ประวัติ “แฮมเบอร์เกอร์” วัฒนธรรมอาหารฟาสต์ ฟู้ด สัญชาติอเมริกา กับความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา
ทำความรู้จัก ประวัติความเป็นมา และวัฒนธรรมดั้งเดิมสำหรับอาหารประจำชาติอเมริกา อย่าง Hamburger (แฮมเบอร์เกอร์) ที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบ
ก่อนจะลิ้มลอง Shake Shack (เชค แชค) ร้านแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) อาหารฟาสต์ ฟู้ด สุดโด่งดัง สัญชาติอเมริกาที่เพิ่งเปิดสาขาในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยคอนเซปต์การนำเสนอ เบอร์เกอร์ริมถนนคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ต้นตำรับแฮมเบอร์เกอร์ในอดีตที่ชวนนึกถึง
ไทยรัฐออนไลน์ จึงอยากชวนมารู้จักประวัติ และวัฒนธรรมของ “แฮมเบอร์เกอร์” ว่ามีต้นกำเนิดมาอย่างไร จนทำให้อาหารฟาสต์ ฟู้ด ชนิดนี้เป็นที่นิยมในตลาดอาหารฟาสต์ ฟู้ด มาได้นานแสนนาน
แฮมเบอร์เกอร์ วิวัฒนาการจากวัฒนธรรมการกินเนื้อบด ก่อนถูกดัดแปลงจนเป็นอาหารประจำชาติอเมริกา
ย้อนกลับไปสมัยมองโกลได้นำ ‘เนื้อบดหมักเกลือ’ เป็นการถนอมอาหารชั้นเลิศที่นิยมในการเดินทัพสมัยนั้น นำเข้าไปเผยแพร่สู่ประเทศรัสเซียในช่วงขยายอาณานิคม เป็นอาหารโปรตีนหลักที่คนรัสเซียชื่นชอบและมีการดัดแปลงสูตร ด้วยการนำเนื้อบดหมักเกลือไปใส่ไข่ หอมหัวใหญ่ และปรุงซอสคลุกให้เข้ากันจนกลายเป็นอาหารชื่อดังอย่าง Steak Tatare
ต่อมา Steak Tatare แพร่หลายในยุโรปด้วยการค้าขายทางเรือ เริ่มต้นจากประเทศเยอรมนี เมือง ‘Hamburg’ (ฮัมบูร์ก) เป็นที่แรกที่ได้ลิ้มลอง Steak Tatare จนพัฒนาสูตรให้ถูกปากยิ่งขึ้นมีชื่อเรียกว่า Hamburg ด้วยการนำเนื้อบดนี้ไปย่าง อบ ทอด แทน ซึ่งเป็นเมนูที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ มีรสชาติดี จนเกิดความนิยมต่อๆ กันในกลุ่มคนเยอรมัน
หลังจากการย้ายถิ่นฐานของคนเยอรมัน ในช่วงอพยพเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้นำสูตรอาหารนี้ไปแพร่ขยายต่อจนเป็นต้นกำเนิดของอาหารที่มีชื่อเรียกว่า ‘Hamburger’ ซึ่งเป็นที่นิยม และครองใจคนอเมริกาได้มากที่สุดด้วยการดัดแปลงเมนูโดยการใส่ขนมปัง ชีส ผัก และซอสต่างๆ เพิ่มเข้าไป อีกทั้งยังมีการพัฒนาแฮมเบอร์เกอร์ในหลายประเทศทั่วโลกจนมีลักษณะพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไปตามพื้นที่
แฮมเบอร์เกอร์ที่พัฒนาออกมาในสไตล์ต่างๆ จากทั่วโลก
- แฮมเบอร์เกอร์อเมริกา (Cheese Burger) นิยมมากที่สุดทั่วโลก ทานง่าย ถูกปากรสชาติดี ส่วนประกอบหลักจะเป็นเนื้อบดชนิดต่างๆ ทำการย่างควบคู่ไปกับชีส มีผัก และซอสต่างๆ เป็นส่วนผสมพร้อมประกบด้วยขนมปัง
- แฮมเบอร์เกอร์เวียดนาม (Banh Mi Burger) แฮมเบอร์เกอร์ที่ได้รับการผสมผสานระหว่างอเมริกา และฝรั่งเศส มีความพิเศษจากตัวแป้งขนมปังที่จะใช้ ขนมปังบาแก็ต (ขนมปังฝรั่งเศส) นำมาประกอบกับเนื้อบด ผัก และซอสต่างๆ
- แฮมเบอร์เกอร์ญี่ปุ่น และเกาหลี (Rice Burger, Bap Burger) แฮมเบอร์เกอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากซูชิซึ่งเป็นอาหารประจำของทั้ง 2 ชาติ โดยนำข้าวมาประกบกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ประกอบด้วยผัก และซอส มีการต่อยอดมาจากซูชิโรล
- แฮมเบอร์เกอร์ไทย (Thai Style Burger) ความพิเศษของแฮมเบอร์เกอร์ไทยได้ไอเดียจาก Rice Burger ของประเทศญี่ปุ่นมาพัฒนาต่อ โดยใช้ข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลักแทนแป้งขนมปัง พร้อมเนื้อบดชนิดต่างๆ ในรสชาติแบบไทยๆ เช่น ลาบหมู หมูย่าง ไก่ปิ้ง มาประกอบกันให้มีลักษณะเหมือนแฮมเบอร์เกอร์ ทำให้เปลี่ยนรูปแบบการกินให้ง่ายยิ่งขึ้น
- แฮมเบอร์เกอร์ฟิลิปปินส์ (Chori Burger) เบอร์เกอร์ที่มีจุดขายโดยใช้เนื้อไส้กรอกของประเทศฟิลิปปินส์เอง อย่างไส้กรอกลองกานิซามาเป็นโปรตีนหลัก ประกอบกับขนมปัง และมีซอสในสไตล์พิเศษของตนเองอย่าง Banana Ketchup ซอสเผ็ดปรุงรสหลักของชาวฟิลิปปินส์
- แฮมเบอร์เกอร์จีน (Roujiamo) เบอร์เกอร์จีน ถูกเรียกจากชาวยุโรป ทำจากแป้งโม๋ (Baijimo) โดยแป้งสาลีผสมกับยีสต์อบด้วยเต่าดิน ให้มีสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน และได้ความหอมจากแป้งเป็นพิเศษ มักจะใส่ไส้เป็นหมูตุ๋น หรือหมูแดง
ถึงแม้ว่า แฮมเบอร์เกอร์ จะไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ความนิยมในอาหารฟาสต์ ฟู้ดยังคงอยู่ในลิสต์เมนูอาหารอันดับต้นๆ ของชาวอเมริกาอยู่ตลอดเรื่อยมา จากสถิติของ USDA United States Department of Agriculture (กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า ชาวอเมริกันบริโภคแฮมเบอร์เกอร์ 2.4 ชิ้นต่อวัน คิดเป็น 5 หมื่นล้าน ชิ้นต่อปี จึงไม่แปลกนักที่แฮมเบอร์เกอร์จะเป็นที่จดจำ และกลายเป็นอาหารประจำชาติของประเทศ
และมีจุดขายที่ยังคงขายได้เรื่อยๆ ในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว รสชาติที่อร่อย ถูกปากคนทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน ยังถูกนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศให้กลายเป็นอาหารที่มีการพัฒนามาตรฐานได้ต่อไปอย่างไม่รู้จบ ซึ่งลบคำสบประมาทว่าเป็น ‘อาหารขยะ’ ได้อย่างยอดเยี่ยม
คุณกำลังดู: ประวัติ “แฮมเบอร์เกอร์” วัฒนธรรมอาหารฟาสต์ ฟู้ด สัญชาติอเมริกา กับความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา
หมวดหมู่: อาหาร - ร้านอาหาร