รวมรถโคตรอึดไม่ยอมตาย ลากห้าแสนกิโลเมตร ยังเฉย!
ใช้ทนจนลืม รวมรถอึดวิ่ง 5 แสนกิโลเมตรยังเฉย!
ตามความคาดหวังของคนที่ซื้อรถยนต์ในไทย รถใหม่ที่ซื้อมาใช้ ด้วยราคาที่แพงกว่าที่อื่น รถเหล่านั้นจะต้องมีความทนทานใช้งานนานปี ไม่จุกจิกจู้จี้กวนใจ หรือนอนศูนย์อยู่อู่มากกว่าจะอยู่ในโรงจอดรถ จากอัตราภาษีที่แพงกว่าเพื่อนบ้านของประเทศไทย ถ้าคุณนำรถใหม่เข้ามาทั้งคัน และมีแรงม้าทะลุ 300 ตัว คุณจะโดนอัตราภาษีนำเข้าประมาณ 300% ++ รถใหม่ที่วิ่งอยู่ในญี่ปุ่น เยอรมนี หรืออเมริกา เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นและค่าตัวพบว่า ทั้งหมด มีราคาถูกกว่าไทย และเมื่อต้องจ่ายแพง ความคาดหวังก็ยิ่งสูงขึ้นกว่ารถที่มีราคาถูก ในอดีต ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง รถทุกคันสามารถใช้งานได้ 300,000 ไมล์ หรือประมาณ 482,803 กิโลเมตร แต่ทุกวันนี้ เริ่มหารถที่ทนทานขนาดนั้นได้ยากขึ้นเรื่อยๆ รถยนต์ยุคใหม่อุดมไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์สั่งงานผ่านมัดสายไฟที่มากพอๆ กับชุมสายโทรศัพท์ ระบบควบคุมต่างๆ ทำงานผ่านกลไกไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน สิ่งต่างๆ เหล่านั้นอาจทันสมัยแต่ไม่ค่อยจะถูกโรคกับสภาพอากาศของไทยที่มีทั้งร้อนชื้นและฝุ่นละออง ระยะทางใช้งานแค่ 100,000 - 150,000 กิโลเมตร หรือเมื่อหมดระยะประกัน ชิ้นส่วนต่างๆ จะเริ่มทยอยเจ๊ง ต้องควักเงินเปลี่ยนใหม่เพื่อประคองให้วิ่งใช้งานได้ต่อไป ต่อไปนี้คือการรวบรวมรถอึดในอดีต ที่สามารถวิ่งถึงระยะทางเฉียดๆ 500,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนใหม่แต่อย่างใดทั้งสิ้น
Toyota Land Cruiser
เรากำลังพูดถึงเครื่องจักรที่สามารถวิ่งได้ 480,000 กิโลเมตร
โดยทำแค่บำรุงรักษาตามระยะทางของการใช้งาน นี่คือ Toyota Land Cruiser
และระยะทาง 480,000 กิโลเมตร เท่ากับการขับวนรอบโลกถึง 12 รอบLand
Cruiser กระตือรือร้นทุกครั้งที่สตาร์ต
เมื่อไฟยังมีอยู่ในแบตเตอรี่และถังเชื้อเพลิงยังคงมีน้ำมัน
มันจะแสดงให้เห็นถึงความทนทานสมบุกสมบัน
แม้จะขับลุยฝุ่นในแอฟริกาหรือขับอยู่ท่ามกลางหิมะในเขตอาร์กติก
คุณก็ยังมั่นใจว่ามันจะพาไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน เมื่อคุณขาย
Toyota Land Cruiser ออกไปหลังจากลากมาครบ 500,000 กิโลเมตร
เจ้าของคนต่อไปที่พยายามบำรุงดูแลเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะทางก็จะใช้รถคันนี้ไปอีก
500,000 กิโลเมตรได้อย่างสบายๆรถเอสยูวีโบราณอย่าง Land Cruiser
ทำให้เรานึกถึงความเหนียวของแท็กซี่ Corolla Altis
ที่วิ่งกันมาเฉียดล้านหรือไม่ก็เกินล้านกิโลเมตรแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะพังคาซาก!
