สุดท้ายแล้วนะจ๊ะ AUDI เปิดตัว TT FINAL ICON BLACK โควตาไทยเหลือไม่ถึง 200 คัน ก่อนปิดสายการผลิต!

ไม่มีอีกแล้ว AUDI เปิดตัว TT FINAL ICON BLACK โควตาไทยเหลือไม่ถึง 200 คัน ก่อนปิดสายการผลิต! ราคารุ่น Coupe 3,599,000 บาท รุ่นเปิดประทุนหลังคาผ้า Roadster 3,899,000 บาท

สุดท้ายแล้วนะจ๊ะ AUDI เปิดตัว TT FINAL ICON BLACK โควตาไทยเหลือไม่ถึง 200 คัน ก่อนปิดสายการผลิต!

ในที่สุด รถสปอร์ตที่มีเรือนร่างคล้ายแมลงเต่าทอง แต่ขับสนุกเหลือกำลังลากอย่าง Audi TT ก็เดินมาถึงจุดสุดท้ายของเส้นทางในโลกแห่งรถสปอร์ต ข่าวดีก็คือ TT เป็นรถเล็กทรงคูเป้ที่ขับได้ดีเอาเรื่อง แต่ข่าวร้ายก็คือ การมาถึงของรุ่น Final Black หมายถึงรุ่นสุดท้ายก่อนปิดสายการผลิต ใช่ครับ Audi ตัดสินใจยุติสายการผลิตของรถสปอร์ตคันเล็กที่เปรียบเหมือนกับไอคอนของแบรนด์สี่ห่วง จากแผนงานที่จะต้องก้าวข้ามเครื่องยนต์ไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ในอนาคตข้างหน้า (อีกนานเท่าไรไม่รู้) คาดว่า TT จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กแบบสองประตู แต่นักขับทั่วโลกจะไม่มีวันลืมความเร้าใจของเครื่องยนต์ในรุ่น 45TFSi และความดุดันของขุมกำลัง 5 สูบ ที่เป็นตำนานและประจำการอยู่ใน TT RS

TT 45TFSi Quattro เจน 3 คือรถสปอร์ตคันเล็กของแบรนด์สี่ห่วงที่ยึดโยงงานตกแต่ง S Line / Black Edition ใช้พลาสติกสีดำเงา ตกแต่งชิ้นส่วนภายนอก เช่น ขอบกระจังหน้า ชายล่างของกันชนหน้า-หลัง ช่องรับอากาศ กระจกมองข้าง ล้ออัลลอยลายใหม่แบบ 5 ก้านคู่ ขอบ 19 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางสปอร์ต continental sport contact 6 ไซส์ 245/35R19 XL สำหรับรุ่นและราคาของ TT Final Icon Black คือ

TT Couoe 45TFSI Quattro Final Icon Black 3,599,000 บาท
TT Roadster 45TFSI Quattro Final Icon Black 3,899,000 บาท

Limited Edition 200 คันสุดท้าย

ความยาวของ Audi TT Mk3 รุ่นสุดท้าย Final Icon Black อยู่ที่ 4,177 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้านี้ (Mk2) แต่ฐานล้อมีขนาด 2,505 มิลลิเมตร ยาวขึ้นกว่าเดิม 37 มิลลิเมตร ทำให้ระยะของรถในส่วนที่ยื่นออกไปเกินล้อ (Overhang) หน้า-หลัง สั้นลง ตัวรถมีความกว้าง 1,832 มิลลิเมตร และมีสัดส่วนของความสูงเท่ากับรุ่นก่อนหน้าที่ 1,353 มิลลิเมตร น้ำหนักรถทั้งคัน (รุ่น 45 TFSI Quattro) 1,335 กิโลกรัม ใส่ล้ออัลลอยลายใหม่ ขอบ 19 นิ้ว ยาง Continental รุ่น sport contact 6 ไซส์ 245/35R19 XL เท่ากันทุกล้อ เนื่องจากใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยัดล้อและยางแบบหน้าเล็กหลังใหญ่เหมือนรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังของคู่แข่ง

ความเท่อยู่ตรงวิงหลังอัตโนมัติ ACTIVE REAR WING เมื่อความเร็วเกิน 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง วิงหลังไฟฟ้าของ TT ก็จะยกตัวขึ้นแบบอัตโนมัติเพื่อสร้างแรงกดส่วนท้าย และจะพับเก็บทันที เมื่อความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Audi ยังรู้ใจพวกชอบเท่ ด้วยการทำสวิตช์แยกสำหรับกดเพื่อสั่งให้วิงยกคาเอาไว้แบบนั้นได้เหมือนรถสปอร์ตหลายรุ่น

แบรนด์ Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีคือค่ายรถเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยี Virtual Cockpit พร้อมระบบ MMI มาใช้งานในรถสปอร์ตรุ่น TT ช่วยให้ห้องโดยสารยุคใหม่มีปุ่มควบคุมที่ลดลงช่วยลดภารกรรมของคนขับในการปรับตั้งค่าต่างๆ ระบบรับคำสั่งแบบ Voice Command รับคำสั่งด้วยเสียงแบบง่ายๆ Virtual Cockpit จาก Audi พัฒนาโดย Andre Ebner โดยย่อหน่วยความจำในส่วนของสมองกลไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมให้เล็กลงเพื่อใช้งานในรถยนต์รุ่นใหม่ การออกแบบภายในและจัดวางอุปกรณ์ที่เน้นความเท่ เคร่งขรึมด้วยโทนสีเทาดำตัดกับวัสดุอัลลอยสีเงิน คอนโซลแดชบอร์ดเดินเส้นสายโปร่งเบาพลิ้วไหว ช่วยสื่อความเป็นรถสปอร์ตของ New TT ได้เป็นอย่างดี

ห้องโดยสารใช้เส้นแนวนอนผสมกับวัสดุชั้นดีที่มีพื้นผิวหลากหลายห้องโดยสารส่วนหน้าเน้นความกว้างขวางเช่นเดียวกับการออกแบบภายนอก ส่วนของคอนโซลกลางที่เชื่อมโยงงานใช้งานอุปกรณ์โดยกำหนดให้ตำแหน่งคนขับเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้งานอุปกรณ์ภายใน การออกแบบตำแหน่งของท่านั่งขับที่ดีช่วยรับน้ำหนักขาขณะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เบาะโดยสารแบบใหม่หุ้มด้วยหนัง Alcantara ห้องโดยสารของ New TT มีลักษณะเล็กกะทัดรัด ให้มุมมองลื่นไหลพลิ้วไหวต่อเนื่อง แผงหน้าปัดมาตรวัดใช้จินตนาการออกแบบให้มีรูปทรงที่มองดูคล้ายปีกของเครื่องบิน ขณะที่ช่องแอร์ทรงกลมซึ่งเป็นเอกลักษณ์คลาสสิกของรถสปอร์ตก็ยังถูกนำมาใช้ต่อในห้องโดยสารของ TT เวอร์ชันล่าสุด

จอภาพมาตรวัด หลอมรวมกับจอของระบบมัลติมีเดีย อินเตอร์เฟส (MMI Screen) เป็นจอภาพเดี่ยวที่ให้ความคมชัด แม้จะขับท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า งานออกแบบที่ล้ำสมัยผสมผสานกันจนออกมาเป็นจอแสดงผลดิจิทัล ผลการตั้งค่าต่างๆ จะแสดงบนจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าปัดมาตรวัดแบบ Virtual Cockpit ของ New TT ถูกควบรวมอยู่ในจอภาพเดียวเพื่อลดภารกรรมในการมองของคนขับ มีลักษณะเหมือนกับแผงมาตรวัดในรถต้นแบบหรือรถอนาคตเพื่อสร้างบรรยากาศที่มีความทันสมัยน่าใช้งาน เป็นการผสมผสานหน้าปัดมาตรวัดที่แสดงผลความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ ผนวกรวมเข้าไว้กับระบบ Infotainment เช่น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์หรือมัลติมีเดีย โดยทำการแสดงผลผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ตรงหน้าผู้ขับ การออกแบบให้มีแค่จอภาพเดี่ยว ที่แสดงผลระบบขับเคลื่อนและการปรับตั้งค่าทั้งหมด รวมอยู่ในจอภาพเดียว ทำให้คนขับมีจุดนำสายตาที่ขึ้นตรงกับการมองไปข้างหน้า แม้จะใช้งานค่อนข้างยากและต้องสร้างความคุ้นเคย เนื่องจากไม่มีจอกลาง แต่จอภาพ 12.3 นิ้วที่ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการมาให้ครบ ทำให้ลดขั้นตอนในการปรับตั้งที่ยุ่งยากลงไปได้เยอะ

Audi TT Mk3 ในรุ่นท้ายๆ ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับลักษณะความเป็นรถสปอร์ต ทุกองค์ประกอบของอุปกรณ์ภายใน โดยเฉพาะปุ่มควบคุมการทำงานมีให้เลือก 2 ส่วน คือปุ่มควบคุมและเลือกเปิดใช้งานได้เกือบทุกฟังก์ชันจากพวงมาลัย โดยที่ไม่ต้องละสายตาจากถนน หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว มีความละเอียดสูงที่ 1,440 x 540 pixels ให้ภาพคมชัด ตรงขอบล่างของจอแสดงผลแบบดิจิทัล Audi virtual cockpit จะมีแถบแสดงผลถาวรสำหรับอุณหภูมิภายนอก เวลาและระยะทางนับ คำเตือนหรือสัญลักษณ์ข้อมูลต่างๆ ก็อาจปรากฏขึ้นด้วยยูนิตการควบคุม ส่วนที่สองคือระบบ MMI ที่ได้รับการพัฒนาใหม่และจัดวางไว้ตรงคอนโซลช่องกลางโดยจะมีท็อกเกิ้ลสวิตช์ 2 ตัวเพื่อเปิดระบบโทรศัพท์ วิทยุ และแถบเมนูมัลติมีเดียต่างๆ ในขณะที่ปุ่มกดสวิตช์กลางจะมีปุ่มด้านข้าง 2 อันเพื่อเข้าสู่เมนูหลักและย้อนหลัง ผู้ขับสามารถเข้าใช้งานโดยแตะแผ่นสัมผัส (touch pad) บนปุ่มกดสวิตช์ โครงสร้างของเมนู MMI คล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟน สามารถเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญทั้งหมดได้โดยตรง New TT ยังมีจอแสดงผลแบบดิจิทัล Audi virtual cockpit ที่แสดงข้อมูลการขับขี่และระบบเครื่องมือต่างๆ เป็นกลุ่มและยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยกราฟิกที่ชัดเจน ผู้ขับสามารถเลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลได้ 2 แบบ คือ Classic ซึ่งจะดึงหน้าปัดแสดงความเร็ว (Speedometer) กับหน้าปัดวัดรอบ (Rev counter) หรือ Infotainment (ข้อมูล & บันเทิง)

มาตรวัดความเร็วและวัดรอบปรับค่าการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย ความคมชัดของจอภาพ TFT LCD คุณสามารถนำระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่มีความละเอียดสูงมาใส่ไว้ตรงกลางมาตรวัดทั้งสอง เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบเส้นทาง หรือหากไม่ชอบก็สามารถเลื่อนเปลี่ยนได้ การปรับตั้งขนาดของมาตรวัดในจอภาพให้เป็นไปตามที่ต้องการ หรือแสดงผลจอภาพทั้งหมดด้วยระบบนำทางและกำหนดพิกัดผ่านดาวเทียม จอภาพทันสมัยขนาด 12.3 นิ้ว ในหน้าปัดมาตรวัดแบบใหม่ของ TT ยังมีลูกเล่นอื่นๆ

มาตรวัดแบบ TFT หรือ thin film transistor ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในรถระดับสูง เช่น Lamborghini / Mercedes Benz / BMW / Ferrari รวมถึง Honda และ Volvo ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็พยายามสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าใช้งานโดยนำมาประดับประดาในรถรุ่นใหม่ด้วยการทำงานราวกับนักมายากล Virtual Cockpit ของ New TT ยังสามารถแสดงค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงการโชว์ระบบ Infotainment ด้วยความคมชัดสูงสุด หน้าปัดและแดชบอร์ดต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกถึงการควบคุมจักรกลพลังสูง

|Audi TT 2023 Final Icon Black ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ครบ เช่น ระบบ MMI เบรกมือไฟฟ้า (Electromechnical Parking Brake) พร้อมระบบปลดเบรกมือแบบอัตโนมัติ กุญแจรีโมต, ระบบช่วยปรับไฟสูง (high-beam assist), ระบบข้อมูล-ความบันเทิง USB / AUX การใช้งานสื่อสารไร้สายบลูทูธอินเตอร์เฟส (Bluetooth Interface) และระบบสั่งงานด้วยเสียง วิทยุ USB ไฟล์ MP, AAC และ WMA พร้อมช่องจอแสดงผล Audi virtual cockpit ชุดเครื่องเสียง ประกอบด้วยเพาเวอร์แอมป์ และลำโพง 9 ตัว ระบบช่วยเหลือต่างๆ ช่วยให้การขับ TT มีความสะดวกสบาย เพื่อสร้างความรู้สึกและอารมณ์ของการควบคุมจักรกลยานยนต์สปอร์ต

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ deluxe ที่มีแผงควบคุมวางตัวในแนวนอนนั้นถูกติดตั้งใต้ช่องแอร์ตรงกลางพร้อมระบบควบคุมการขับขี่ Audi Drive Select และระบบฟังก์ชันช่วยเหลือต่างๆ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตของ Audi TT ใช้พนักพิงศีรษะแบบรวม (integrated head restraints) และอยู่ในตำแหน่งค่อนต่ำลงกว่ารถรุ่นก่อน น้ำหนักของเบาะเบาลงมากกว่าของรถ TT รุ่นก่อนถึง 5 กิโลกรัม พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมแบบใหม่ที่มาพร้อมระบบปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ เดินเส้นขอบตัดและหุ้มหนังแบบสปอร์ต 3 ก้าน มีการใช้งานโลหะพวกอะลูมิเนียมมาประดับประดาเพื่อยกระดับของความหรูหราน่าใช้งาน แม้ว่ารถ Audi New TT จะมีเบาะนั่งแบบ 2+2 ที่นั่งซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันและมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังที่กว้างถึง 305 ลิตร เบาะหลังมีพื้นที่คับแคบไม่เหมาะกับการนั่งทางไกลนานๆ สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถเพิ่มพื้นที่ได้หากพับเบาะนั่งด้านหลังราบลงกับพื้น เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่เล็กและคับแคบเหมาะกับเด็กเล็ก หรือเอาไว้วางของมากกว่าจะให้คนตัวโตๆเข้าไปนั่ง

Audi TT รุ่น 45TFSI Quattro มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ที่ 4,500-6,200 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยิงตรง TFSi ไดเรคอินเจคชั่น พร้อมระบบวาล์วแปรผัน AVS (AUDI Valve lift System) ปรับองศาของวาล์วไอเสีย เครื่องยนต์อัดอากาศด้วยเทอร์โบ แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ในย่าน 1,600-4,300 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 6 สปีด พร้อมกลไกคลัตช์คู่ ระบบเกียร์แบบคลัตช์คู่หรือใช้คลัตช์ 2 ชุดช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ออโต้ 6 สปีดมีความว่องไวและไหลลื่น สามารถปรับโหมดการควบคุมจากระบบออโต้ไปเป็นแบบเกียร์ธรรมดาได้ด้วยการผลักคันเกียร์ไปทางซ้ายแล้วชิฟเกียร์ด้วยตำแหน่ง +/- หรือชิฟผ่านแป้น Paddle Shift ที่หลังวงพวงมาลัย สมรรถนะของเครื่องยนต์ 2 ลิตรเทอร์โบกับเกียร์ทวินคลัตช์ S Tronic 7 สปีดและระบบขับเคลื่อนทุกล้อทำให้ Audi TT 45TFSI มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.2 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ในรถสปอร์ต Audi TT ชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ช่วยเสริมเสถียรภาพและกระจายแรงบิด ระบบขับเคลื่อนทุกล้อจาก Audi ฝากผลงานไว้มากมายในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น การปรับปรุงชุดขับ 4 ล้ออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะระบบคลัตช์แบบหลายแผ่นที่ควบคุมด้วยไฮดรอลิกไฟฟ้า ติดตั้งบนเพลาท้าย ช่วยลดน้ำหนักลงราว 1.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ การกระจายแรงบิดระหว่างเพลาล้อคู่หน้าและคู่หลังนั้นก็ถูกควบคุมโดยระบบไฟฟ้าที่รวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที อัจฉริยภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro คือซอฟต์แวร์ที่เข้ามาจัดการกระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและคู่หลังอย่างแม่นยำและเหมาะสมผกผันไปตามการขับขี่อย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา

ระบบรองรับน้ำหนักของ Audi TT สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมยานยนต์ของเยอรมัน ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson โครงสร้างชิ้นส่วนของจุดยึดโยงต่างๆ ทำจากอะลูมิเนียม เข้ามาช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง (Unsprung Weight) ทั้งนี้ ระบบกันสะเทือนหลังของ TT ยังเป็นแบบโฟร์ลิงก์ (4-Link) รองรับแรงกดแนวนอน (longitudinal force) และแรงบิดแนวขวาง (transverse force) อย่างเป็นอิสระแยกจากกัน สำหรับชุดบังคับเลี้ยวหรือแรคพวงมาลัย ใช้แบบแรคแอนพีเนียนพร้อมพาวเวอร์ไฟฟ้า ผนวกระบบแปรผันน้ำหนักพวงมาลัย Progressive steering แบบมาตรฐานที่ช่วยเพิ่มการตอบสนองตามสภาพการขับขี่ ตัวแรคพวงมาลัยถูกออกแบบมาเพื่อการตอบสนองโดยตรงต่อระยะของการหมุน ทำให้การควบคุมเกิดความเฉียบคมแม่นยำ

Audi Drive Select จะควบคุมลักษณะการทำงานของเครื่องยนต์โดยจะมีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกระหว่างโหมด comfort, auto, dynamic, efficiency หรือ individual นอกจากนี้โหมดขับเคลื่อนยังมีอิทธิพลต่อโมดูลต่างๆ ได้แก่ เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ S tronic, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ทั้งนี้ ในโหมด efficiency นั้น ระบบ Audi Drive Select ก็จะควบคุมไปถึงระบบปรับอากาศและระบบ Auto Start-Stop เพื่อดับเครื่องยนต์ขณะจอดหยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย (Start-Stop System) Audi New TT 45 TFSI คันทดสอบ มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18" และยางรถขนาด 245/40 R17 W ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ESC (Electronic Stabilisation Control) สามารถปิดการทำงานบางส่วนหรือปิดยกเลิกการทำงานทั้งหมดได้ ช่วยเสริมการควบคุมรถในสไตล์สปอร์ตแบบสุดขั้ว เมื่อขับเข้าโค้งพร้อมกับเปิดระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมเสถียรภาพจะจัดการกับแรงบิดขณะเข้าโค้ง โดยถูกใช้งานในการผกผันแรงบิดให้สามารถกระจายจากล้อหน้าด้านโค้งในไปสู่ล้อหน้าด้านนอกโค้งเพื่อการยึดเกาะที่สมดุล ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ยังเฉลี่ยแรงบิดไปที่ล้อคู่หลังทำให้รถสามารถขับเข้าโค้งในลักษณะต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงยังทำหน้าที่ควบคุมรถแบบไถลปัดท้าย (Drifting)

udi TT Coupé Technical data

TT Coupé 45 TFSI
quattro S line
แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซินดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง
(direct injection) และ Turbocharge พร้อมระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ
จำนวนวาล์ว 16
ปริมาตรกระบอกสูบ 1984 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด 180 กิโลวัตต์ 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)
อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. 5.2 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม. / ชม.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system)
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า
เบรกหน้า ดิสก์เบรก

เบรกหลัง ดิสก์เบรก
พื้นที่เก็บสัมภาระ 305 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ล้อ 18 นิ้ว ขนาด 8.5J x 18 พร้อมยาง ขนาด 245/40 R18
ยางอะไหล่

Standard specifications

ระบบความปลอดภัย
TT Coupé 45 TFSI quattro S line
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with
stabilization function)

เซนเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
ชุดปฐมพยาบาล
อุปกรณ์มาตรฐาน
ช่วงล่างแบบ Sports (Sports suspension)
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line / Black Edition
ไฟหน้าแบบ LED
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light)
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ

อุปกรณ์มาตรฐาน
TT Coupé 45 TFSI Final Icon Black
quattro S line
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า และไล่ฝ้า
ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต
เบาะนั่งหุ้มหนัง สลับ Alcantara
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า
ระบบปรับดันหลังเบาะนั่ง 4 ทิศทาง สำหรับเบาะนั่งคู่หน้า
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ
พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน แบบสปอร์ตท้ายตัด
พร้อม Paddle shift
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control)
กุญแจแบบ Comfort key
ระบบข้อมูลและความบันเทิง
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว
ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch
ระบบ Audi smartphone interface
ระบบเครื่องเสียง Audi sound system
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
รองรับ MP3
ช่องเชื่อมต่อ AUX-IN และ USB
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร (Ambient lighting with light package)


อาคม รวมสุวรรณ
[email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: สุดท้ายแล้วนะจ๊ะ AUDI เปิดตัว TT FINAL ICON BLACK โควตาไทยเหลือไม่ถึง 200 คัน ก่อนปิดสายการผลิต!

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด