย้อนมองมาดูตนเองและภรรยาที่ทำงานเป็นทนายควา มต้องใช้เวลาศึกษาหาความรู้และทำงานเพื่อหาประสบการณ์จนเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่หลายสิบปี ซึ่งกว่าจะเป็นผู้ที่ชำนาญในด้านอาชีพนี้ได้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว ดังนั้นการที่ลูกๆ ของเขาได้ค้นหาสิ่งที่ชอบเจอตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ยังมีเวลาอีกมากมายที่ได้ฝึกฝนเรียนรู้จนเชี่ยวชาญ และยังมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักอีกด้วย
ผู้ที่นำพาให้น้องวินนี่และน้องฮีโร่ก้าวเข้าสู่แวดวงศิลปะคือเพื่อนบ้านชาวอเมริกันซึ่งเป็นมิชชันนารี ที่มีลูกๆ วัยไล่เลี่ยกันแล้วชอบงานศิลปะ จึงทำให้น้องฮีโร่ผู้เป็นพี่ชายเกิดความสนใจ และชอบวาดภาพตามไปด้วย
กรกมล ยอมรับว่าเขาและภรรยาไม่มีความรู้หรือความสนใจด้านงานศิลปะมาก่อนเลย ทำให้ไม่เข้าใจความสวยงามของผลงานที่ลูกวาด จึงชมไปแค่ว่าเป็นงานที่สวย แต่เมื่อน้องฮีโร่นำผลงานไปให้เพื่อนชาวอเมริกันดู เขาก็ชื่นชมอย่างใจจริง พร้อมทั้งสนับสนุนให้กรกมลนำผลงานของลูกไปใส่กรอบและออกงานแสดงศิลปะต่างๆ และย้ำว่าลูกของเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ ควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์มีคุณค่ามากในประเทศของเขา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรกมลและภรรยาเดินหน้าสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้กับลูกๆ ทั้งสองในการแสดงผลงานอย่างเต็มที่
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Keziah
เริ่มแรกน้องฮีโร่ได้สนใจงานศิลปะและเดินสายออกงานแสดงและงานประกวดไปทั่วประเทศ ก่อนที่น้องวินนี่จะเดินตามรอยพี่ชาย จากการที่ได้ติดตามพี่ชายไปแสดงงานศิลปะในที่ต่างๆ จึงทำให้เธอได้ซึมซับความชอบนี้ไปด้วย
“ตอนที่น้องวินนี่อายุ 6 ขวบ ได้ตามพี่ฮีโร่ไปงานแสดงศิลปะที่หอศิลป์อันดามัน จังหวัดกระบี่ แล้วได้แสดงฝีมือวาดภาพบ้าง และงานนั้นน้องวินนี่ได้รางวัลเหรียญเงินกลับมา ส่วนน้องฮีโร่ได้รางวัลเหรียญทอง โดยศิลปินแห่งชาติที่เป็นกรรมการในงานนั้นบอกว่างานของน้องวินนี่เป็นงานศิลปะแบบ Abstract ซึ่งหาชมได้ยาก ส่วนรูปแบบงานศิลปะของน้องฮีโร่จะเป็นภาพวาดสีน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราอยากเป็นกำลังใจสนับสนุนเขาไปเรื่อยๆ”
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ “Keziah” เกิดจากความต้องการของน้องวินนี่ที่อยากนำงานศิลปะที่วาดออกมาเป็นลวดลายบนผ้า และทำเป็นแบรนด์ของตนเอง ทำให้กรกมลและภรรยาช่วยกันหาหนทางที่จะปั้นแบรนด์ตามความต้องการของลูกๆ ได้ ซึ่งโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากคนรอบตัวทั้งความรู้เรื่องงานแฟชั่นไปจนถึงการทำธุรกิจ จนออกมาเป็นแบรนด์ “Keziah” ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อสามปีก่อน ซึ่งเวลานั้นทั้งสองพี่น้องเพิ่งมีอายุเพียง 7 และ 8 ขวบเท่านั้น และเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเรียนรู้ไปพร้อมกันทั้งครอบครัว
เมื่อแบรนด์เกิดขึ้น ก็ได้นำไปออกงาน Style Bangkok ในฐานะผู้ประกอบการหน้าใหม่ ซึ่งทำให้ทั้งพ่อแม่ลูกได้เรียนรู้การทำธุรกิจแฟชั่น ตั้งแต่การตั้งราคาสินค้า เรียนรู้วิธีการนำเสนอของเพื่อเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้า
ก้าวสู่เวทีระดับโลก
ต่อมาได้รับคำแนะนำจากเพื่อนรุ่นพี่ให้ลองนำแบรนด์ “Keziah” ไปจัดแสดงที่งาน New York Fashion Week ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับครอบครัว ที่ไม่เคยมีพื้นฐานด้านงานแฟชั่นมาก่อน จึงทำให้ทั้งพ่อและแม่ศึกษาข้อมูลเพื่อหาหนทางนำแบรนด์ของลูกไปแสดงที่งานนี้ให้ได้ ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เพราะมีผู้ให้โอกาสพร้อมคอยช่วยเหลือจำนวนมาก และเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีและน่าประทับใจให้กับทุกคนในครอบครัว
“วันที่น้องวินนี่ได้แสดงโชว์ในงาน New York Fashion Week เขาได้โชว์การวาดภาพบนชุดของนางแบบแบบสดๆ ในงาน ทำให้ผู้ร่วมงานที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นชาวต่างชาติต่างตื่นเต้นและประทับใจในความสามารถของน้องวินนี่ที่เป็นดีไซเนอร์อายุแค่เพียง 10 ขวบเท่านั้น” กรกมล เล่าด้วยความภูมิใจในตัวของลูกๆ
เมื่อถามถึงอนาคตของแบรนด์ “Keziah” และลูกๆ ทั้ง 2 คน กรกมล บอกว่าอยากให้เป็นแบรนด์ที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก แต่เป็นการทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบทำธุรกิจ เพราะเส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลกว่าที่ลูกๆ ของเขาจะเติบโตยังต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ อีกมาก
“ผมแค่อยากให้ลูกๆ รู้ว่าพ่อแม่จะคอยอยู่ข้างๆ เป็นทั้งกำลังใจพร้อมทั้งเป็นแรงสนับสนุนส่งเสริมให้เขาได้เรียนรู้สิ่งที่เขาชอบอย่างมีความสุขจนเชี่ยวชาญในด้านนี้” กรกมล ทิ้งท้าย
ขอบคุณภาพ: Hero Wajana, แบรนด์ Keziah
คุณกำลังดู: พ่อแม่คือลมใต้ปีกของลูก จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของแบรนด์ Keziah สู่เวที New York Fashion Week
หมวดหมู่: แม่และเด็ก