เตรียมขายไทย? Tesla Cybertruck โผล่ขึ้นหน้าเว็บไซต์เทสลาประเทศไทย

07 ธ.ค. 2566 | 12:16 น.

Tesla Cybertruck ถูกเผยรายละเอียดบนหน้าเว็บไซต์เทสลาประเทศไทย คาดเตรียมเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ราคาในสหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่าง 60,990 - 99,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,150,000 - 3,480,000 บาท (ราคายังไม่รวมออปชันเสริมต่างๆ)

ภายหลังจากที่เทสลาเริ่มมีการทยอยส่งมอบกระบะไฟฟ้า Cybertruck ให้แก่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้มีการเผยรายละเอียดของรถรุ่นดังกล่าวบนเว็บไซต์เทสลาประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว จึงคาดว่ามีแผนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นมีรายละเอียดทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง, รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่น Cyberbeast

รุ่น Rear-wheel Drive ติดตั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กม./ชม. และมีระยะทางขับขี่ประมาณ 402 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม รองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 3,402 กิโลกรัม (ข้อมูลที่แน่ชัดจะถูกเปิดเผยอีกครั้งช่วงเปิดตัวในปี 2025)

รุ่น All-wheel Drive ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดรวม 600 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 10,800 นิวตัน-เมตร (7,435 ปอนด์-ฟุต) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ระยะทางขับขี่ 547 กม. (เพิ่มเป็น 755+ กม. เมื่อติดตั้ง Range Extender) สามารถชาร์จด้วย Supercharger กำลังสูงสุด 250 kW ใช้เวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางขับขี่สูงสุด 235 กม.

รุ่น Cyberbeast ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดรวม 845 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 13,960 นิวตัน-เมตร (10,296 ปอนด์ฟุต) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 209 กม./ชม. ระยะทางขับขี่ 515 กม. (เพิ่มเป็น 705+ กม. เมื่อติดตั้ง Range Extender) สามารถชาร์จด้วย Supercharger กำลังสูงสุด 250 kW ใช้เวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางขับขี่สูงสุด 206 กม.

Tesla Cybertruck ยังมาพร้อมตัวถังทำจากวัสดุ Ultra-hard stainless-steel ที่ลดการเกิดรอยจากการกระแทกหรือเฉี่ยวชนได้ พร้อมกระจกกันเสียงรบกวนที่สามารถป้องกันลูกเห็บระดับ 4 หรือลูกเบสบอลปะทะที่ความเร็ว 112 กม./ชม. ขณะที่กระบะท้ายมีขนาด 6x4 ฟุต เพิ่มเติมด้วยที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า มีความจุรวม 1,897 ลิตร ซึ่งเป็นความจุที่สามารถใส่ล็อกเพื่อความปลอดภัยได้

ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอขนาด 18.5 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และขนาด 9.4 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำงานคู่กับลำโพงรอบคัน 15 ตำแหน่ง พร้อมซับวูเฟอร์และแอมปลิฟายเออร์ ทั้งยังมีที่ชาร์จไร้สายแบบคู่สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ, ช่อง USB-C และช่องจ่ายไฟ 120V/240V รวมถึงระบบปรับอากาศพร้อมกรองฝุ่น HEPA มาตรฐานโรงพยาบาล เป็นต้น

ส่วนรายละเอียดการเปิดตัวต้องรอความคืบหน้าอีกครั้ง