Toyota Hilux
กระบะพี่โตทั้งโก้และอึดยังกับรถถัง Hilux
ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานหนัก
มันสามารถพาคุณและอุปกรณ์ทำมาหากินวิ่งขึ้นเหนือลงใต้ได้อย่างสบายๆ
โดยเฉพาะ LN และ HERO เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ออกแบบให้ทำงานได้ในสภาวะที่มีความยากลำบากสูงสุด ทั้งในทะเลทราย
ป่าเขตร้อนหรือที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตร
เครื่องเหนียว เกียร์แกร่ง ช่วงล่างแข็งราวกับหินผา
มันลุยได้ดีจนทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจ
เป็นรถที่ไม่ยอมตายแม้จะโดนเผาไฟเหมือนอย่างที่Top Gear | BBC ทำในตอน
Killing a Toyota Part 1 ระยะทาง 500,000
กิโลเมตรถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตของเครื่องยนต์ดีเซลสุดแกร่งจากพี่โต
Hilux ในอดีต เป็นรถที่ซ่อมถูกจุดก็จบ ระบบต่างๆ มีความง่าย
ไม่ซับซ้อนและพร้อมที่จะพาคุณออกไปผจญภัยในระยะทางเฉียดๆ
ล้านกิโลเมตร
Lexus LS400
นี่คือรถที่ทำให้ Mercedes-Benz S Class และ BMW Series-7
ต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนัก Lexus LS400 ปี 1989
คือเรือธงเจเนอเรชันแรกสุดที่ถูกพัฒนาและสร้างในสหรัฐอเมริกา
มันโผล่ออกมาขายและสร้างความแปลกใหม่ในด้านประสิทธิภาพของการใช้งานที่ไม่เป็นรองรถเยอรมัน
หลังจากนั้นความนิยมในรถ Lexus ก็ลุกลามไปทั่วโลก
ฉายาเบนซ์ญี่ปุ่นของเถ้าแก่เต็นท์รถในอดีต
ได้มาจากความนวลเนียนของระบบรองรับและความแข็งแกร่งของชุดส่งกำลัง
เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ความจุ 4.0 ลิตรรหัส 1UZ-FE มีกำลังสูงสุดแค่
260 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 336 นิวตันเมตร
ที่สามารถใช้งานได้นานเกินกว่า 500,000 กิโลเมตร เคยมีเจ้าของ LS400
ยกเอาเครื่อง 1UZ-FE จากรถของตัวเองลงไปยัดในเรือ
แล้วยังใช้งานได้ยาวไปอีกเป็น 10 ปี!
Mazda MX-5/Miata
ไม่ใช่แค่รถแท็กซี่ Corolla และ SUV
ของพี่โตเท่านั้นที่ทนทานต่อการขับแบบทำลายล้าง การใช้งานผ่านระยะ
500,000 กิโลเมตร เกิดขึ้นกับรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง Mazda
MX-5 (รหัส NA เจเนอเรชันแรก)
นับเป็นหนึ่งในรถที่มีความทนทานมากสุดเช่นกัน มันเกิดขึ้นจากการออกแบบ
แน่นอนว่าแนวคิดดั้งเดิมของ MX-5 คือ
รถเปิดประทุนราคาถูกที่หลายคนสามารถจับต้องได้ Mazda MX-5
ได้รับการปรุงแต่งทั้งรูปลักษณ์และระบบขับเคลื่อน
เพื่อเลียนแบบความรู้สึกของการขับรถสปอร์ตไร้หลังคาที่มีค่าตัวแพงกว่า
จริงๆ แล้ว Mazda
ทำได้ดีมากในการสร้างรถโรดสเตอร์ที่น่าเชื่อถือรุ่นนี้
ซึ่งขายได้มากกว่าหนึ่งล้านคันใน 4 เจเนอเรชัน (NA/ NB/NC/ND) ในไทย
มี MX-5 รุ่นแรกที่ผ่านการวิ่งใช้งานมาแล้วกว่า 400,000 กิโลเมตร
และยังคงมีสภาพที่ดีอยู่มาก
SubaruLegacy Outback
สเตชั่นแวกอนของแบรนด์หมู่ดาวขึ้นชื่อในเรื่องของความคงทน Outback
ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ช่วงล่างแบบง่ายๆ
และพื้นที่ในการขนสัมภาระ Subaru Outback รุ่นแรกที่ถึกทน ออกขายในปี
1994 วางเครื่องยนต์สูบนอน EJ25 ขนาด 2.5 ลิตร 155 แรงม้า ลากยาวๆ
ผ่าน 500,000 กิโลเมตรอย่างสบายๆ โดยมีค่าประเกน หัวเทียน
ของเหลวหล่อลื่นและกรองต่างๆ รวมถึงยางที่โดนเปลี่ยนไปแล้วไม่ต่ำกว่า
10 ชุด ความเรียบง่ายของระบบขับเคลื่อนกับความแข็งแรงของแชสซีทำให้
OUtback ขึ้นชื่อในเรื่องของความคงทนถาวร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
Mercedes-Benz W123
ดาวที่ทนทรหด ต้องยกให้กับ Benz รหัสตัวถัง W123
ก่อนการถือกำเนิดของรุ่นโลงจำปา W123 โผล่ออกมาในปี 1976
และขายไปจนถึงปี 1986 ตัวถังซีดาน 4 ประตู แวกอน 5 ประตู คูเป้ 2
ประตู รวมไปถึงลีมูซีนช่วงยาวที่หายากและกลายเป็นรถคลาสสิกไปแล้ว
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 2.3 ลิตร 2.8
ลิตร และ 3.0 ลิตร เกียร์ออโต้ 4 G-Tronic
ดีไซน์ที่โดนใจคนรวยในยุคนั้นทำให้ W123
ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มนักธุรกิจที่นิยมใช้รถดีมีราคาแพง
ระยะทางกว่า 500,000 กิโลเมตร ของ W123
เกิดจากความแข็งแกร่งทนทานของเครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง ช่วงล่าง
แต่ไม่รวมงานตกแต่งภายในที่มักจะไปก่อนเพื่อน!
Toyota Corolla
Corolla ทุกรุ่นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความทนทานมากเป็นพิเศษ
นั่นเป็นเรื่องที่วิศวกรของพี่โตต้องรับหน้าที่ในการทดสอบอย่างหนักหน่วงก่อนดันรถใหม่เข้าไปสู่สายการผลิต
รถยุโรปมีเครื่องยนต์ที่ดีกว่า (ในด้านแรงบิด) กำลังมากกว่า
และยึดเกาะถนนได้เหนือกว่า แต่สิ่งที่ Toyota
ตอบโต้กลับก็คือความทรหดอดทนของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์
รถไม่ได้แรงเท่าแต่ใช้งานได้ยาวนานกว่าหลายแสนกิโลเมตร
เป็นเรื่องปกติที่คุณจะเห็นแท็กซี่บางคันถูกดัดแปลงสภาพให้กลับมาเป็นรถบ้านโดยที่มีไมล์สะสมเกินกว่า
1,000,000 กิโลเมตร Corolla เหล่านั้นยังคงวิ่งได้ดี
แม้บางคันจะเอียงกระเท่เร่ แต่มันก็ยังไปได้แบบไม่ยอมตาย!
Toyota Camry
สำหรับ Toyota ความน่าเชื่อถือ สไตล์แนวอนุรักษ์นิยม
บนเรือนร่างที่ดูก็รู้ว่ามันคือ Toyota และเพื่อให้แน่ใจว่า Camry
จะเป็นยานพาหนะที่มีอายุยืนยาว
ซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้บริหารที่ไม่ชอบความจุกจิกกวนใจเมื่อใช้งานในระยะยาว
จริงๆ แล้วพวกเค้าอยากขับ Series-5 หรือ E-Class
แต่เงินในกระเป๋านั้นไม่มากพอ ก็เลยเดินไปสอย Camry ความทนทานของมัน
สร้างความประทับใจให้คนที่เคยเกลียดรถ Toyota ต้องหันกลับมามอง
ความเรียบง่ายของเครื่องยนต์
ความทนทานของระบบไฮบริดที่พัฒนามาจนแทบจะสุดทางแล้ว
รวมไปถึงราคาค่าตัวที่พอรับได้ บวกกับบริการหลังการขายที่ดี
เมื่อรวมกับความคงทนของรถทำให้ Camry
เป็นซีดานไซส์กลางที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
Isuzu D-MAX
ถ้าเรื่องทน Isuzu ก็ไม่ยอมน้อยหน้ารถอย่าง Toyota สำหรับกระบะ D-MAX
นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวของความทนทรหด ราคาและประโยชน์ใช้สอย
ความเรียบง่ายของระบบขับเคลื่อน ไม่ดันแรงม้าแรงบิดมากจนเกินไป
ใช้เทคนิคง่ายๆ ในการปรับแต่ง และใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี
D-MAX เป็นรถกระบะที่ทำยอดขายอย่างก้าวกระโดด ในประเทศไทย
มันสามารถแซงหน้าเจ้าตลาดอย่าง Toyota Hilux
ด้วยยอดขายที่เหนือกว่ามาตลอด 1-2 ปีนี้ เครื่องยนต์ DDi ทั้ง 1.9 และ
3.0 ลิตร ไม่ได้มีพลังที่เบ่งบานเหมือนเครื่อง 2.0 ลิตร
เทอร์โบคู่ของRanger หรือไม่อาจเทียบเคียงกับเครื่อง 2.8 ลิตร
ที่มีแรงบิด 500 นิวตันเมตรของพี่โต แต่เครื่อง DDi
ใช้ความเหนียวเข้าขย่มคู่ต่อสู้
มันทำสำเร็จด้วยระยะทางการใช้งานที่ยาวนาน
ค่าซ่อมบำรุงถูกกว่ามอเตอร์ไซค์บางรุ่นและมีบริการหลังการขายที่โดดเด่นมากกว่ารถคู่แข่ง
เมื่อเอาไปแต่งแบบดันรางแตกก็แรงบ้าเลือด นับเป็นหอกข้างแคร่ของพวก
Toyota ที่สลัด Isuzu ยังไงก็ไม่ยอมหลุด!
Honda CR-V Gen-1
ความทรหดของ CR-V รุ่นแรก ทำให้ทุกวันนี้ แม้จะผ่านมา 24 ปีแล้ว
ก็ยังคงเห็น Honda CR-V รุ่นแรกวิ่งได้ดีเหมือนตอนออกมาใหม่ๆ ในปี
1998 Honda นำชิ้นส่วนของ CR-V
เจเนอเรชันแรกสุดมาประกอบในประเทศไทยแทนการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งทำรถรุ่นนี้มีค่าตัวที่ถูกลงมาเล็กน้อย
ส่วนรูปลักษณ์ยังคงเป็นแบบเดียวกับ CR-V รุ่นนำเข้า หลังจากนั้นในปี
1999 Honda แนะนำรุ่นปรับโฉมเปลี่ยนล้ออัลลอยลายใหม่ เพิ่ม Color Key
สีเดียวกับตัวรถทั้งกันชนหน้า-หลัง กระจกมองข้าง ราวหลังคา
ขอบคิ้วรอบคัน เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร รหัส B20B 130 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 186 นิวตันเมตร และเครื่อง B20Z กำลัง 147 แรงม้า แรงบิด
180 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Overdrive
ขับยังไงก็ไม่ยอมพัง แต่ก็มีซ่อมกันบ้างเพราะลากมายาวเกิน 480,000
กิโลเมตรเข้าไปแล้ว! แต่บางคันเจอกับปัญหาตัวเครื่องผุที่ระยะใกล้ 5
แสนกิโลเมตร หรือต้องตั้งวาล์วกันบ่อยๆ แต่เกียร์ยังไม่เป็นอะไร
นั่นก็โคตรจะคุ้มแล้วละครับ ปัญหาของเจ้า CR-V Gen 1 ก็คือ
รับประทานน้ำมันมากเกินไปนั่นเอง.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: รวมรถโคตรอึดไม่ยอมตาย ลากห้าแสนกิโลเมตร ยังเฉย!
หมวดหมู่: รีวิวรถใหม่