ส่องจุดสลบ จบที่เปรียบมวย HONDA CITY / MAZDA 2 / NISSAN ALMERA

มวยเล็กหมัดหนัก เปรียบเทียบ 3 รถเล็กรุ่นขายดี HONDA CITY / MAZDA 2 / NISSAN ALMERA ใครจะอยู่ ใครจะไป ชอบคันไหน เชิญรับชม....

ส่องจุดสลบ จบที่เปรียบมวย HONDA CITY / MAZDA 2 / NISSAN ALMERA

สามตัวแสบที่นำมารีวิวเปรียบเทียบในวันนี้อยู่ในกลุ่มรถเล็กขายดี เป็นอีโคคาร์SubCompact Sedan B-segmentรุ่นใหม่ที่ออกมาขายไล่เลี่ยพร้อมๆ กันทั้งสามคัน เริ่มจาก Nissan New Almera ซีดานเล็กราคาประหยัดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ เทอร์โบ ตามด้วย Mazda 2 รุ่นปรับโฉม XDL ที่มีราคาเฉียดๆ 8 แสนบาท เป็นรถเล็กรุ่นขายดีของค่าย Mazda ที่ทำตลาดมานานแล้วและเพิ่งจะปรับโฉมไปสดๆ ร้อนๆ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเจ้าตลาดอย่าง Honda New City ที่มีดีด้วยเครื่องยนต์ตัวเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดแบบ 3 สูบ เทอร์โบ เครื่องยนต์ไซส์เล็กแต่มีประสิทธิภาพรอบด้านทั้งอัตราเร่งและความประหยัด ใครจะอยู่ใครจะไป หรือรักใครชอบรุ่นไหน เชิญรับชม

จากข้อมูลของhttp://www.headlightmag.com/sales-report-subcompact-sedan-eco-b-seg/ชัดเจนว่าNew City นั้นยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดรถเล็กอีโคคาร์ ด้วยยอดขายที่ขึ้นนำโด่งตั้งแต่ช่วงเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามด้วย New Almera ที่กระโดดแซงหน้ารถเล็กแหล่มๆ อย่าง Mazda 2 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สอง New Almera สามารถทำยอดขายไล่ตามเจ้าตลาดไม่ห่างมากนัก จากราคารุ่นท็อปสุดที่ถูกกว่า New City เป็นแสน! ส่วนอันดับที่ 3 กลายเป็นรถเล็กประสิทธิภาพดีอย่าง Mazda 2 เนื่องจากเป็นรุ่นปรับโฉมที่มีการเขียนหน้าทาปากใหม่ให้รูปลักษณ์ภายนอกภายในดูดีขึ้น แต่เครื่องยนต์ เกียร์ ยังเหมือนเดิม Mazda 2 รุ่น 1.5 XDL แม้จะมีสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่าทั้ง City และ Almera แต่ราคาเฉียดๆ 8 แสนบาทของรุ่นสูงสุดนั้นแพงเกินไป


อันดับ 1 Honda City : 4,698 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 36.7%)
อันดับ 2 Nissan Almera : 2,978 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 23.2%)
อันดับ 3 Mazda 2 Sedan : 1,801 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 14.1%)
อันดับ 4 Toyota Yaris ATIV : 1,531 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 11.9%)
อันดับ 5 Suzuki Ciaz : 800 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 6.2%)
อันดับ 6 Mitsubishi Attrage : 601 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 4.7%)
อันดับ 7 Toyota Vios : 385 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 3.0%)
อันดับ 8 Honda Brio Amaze : 2 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 0.1%)
อันดับ 8 MG 3 : 2 คัน
(ส่วนแบ่งตลาด 0.1%)

New Mazda 2 1.5 XDL
2 รุ่นปรับโฉมถูกส่งลงสู่สมรภูมิตลาดรถเล็กแบบซิตี้คาร์ โดยเปิดตัว และเปิดรับจองครั้งแรกภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ในช่วงปลายปี 2019 Mazda 2 รุ่นปรับโฉม 2020 ยังคงใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ มาพร้อมกับรูปลักษณ์การออกแบบใหม่ จากภายนอกจนถึงภายในที่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำให้มันดูดีขึ้น Mazda 2 2020 เวอร์ชั่นปรับโฉม มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบค 5 ประตู การปรับโฉมใหม่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดของตัวรถทั้งภายนอกและภายใน ส่วนเครื่องยนต์และระบบเกียร์ยังคงเหมือนเดิม โดยมีให้เลือกทั้งเบนซิน 1.3 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตรเทอร์โบ

ราคา New Mazda 2 เครื่องยนต์ Skyactiv-G เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู

New Mazda2 รุ่น 1.3 E ราคา 546,000 บาท
New Mazda2 รุ่น 1.3 C ราคา 602,000 บาท
New Mazda2 รุ่น 1.3 S ราคา 627,000 บาท
New Mazda2 รุ่น 1.3 S LEATHER ราคา 648,000 บาท
New Mazda2 รุ่น 1.3 SP ราคา 690,000 บาท

ราคา New Mazda 2 เครื่องยนต์ Skyactiv-D คลีนดีเซล 1.5 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู

New Mazda2 รุ่น XD ราคา 782,000 บาท
New Mazda2 รุ่น XDL ราคา 799,000 บาท

Honda New City 1.0 Turbo RS
Honda City พัฒนาการที่รุดหน้าของรถเล็กจากค่าย Honda การปรับปรุงรถรุ่นใหม่ให้ดีกว่าเดิม ทำทุกอย่างให้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวล้วนแล้วแต่มีต้นทุนสูง Honda ก็ฉลาดมากพอที่จะตั้งราคารถเล็กไม่ให้แพงมากจนคนส่วนใหญ่ซื้อไม่ลง New City RS รุ่นใหม่นั้นไม่มีชิ้นส่วนตรงไหนที่เกี่ยวข้องกับรถรุ่นเก่า ความพยายามในการเอาชนะคู่แข่งของวิศวกรจากค่าย Honda ก่อกำเนิดรถเล็กเครื่องจิ๋วที่มีการขับดีงามกว่าเดิมแบบผิดหูผิดตา เจนเนอเรชั่นที่ 5 ของโมเดล City โผล่โฉมที่สดใหม่ออกมาให้เห็นจากการเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไล่จากภายนอกสู่ภายใน รวมไปถึงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ชุดบังคับเลี้ยวและช่วงล่างที่ถูกปรับจูนให้ดีขึ้นกว่าเดิม

All New Honda City 2020 1.0 TURBO มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย

1.0 TURBO S CVT ราคา 579,500 บาท
1.0 TURBO V CVT ราคา 609,000 บาท
1.0 TURBO SV CVT ราคา 665,000 บาท
1.0 TURBO RS CVT ราคา 739,000 บาท

Nissan ALMERA
รถรุ่นใหม่กับยอดขายที่ไปได้เรื่อยๆ จากความพยายามในการต่อสู้กับรถคู่แข่งเจ้าตลาดอย่าง New Honda City และ Mazda 2 เวอร์ชั่นปรับโฉม Almera ตอบโต้ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์กับการยึดเกาะของช่วงล่าง! รวมถึงราคาค่าตัวในรุ่นสูงสุด1.0 Turbo VL CVT ด้วยราคาแค่ 639,000 บาท ถูกกว่ารถคู่แข่งทั้งสองยี่ห้อเป็นแสน! New Almera มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่แบบ 3 กระบอกสูบ เทอร์โบที่มีเรี่ยวแรงพอใช้ได้ รูปลักษณ์ภายนอกดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับทรงแบบรถการ์ตูนของ Almera รุ่นที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ห้องโดยสารก็มีมาให้อย่างเพียงพอสำหรับการนั่งเดินทางที่มีความสบายพอใช้ได้ การตอบโต้จาก Nissan ด้วยรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง All NEW Nissan ALMERA ไม่ใช่การขับที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง แต่เป็นราคาที่ต่ำกว่าในรุ่นท็อปสุดซึ่งถูกกว่ารถคู่แข่งทั้งสองแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด เงินจำนวนแสนกว่าบาทไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรถ้าคุณกำลังเล็งรถหรูพรีเมียมราคาหลายล้าน แต่ส่วนต่างเรือนแสนนั้นมีผลมากต่อการเลือกซื้อยานพาหนะของชนชั้นกลางที่ต้องกระเบียดกระเสียร ใช้จ่ายเงินทุกบาทให้คุ้มค่ามากที่สุด

ALMERA 1.0 TURBO S CVT 499,000 บาท
ALMERA 1.0 TURBO E CVT 509,000 บาท
ALMERA 1.0 TURBO EL CVT 559,000 บาท
ALMERA 1.0 TURBO V CVT 599,000 บาท
ALMERA 1.0 TURBO VL CVT 639,000 บาท

Mazda 2 1.5 XDL ภายนอก
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของ Mazda 2 เวอร์ชั่นปรับโฉม เปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้าด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมด เช่น กันชนหน้า กระจังหน้า ไฟหน้า ใหม่ ไฟท้าย กันชนหลังแบบใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว มิติตัวถังของ Mazda 2 รุ่นตัวถัง Hatchback 5 ประตู มีขนาดความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ยาว 4,065 มิลลิเมตร สูง 1,495 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,495 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,485 มิลลิเมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 44 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 250 ลิตร สำหรับรุ่น 5 ประตู

Honda New City 1.0 Turbo RS ภายนอก
Honda City รถรุ่นใหม่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงภายใต้สัญลักษณ์รูปตัว H กระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS กันชนหน้าและกระจังหน้าสปอร์ต ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ไฟตัดหมอกแบบ LED กันชนหน้าใหม่ที่ลงตัวมากยิ่งขึ้นด้วยชิ้นส่วนพลาสติกบริเวณชายล่างกึ่งกลางกันชนที่ทำออกมาคล้ายกับคาร์บอนไฟเบอร์ ขอบกระจังหน้าด้านขวาติดตราสัญลักษณ์ RSไฟท้ายทรงยาวแบบใหม่ที่ไปคล้ายกับไฟท้ายของ BMW New Series-3 G20 แบบช่วยไม่ได้! สปอยเลอร์หลัง Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS ล้ออัลลอยลายใหม่สีเงินสลับดำ ขอบ 16 นิ้ว ยางหน้าแคบสำหรับลดแรงต้านและช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง City RS ยัดยาง YOKOHAMA BluEarth A ไซส์ 185/55R16 มิติตัวถัง ยาว 4,553 มิลลิเมตร กว้าง 1,748 มิลลิเมตร สูง 1,467 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,589 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,497 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,483 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,150 - 1,165 กิโลกรัม

Nissan New Almera
New Almera ใช้กระจังหน้าแบบ V-Motion ที่คุณสามารถพบเห็นได้ใน Nissan ยุคใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) หลังคาแบบลอยตัว (floating roof) ไฟหน้า LED พร้อม LED Signature Light ทรงบูมเมอแรง ไฟเลี้ยวด้านข้าง ไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรก LED ทรงบูมเมอแรง เสาด้านหลังตัวรถถูกออกแบบให้กลมกลืน พร้อมด้วยซุ้มล้อที่ดูดีขึ้น มิติตัวถังของ Nissan New Almera มีขนาดความยาว 4,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,460 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,525 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,535 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว ยาง 195/65R15 น้ำหนักในรุ่นสูงสุด (VL) 1,076 กิโลกรัม

Mazda 2 1.5 XDL ห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารที่ได้รับการยกระดับความน่าใช้งาน ทำให้ Mazda 2 มีห้องโดยสารที่ดูดีกว่าคู่แข่ง ทั้งการจัดวางและคุณภาพของวัสดุที่นำมาตกแต่ง การคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังที่ใช้หุ้มเบาะนั่ง แผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้างแบบใหม่ที่ทำให้ดูหรูหรามีราคา เบาะดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture ช่วยปรับท่านั่งให้ลงตัว นุ่มสบาย ให้การควบคุมทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ชิ้นงานและองค์ประกอบหลักของอุปกรณ์ภายในมีรูปแบบเดียวกันกับ Mazda 3 ใหม่ ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดสูงผสมกับงานดีไซน์รูปทรงของชิ้นงานที่มีความทันสมัย แผงอุปกรณ์ตกแต่งภายในใช้สีและการเคลือบเงาเพื่อความสวยงาม รุ่นท็อปสุด XDL ตกแต่งภายในด้วยโทนสีเทาอมฟ้าอ่อน แดชบอร์ดและคอนโซลกลางใช้วัสดุพวกพลาสติก เบาะใช้หนังสองแบบตัดเย็บอย่างประณีต เบาะคู่หน้ายังใช้การปรับด้วยมือเหมือนเดิม คอนโซลกลางของ Mazda 2 เน้นการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่มีความหลากหลาย รูปแบบของคอนโซลเชื่อมโยงต่อการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ระบบการควบคุมและแสดงผลการทำงานของรถขณะขับเคลื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ดีบนพื้นฐานการใช้งานของมนุษย์ เป็นศูนย์กลางของการควบคุมขับขี่ จอแสดงข้อมูล Head-up Display ที่นั่งเบาะผู้โดยสารและเบาะคนขับปรับถอยหลังได้ระยะ 260 มิลลิเมตร ความสูงของเบาะนั่งเพิ่มอีก 40 มิลลิเมตร พวงมาลัยแบบ Telescopic ปรับได้ 4 ทิศทาง

Honda New City 1.0 Turbo ห้องโดยสาร
New City RS มีภายในที่อุดมไปด้วยพลาสติก วัสดุที่นำมาตกแต่งยังคงตามหลัง Mazda 2 ในด้านของคุณภาพและรูปแบบ แดชบอร์ดทำจากพลาสติกฉีดขึ้นรูปเชื่อมต่อกับคอนโซลกลาง ช่องแอร์ทรง 5 เหลี่ยมล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีเงินเพื่อยกระดับความหรู เบาะนั่งปรับด้วยมือหุ้มด้วยหนังและผ้าเนื้อดีตัดเย็บอย่างละเอียดด้วยการโชว์ตะเข็บด้ายสีแดง เบาะคู่หน้าหนังกลับปรับด้วยมือ ส่วนเบาะหลังก็ยังมีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับผู้ใหญ่ตัวโตๆ สองคน หรือคนที่มีรูปร่างไม่อวบอ้วนก็ยังนั่งได้ถึง 3 คน จุดเด่นของ New City ก็คือช่องเก็บของ ที่วางแก้ว ทั้งบริเวณแผงประตูทั้งสี่บานและที่คอนโซลกลาง พนักเท้าแขนกึ่งกลางระหว่างเบาะคู่หน้าแม้จะทำให้รู้สึกสบายแต่ถ้าผู้โดยสารด้านข้างคนขับวางแขนลงไปบางทีก็จะโดนแขนคนขับแบบไม่ตั้งใจ! ตำแหน่งที่สบายก็คือเบาะหลังสำหรับคนที่มีรูปร่างปกติ พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะ ในจุดนี้ New City สามารถเอาชนะ Mazda 2 ไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก

Nissan New Almera ห้องโดยสาร
งานตกแต่งภายในของ New Almera ทำออกมาได้ดีโดยเฉพาะตำแหน่งของมาตรวัด จอแสดงผลกลาง และรูปแบบของแดชบอร์ดคอนโซล ส่วนวัสดุบุหลังคานั้นควรได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เนื่องจากคู่แข่งอย่าง Mazda 2 นั้นจัดเต็มมากในเรื่องของการเลือกวัสดุที่ดูดีมีราคา ภายในของ New Almera ได้รับการออกแบบเพื่อสอดรับกับแดชบอร์ดแบบใหม่และรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ พวงมาลัย และเบาะนั่ง ใหม่หมด เบาะคู่หน้าปรับด้วยมือ มีที่รองต้นขาสั้นไปนิด แต่นั่งแล้วไม่เมื่อย Nissan แจ้งว่าได้เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความประณีตในการประกอบ แต่ผ้าบุหลังคาได้เข้ามาทำให้ภายในของมันดูด้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด การลดต้นทุนทำให้วัสดุที่ใช้ต้องถูกหั่นระดับของความหรูหราลงไปพอสมควร แต่รูปแบบของมาตรวัดและจอแสดงผลแบบใหม่ได้เข้ามาช่วยทำให้ภายในของมันดูดีขึ้น

Mazda 2 1.5 XDL เครื่องยนต์ เกียร์และช่วงล่าง
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร รหัส S5-DPTS แบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรความจุ 1,498 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 76.0 ช่วงชัก 82.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.8:1 จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดแรงดันสูงแบบคอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น สำหรับระบบอัดอากาศใช้เทอร์โบแบบ Turbocharger Variable Turbine Geometry กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ หรือ 105 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร เหลือเฟือสำหรับรถเล็กน้ำหนักแค่ 1.3 ตัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 21.5 กิโลเมตรต่อลิตร เชื้อเพลิงดีเซลเต็มถังความจุ 44 ลิตร วิ่งได้เกือบๆ 700 กิโลเมตร ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม

Honda New City 1.0 Turbo RS
เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 3 สูบ ฝาสูบแบบทวินแคมดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC 4 วาล์วต่อสูบ = 12 วาล์ว 998 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ 73.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 78.7 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 ระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC ระบบอัดอากาศเทอร์โบ Single Scroll ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000–4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift โดย Honda แจ้งว่า เครื่องยนต์ตัวเล็กรุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร (ขับจริง ในเมืองทำได้ 12.8 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมัน E20เครื่องยนต์ตัวเล็กแบบ 3 กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยหอยเล็กเด็กอนุบาลในระบบ Turbo Charger หอยจิ๋วที่มีกำลังบูสเหมาะสมกับเครื่องยนต์สามสูบ รับหน้าที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว มีสมรรถนะและแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เป็นเกียร์ CVT แปรผัน 7 สปีด เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5 New City มาพร้อมหัวใจใหม่ล่าสุด เป็นขุมกำลังที่เน้นความเล็กกะทัดรัดและเบา มีแรงบิดพอตัวและปล่อยมลพิษต่ำ City การหันไปคบกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง วางตามขวางขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ 3 สูบ เพื่อลดตัวเลขการปล่อย CO2 ความจุของเครื่องไซส์เล็กไม่ได้มากมายอะไรเพราะต้องทำตัวให้สะอาดและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยปริมาตรความจุเครื่องยนต์แค่ 1.0 ลิตร ระบบวาล์วแปรผัน VTEC พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านของแรงบิดให้กับเครื่องยนต์ตัวเล็ก ระบบรองรับหรือช่วงล่าง ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม

Nissan New Almera
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตร รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ปริมาตรความจุ 999 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรคอินเจคชั่น ความกว้างกระบอกสูบ 72.2 มิลลิเมตร ช่วงชัก 81.3 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร หรือ 15.5 กิโลกรัม/เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์มีแรงม้าและแรงบิดเป็นรองคู่แข่งทั้ง New City 1.0 ลิตร เทอร์โบ และ Mazda 2 รุ่นปรับโฉมที่วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร แต่เครื่องยนต์ 3 กระบอกสูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบของ Nissan มีดีตรงที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (16.5 กิโลเมตรต่อลิตร) ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ที่ Nissan ถนัดที่สุดนั่นก็คือเกียร์อัตโนมัติแบบสายพานพูเล่ย์ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic เครื่องยนต์ติดตั้งระบบดับและสตาร์ตเครื่องยนต์อัตโนมัติ Auto Start/Stop ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม

จุดเด่นและจุดด้อยของรถทั้งสามรุ่น
รถเล็กขับดีอย่าง Mazda 2 ต้องเจอกับคู่แข่งสามสูบอย่าง New Honda City 1.0 Turbo ซึ่งทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นที่แล้ว รวมถึง New Almera 1.0 Turbo ที่ขับสู้ไม่ได้แต่มีราคาถูกกว่าเยอะมาก New Almera ปรับแต่งรถมากลางๆ ไม่ค่อยจะสนใจในด้านไดนามิกของการขับเคลื่อน แต่กลับไปเน้นที่ความประหยัดและรูปแบบของการใช้งานอุปกรณ์ที่ให้มาเยอะมากในราคาที่ต่ำกว่ารถคู่แข่ง สำหรับ Suzuki Swift ก็น่าจะสูสีออกเบียดเมื่อเทียบกับ Mazda 2 ในเรื่องของความสนุกหลังพวงมาลัย แต่อัตราสิ้นเปลืองของ Swift เครื่องเบนซินก็ยังเป็นรอง Mazda 2 เครื่องดีเซลอยู่ดี รวมถึงการยึดเกาะในย่านความเร็วสูงที่ยังตาม Mazda อยู่นิดๆ ส่วน Mitsubishi Mirage ก็ควรจะหันมาสนใจช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยภาพรวม Mazda 2 นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่รูปแบบของตัวรถกับการควบคุมหลังพวงมาลัย แต่ถ้าคุณไม่สนใจสองสิ่งนั้นก็ยังมีรถเล็กราคาถูกอย่าง Toyota Yaris Ativ รถขายดีของพี่โต แม้จะขายมานานโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และระบบเกียร์แต่อย่างใด Ativ ก็ยังทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ Toyota

ความสนุกหลังพวงมาลัยต้องยกให้ Mazda 2 1.5 XDL มันเป็นรถเล็กที่ทรงตัวได้ดี โช้คอัพกับสปริงทำหน้าที่ผสานกับแชสซี สามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ แม้บางจังหวะจะโคนก็ไม่เคยทำให้รู้สึกว่าจะต้องเหาะข้ามเนินหรือไถลไปแปะกับต้นไม้ข้างทาง ล้อเล็กๆ ทั้งสี่ของมันสัมผัสกับถนนเท่ากันตลอดเวลา อาจมีบางครั้งที่ล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งถูกแรงเหวี่ยงในโค้งยกจนลอยขึ้นเล็กน้อย ถ้ามีถนนที่โล่งมากพอคุณสามารถปลดปล่อยแรงบิดจากเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงยาว ทางขึ้นเขา หรือขณะที่กำลังเร่งออกจากปลายโค้งด้วยเกียร์ 3 ยาง Dunlop EC300T 185/60/R16 รองรับถนนที่มีความหลากหลายได้ดีพอใช้ การเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีเซล ถ้าขับเรื่อยๆ ก็ทำได้ 21 กิโลเมตรต่อลิตร และเมื่อขับเร็วต่อเนื่องอัตราสิ้นเปลืองจะหล่นลงมาเหลือแค่ 14 กิโลเมตรต่อลิตรโดยเฉพาะการขับบนเส้นทางภูเขา เครื่องดี เกียร์ดี ช่วงล่างแจ่ม พวงมาลัยเริด เหลือแค่ศูนย์บริการบางแห่งเท่านั้นที่ยังไม่ค่อยจะโดนใจ สำหรับราคาค่าตัวรุ่น 1.5 XDL ที่ 799,000 บาท นั้นแพงเกินไป ถ้าเหลือแค่ 7.3 แสนบาทเท่ากับ New City จะสนุกกว่านี้มาก

มาที่ Honda New City 1.0 Turbo RS เมื่อผมลองขับทับเส้นทางของ Mazda 2 ก็พบว่าวิศวกรของ Honda ได้ลงไม้ลงมือกับ New City หลายจุด เป็นการปรับปรุงรถรุ่นใหม่ให้ขับได้ดีขึ้นกว่าเดิม City ใหม่นั้น ไม่ใช่แค่ทำภายนอกภายในให้ดูดีแต่การขับของมันก็ยังดีขึ้นอีกด้วย เมื่อเทียบกับ City โฉมที่แล้ว รถใหม่ทำผลงานด้านการทรงตัวได้ดีขึ้นมาก มันเป็นรถเล็กที่ให้ความรู้สึกเบาและคล่องตัวเมื่อขับในเมือง พวงมาลัย ช่วงล่าง แป้นคันเร่ง และการถ่ายเทน้ำหนักต่างตอบสนองได้ดีขึ้น ความเบาของตัวรถทำให้เครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ ไม่ต้องแบกน้ำหนักมากเกินไป ช่วงล่างของ New City ถูกปรับจูนให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้นแม้จะใช้ยางหน้ากว้างแค่ 185 แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี พวงมาลัยหนักกว่าเดิม อาจไม่เหมาะกับสุภาพสตรีที่ชอบความเบาของรุ่นที่แล้วแต่ถ้าเป็นคนที่ชอบขับเร็วๆ พวงมาลัยที่หน่วงให้มีน้ำหนักมากขึ้นนี่แหละใช่เลย เมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงน้ำหนักที่เคยมากจะกลายมาเป็นพอดิบพอดีทำให้การควบคุมทิศทางในย่านความเร็วสูงนั้นดีกว่าเดิม

การขับทดสอบให้ความเร็วเฉียดๆ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในสื่อออนไลน์บางสำนักขอบอกว่าทั้งผิดกฎหมายและอันตรายมาก New City แม้จะมีเครื่องยนต์และระบบเกียร์ที่คุณสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงในระดับนั้นได้ แต่ระบบเบรกกับช่วงล่างของมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสปีดความเร็วที่มากถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การรีวิวว่ารถมันวิ่งได้เร็วขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบและไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผ่านสายตาของคนอ่านที่มีฝีมือในการควบคุมรถแตกต่างกัน เพราะถ้ามีคนที่ซื้อแล้วนำไปลอกเลียนแบบการขับด้วยสปีดความเร็วระดับรถสปอร์ตก็จะยิ่งเพิ่มอันตรายให้กับตัวเองและรถร่วมทางคันอื่นๆ ความเร็วขนาดนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นแวบเดียว จากความสนุกจะเปลี่ยนเป็นเรื่องเศร้าทันที New City ใช้ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้แบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม ปรับการยืดและยุบของโช้คกับสปริงใหม่หมด วิ่งเร็วก็ยังทรงตัวได้ดี อาจมีอาการโคลงตัวบ้างเมื่อวิ่งผ่านทางโค้งที่มีผิวถนนไม่เรียบ แต่โดยภาพรวมถือว่าระบบรองรับที่ปรับตั้งมาใหม่ใน New City นั้นเหมาะสมกับคนขับที่เคยมี City รุ่นเก่าและเริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ พอโตและคุ้นชินกับการขับรถแล้วก็เริ่มขับเร็วขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของนักขับมือใหม่ที่ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ส่วนข้อดีของล้อขอบ 16 กับยาง 185/55R16 ของ Yokohama ก็คือ การเป็นยางลดแรงต้านทาน เน้นความนุ่มเงียบขณะบดลงไปบนผิวถนนและมีการยึดเกาะที่พอใช้ได้เลยทีเดียว ล้อและยางที่เหมาะสมทำให้ City RS เป็นรถที่ขับสนุกบนถนนสายรองหรือทางหลวงชนบทแบบสองเลนสวนกัน อัตราสิ้นเปลืองในโหมด S บนเส้นทางภูเขาทำได้ 11.7 กิโลเมตรต่อลิตร เนื่องจากใช้ความเร็วต่อเนื่องและไม่ต้องการขับแบบประหยัดเพื่อเอาตัวเลขสวยๆ มาฟุ้งกับคนอ่าน สมัยนี้ อะไรที่ใส่น้ำตาลเยอะเกินไปคนก็ไม่ชอบเพราะกลัวเบาหวานขึ้นตา เขียนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างการทดสอบดูจะตรงประเด็นกว่าเยอะ เกือบลืมบอกว่า รอบเดินเบา 1,000 รอบต่อนาทีของ New City ทำให้เครื่องยนต์ 3 สูบปราศจากอาการสั่นสะท้านขณะจอดเดินเบา ค่อนข้างกินน้ำมันอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังดีกว่า New Almera ที่มีรอบเดินเบาสั่นราวกับเจ้ากำลังเข้าทรง

ถ้าคุณใช้รถส่วนใหญ่ขับแต่ในเมือง ไม่ขับเร็วและไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระแบบเต็มพิกัด New Almera ถือว่าเป็นรถยนต์ซีดานราคาประหยัดที่มีประสิทธิภาพพอใช้ได้ เครื่องยนต์ตัวเล็กกินน้ำมันไม่มาก มีอัตราเร่งในจังหวะออกตัวดี แต่การเร่งแซงต้องกะระยะเผื่อเอาไว้บ้าง เกียร์ CVT ทำงานลื่นไหลใช้ได้ และเก็บเสียงได้ดีใช้ได้เลยทีเดียว อาจดีกว่า Mazda 2 ด้วยซ้ำสำหรับการเก็บเสียงในย่านความเร็วเดินทาง ส่วนการทรงตัวในย่านความเร็วสูงโดยเฉพาะในโค้ง ยังไม่โดดเด่นเท่ากับรถคู่แข่ง รวมถึงการถ่ายเทน้ำหนักขณะเบรกเต็มกำลังในย่านความเร็วสูงที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร แม้จะมีภายในที่ด้อยกว่ารถคู่แข่งแต่ราคาที่จับต้องได้ของมันทำให้ตัวเลขยอดขายของ New Almera ไล่ตามหลัง City ไม่ไกลนัก แรงสั่นสะเทือนในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ 3 สูบขณะจอดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อใส่เกียร์ N หรือใส่เกียร์ D แล้วเหยียบเบรกเพื่อรอการเคลื่อนตัว เครื่องยนต์มีอาการสั่นเบาๆ คล้ายเครื่องยนต์ของอีโคคาร์โบราณ แตกต่างจากเครื่อง 1.0 ลิตร เทอร์โบของ Honda ที่เร่งรอบเดินเบาถึง 1,000 รอบต่อนาที ทำให้ New City เป็นรถเครื่อง 3 สูบที่เดินเบาได้เรียบและนิ่งกว่า การทรงตัวในย่านความเร็วสูงยังคงตามหลังทั้ง Mazda 2 และ City มีแค่ราคาค่าตัวเท่านั้นที่ New Almera สามารถต่อสู้ได้ สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในรุ่นสูงสุดถือว่าเกินคุ้ม มันให้มาเยอะจนใช้ไม่หมด แต่ช่วยแก้พวงมาลัยกับช่วงล่างในย่านความเร็วสูง รวมถึงอาการเดินเบาไม่เรียบ (สั่น) ถ้าทำได้จะขายดีกว่านี้อย่างแน่นอน

Mazda 2 ขับดีแต่ราคาก็โด่งเกินเอื้อมไปไกลโดยเฉพาะรุ่นท็อปสุด 1.5 XDL ที่มีราคาเกือบ 8 แสน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถมากกว่ามีรถเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้เดินทาง การเลือกซื้อรถที่มีราคาแพงแต่มีการขับขี่ที่ดีก็ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุผล ส่วนเจ้าตลาดอย่าง City 1.0 Turbo รุ่นใหม่นั้นทำออกมาได้ดีเกือบทุกจุดยกเว้นพลาสติกภายในที่ต้องปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร สามสูบเทอร์โบมีสมรรถนะพอตัว ขับในเมืองหรือวิ่งนอกเมืองแบบไม่รีบเร่งก็ประหยัดใช้ได้ พวงมาลัยดีช่วงล่างโอเคแต่ระบบเบรกล้อหลังที่ยังเป็นแบบดรัมเบรกทำให้การเบรกในย่านความเร็วสูงยังเป็นรอง Mazda 2 สำหรับ Almera ถ้าไม่แคร์เรื่องการทรงตัวและพวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกแปลกๆ ในย่านความเร็วสูง ก็ถือว่าราคา 6.3 แสนบาทนั้นมีความน่าใช้อยู่ไม่น้อย อาการสั่นที่รอบเดินเบาอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจในขั้นตอนของการพัฒนาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากคิดจะเอาชนะรถคู่แข่งก็ควรจะทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่นะครับ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ของดีราคาโดน โผล่แล้ว ส่องราคารุ่น 5 ประตู! HONDA CITY HATCHBACK 2021

คุณกำลังดู: ส่องจุดสลบ จบที่เปรียบมวย HONDA CITY / MAZDA 2 / NISSAN ALMERA

หมวดหมู่: รีวิวรถใหม่

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด