เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ "เจียอี้" เมืองดนตรีและแรงบันดาลใจของไต้หวัน

ทำความรู้จัก "เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้" อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ของไต้หวัน รวมพลวงดนตรีโยธวาทิตท้องถิ่นและนานาชาติ เนรมิตให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยเสียงดนตรี พิกัดศิลปะดนตรีที่ไม่ควรพลาด

เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ "เจียอี้" เมืองดนตรีและแรงบันดาลใจของไต้หวัน

"เจียอี้" เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน มีประวัติศาสตร์ยาวนานผ่านหลายยุคสมัย ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะสายรักธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม เพราะเจียอี้ยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติอาลีซาน และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง ศูนย์ภาคใต้ ที่สำคัญในทุกๆ ปี เมืองแห่งนี้จะจัดอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ รู้จักกันในชื่อ "เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้" เนรมิตความสดใสด้วยเสียงเพลง โดยมีชาวเจียอี้ทั้งเมืองร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

ทีมข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ ได้เดินทางไปยังเมืองเจี้ยอี้ของไต้หวัน เพื่อร่วมชมขบวนพาเหรดในพิธีเปิดเทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 30 ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565ไปจนถึง 1 มกราคม 2566 แม้งานปีนี้จะเริ่มขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศฟ้าฝนไม่เป็นใจ ลมแรง และอากาศหนาวเย็น แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้ก็คือ... สายฝนที่กระหน่ำลงมา ไม่สามารถกลบเสียงเชียร์และสปิริตของคนหนุ่มสาวเลย บทความนี้จะพาผู้อ่านไปชมภาพบรรยากาศและทำความรู้จักกับเทศกาลดนตรีนานาชาติเมืองเจียอี้ ให้มากขึ้น

จุดเริ่มต้น "เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้"

เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้ หรือ The Chiayi City International Band Festival (CCIBF) คือ งานอีเวนต์ประจำปีที่รวบรวมวงดนตรีโยธวาทิตท้องถิ่นและนานาชาติไว้ด้วยกัน พร้อมทั้งมีการแสดงวงซิมโฟนีออร์เคสตรา คอนเสิร์ต และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีรัฐบาลเมืองเจียอี้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนหลักให้เจียอี้เป็นที่รู้จักและถูกจดจำในฐานะ "เมืองดนตรี" ที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน โดยเฉพาะวงดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าอันน่าตื่นตาตื่นใจ ที่สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังเยาวชนและกระตุ้นการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน

วงดนตรีประเภทกลุ่มเครื่องเป่าสำหรับนักเรียนของเมืองเจียอี้ เริ่มมีขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1931 ในสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ต่อมาโรงเรียนท้องถิ่นหลายแห่งก็เริ่มหันมาก่อตั้งวงดนตรีจนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นักเรียนต่างใฝ่ฝันอยากเล่นเครื่องดนตรีเป็นและอยากเข้าร่วมวงดนตรีโยธวาทิตของโรงเรียน จนกระทั่งในปี 1993 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ผลักดันให้มีการจัดงาน "เทศกาลวงดนตรี เมืองเจียอี้" ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยวงดนตรีของแต่ละโรงเรียนก็จะมาร่วมพาเหรดวงโยธวาทิต ปรากฏว่าได้รับความสนใจทั้งจากชาวเมืองและนักท่องเที่ยว

ต่อมาในปี 1997 รัฐบาลเมืองเจียอี้จึงส่งคำเชิญไปยังนานาชาติ เพื่อให้วงดนตรีต่างชาติมาร่วมงานด้วย จึงกลายเป็นชื่อ "เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้" ที่มีเยาวชนและนักดนตรีจำนวนหลายร้อยคนมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง จากเมืองเล็กๆ จึงค่อยๆ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีชื่อเสียงในการสนับสนุนด้านดนตรีของไต้หวัน และเคยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงวงดนตรีระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง ดนตรีได้เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้เต็มไปด้วยท่วงทำนองเสียงเพลง เป็นที่รวมตัวของวงโยธวาทิตและวงดุริยางค์ชื่อดังมากมาย อีกทั้งยังมีนักดนตรีมืออาชีพมาช่วยจัดเวิร์กช็อปให้วงดนตรีท้องถิ่นและผู้สนใจได้พัฒนาฝีมือและความสามารถเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

"เจียอี้" เมืองที่ยิ่งใหญ่และครึกครื้นเพราะดนตรีมาตลอด 30 ปี

เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้ (CCIBF) จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 30 โดยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ดนตรีได้กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกจดจำของเมือง ทั้งในความคิดของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว รัฐบาลเองก็มีส่วนหลักในการกระตุ้นความสนใจให้เมืองเจียอี้เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองดนตรีได้สำเร็จ

อีกหนึ่งการแสดงที่ชาวเจียอี้รอคอยก็คือการแสดงวงออร์เครสตาท้องถิ่น หรือที่รู้จักในชื่อ "Chia-Yi Wind Orchestra" (CYWO) ก่อตั้งครั้งแรกในปี 1994 เพื่อสนับสนุนทักษะและการแสดงดนตรีให้ประชาชน โดยจะมีคอนดักเตอร์เป็นชาวเมืองเจียอี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งมามีการจัดงานคอนเสิร์ตไปแล้วกว่า 400 ครั้ง รวมทั้งได้รับคำเชิญไปแสดงที่ฮ่องกง มาเก๊า จีน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอีกหลายแห่ง

สำหรับการจัดงานเทศกาลวงดนตรีฯ ปีล่าสุด มีวงดนตรีนานาชาติจากประเทศญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเยอรมนี มาร่วมแสดงในงานด้วย โดยศิลปินอาชีพจะมาร่วมกับวงแจ๊ซ ได้แก่ Laura Fygi จากเนเธอร์แลนด์, Alexis Cole จากสหรัฐอเมริกา รวมถึงศิลปินชาวไต้หวันและวงดนตรีท้องถิ่นอีกมากมาย

ทางด้าน เฉิน ซูฮุ่ย รักษาการรองผู้ว่าเมืองเจียอี้ กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้เมืองเจียอี้เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปศาสตร์ของไต้หวัน ทางรัฐบาลเมืองเจียอี้จึงได้ริเริ่มจัดงานส่งเสริมเทศกาลดนตรีขึ้นมา โดยในปี 2011 ได้สมัครเข้าร่วมสมาพันธ์ดนตรีระดับโลก (WASBE) สร้างความตื่นเต้นและน่ายินดีให้กับเมืองแห่งนี้

นับตั้งแต่นั้นมา พวกเราคิดว่างานเทศกาลดนตรีทำให้การเรียนการสอนในด้านดนตรีของเจียอี้เป็นที่ประจักษ์ ดนตรีทำให้เจียอี้ครึกครื้นและมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษ พวกเราได้ปลูกฝังการเรียนการสอนในด้านดนตรี อีกทั้งยังมีผลงานอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับ

ดังนั้น ทุกปีพวกเราจะอาศัยการจัดเทศกาลดนตรีนี้ เปรียบเสมือนการสร้างสะพานเชื่อมมิตรภาพกับผู้ที่สนใจในดนตรีจากทั่วทุกมุมโลก... เจียอี้ เมืองแห่งนี้ครึกครื้นเพราะดนตรี ยิ่งใหญ่ก็เพราะดนตรี"

ทำไม "เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ เมืองเจียอี้" ถึงส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาว?

ทีมข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ได้เดินทางไปชมพิธีเปิดเทศกาลวงดนตรีนานาชาติ ณ เมืองเจียอี้ของไต้หวัน เป็นวันที่มีเมฆฝนครึ้มและลมแรง แต่พิธีเปิดก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีการปิดถนนสายหลักกลางใจเมืองบางส่วน เพื่อเปิดทางให้ขบวนพาเหรดของโรงเรียนท้องถิ่นและวงดนตรีวงโยธวาธิตนานาชาติที่มาร่วมงานประมาณ 45 วง แม้สภาพอากาศจะบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าอีกไม่นานเกินรอ สายฝนคงโปรยปรายลงมาแน่นอน ทว่าประชาชนในเมืองเจียอี้ต่างพาลูกหลานมายืนเรียงรายสองข้างทาง เพื่อรอชมขบวนพาเหรดที่เป็นไฮไลต์ของเทศกาลในครั้งนี้

พิธีเปิดเริ่มขึ้นอย่างครึกครื้นบริเวณวงเวียนน้ำพุกลางเมือง ซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า แต่ในปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของการรวมพลและประชาธิปไตย ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใด จะต้องมีการจัดปราศรัยหาเสียงใกล้พื้นที่วงเวียนน้ำพุ

นอกจากนี้บริเวณวงเวียนน้ำพุยังมีรูปปั้นของ อู๋ หมิงเจี๋ย(Wu Ming-chieh) นักเบสบอลชาวไต้หวัน ผู้เล่นตำแหน่งพิทเชอร์ระดับตำนานจากทีมเบสบอล Kano ที่ชาวไต้หวันรู้จักกันดี (เรื่องราวของทีมเบสบอลที่มีทั้งผู้เล่นชาวไต้หวันและญี่ปุ่น ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Kano ในปี 2014)

การจัดงานเทศกาลวงดนตรีฯ ครั้งที่ 30 ก็เลือกทำเลแห่งแรงบันดาลใจนี้ เป็นจุดเริ่มต้นขบวนพาเหรดของวงดนตรีโยธวาธิตและกองเชียร์นับพันคน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สนามกีฬาประจำเมือง โดยจะเดินเป็นระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร ตั้งแต่เวลา 14.30-17.00 น.

ทันทีที่วงโยธวาธิตวงแรกเดินขบวนพาเหรด ฝนก็ตกลงมาทำให้ทั้งผู้ชมและนักดนตรีต่างต้องสวมเสื้อกันฝนและเดินหน้าต่อไปท่ามกลางอุณหภูมิหนาว 12 องศาเซลเซียส บางช่วงเครื่องดนตรีและเสื้อผ้าสีสันสดใสถูกต้องถูกสวมทับด้วยเสื้อกันฝนบางๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความสนใจของผู้ชมตลอดสองข้างทางได้เลย ยิ่งช่วงไหนที่ฝนตกหนักขึ้น ชาวเจียอี้จะตะโกนว่า "เจียโหยว" (加油) ที่แปลว่า "สู้ๆ" เสียงดังมากขึ้น เพื่อส่งเสียงเชียร์แข่งกับสายฝน โดยเฉพาะวงดนตรีของเด็กอนุบาลที่ยังคงแสดงเดินพาเหรดและทำการแสดงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เรียกรอยยิ้มและเสียงปรบมือได้ตลอดเส้นทาง แถมยังเด็กๆ ชาวเมืองอีกจำนวนมากที่ใส่เสื้อกันฝนและเสื้อกันหนาวมายืนรอชมพาเหรดด้วยความสนใจ

สิ่งที่ทีมข่าวสังเกตเห็นได้ตลอดการเดินขบวนพาเหรด ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยวที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดครึกครื้น แต่ชาวเมืองเจียอี้เองต่างก็ตื่นเต้นและรอคอยที่จะชมการแสดงของวงดนตรีแต่ละโรงเรียนไม่แพ้กัน พ่อแม่หลายคนมายืนตากฝนเพื่อรอถ่ายรูปเมื่อบุตรหลานของตัวเองเดินผ่าน บ้างก็ยกโทรศัพท์มือถือไลฟ์สดและบันทึกวิดีโอเก็บไว้เป็นความประทับใจ ในขณะที่อีกหลายคนก็มาร่วมส่งเสียเชียร์เพื่อนๆ ที่อยู่ในขบวนพาเหรด และรอชมวงโยธวาธิตของโรงเรียนตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ขบวนพาเหรดประจำปีจึงกลายเป็นกิจกรรมที่หลอมรวมความเป็นหนึ่งเดียวของชุมชน และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการใช้ดนตรีกระตุ้นการท่องเที่ยวของเมืองเจียอี้

ภายใต้สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องแต่งกายสีสันสดใส และความพร้อมเพรียงของขบวนพาเหรด ได้สะท้อนให้เห็นถึงวินัยในการฝึกฝนทั้งของตัวนักดนตรีและผู้ฝึกสอน ไม่เพียงเท่านั้นยังแสดงให้เห็นถึงสปิริตและความอดทน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องถือเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ต่างๆ เดินพาเหรดท่ามกลางสายฝนและลมหนาวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทว่าพวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่กำลังทำไม่เพียงแต่เป็นการประชันความสามารถของแต่ละวงดนตรี แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำให้แก่นานาชาติในฐานะพลเมืองชาวเจียอี้อีกด้วย

เมื่อขบวนพาเหรดจบลง ทำให้นึกถึงชื่อเพลงหนึ่งของ Nirvana วงกรันจ์ชื่อดังในยุค 90s ซึ่งบทเพลงนั้นมีชื่อว่า "Smells Like Teen Spirit" คำๆ นี้น่าจะใช้สื่อความหมายและบรรยายบรรยากาศที่เห็นตรงหน้าได้ดีที่สุด ดนตรีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันล้นเหลือของเยาวชน จิตวิญญาณและความสดใสของคนหนุ่มสาว ที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านการวางระบบการศึกษาและส่งเสริมด้านดนตรีมาเป็นเวลา 30 ปี พิสูจน์ได้แล้วว่าสามารถจุดประกายฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และทำให้เมืองเจียอี้แห่งนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้...

หากใครที่กำลังจะวางแผนไปท่องเที่ยวไต้หวันในปีนี้ การเลือก "เจียอี้" เป็นจุดหมายปลายทางก็ดูจะน่าสนใจไม่น้อย แถมหากไปเที่ยวช่วงปลายปี ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดครึกครื้นของเทศกาลวงดนตรีนานาชาติ ณ เมืองเจียอี้อีกด้วย

เรื่องและภาพ : ตติยา แก้วจันทร์
ขอบคุณ :สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุณกำลังดู: เทศกาลวงดนตรีนานาชาติ "เจียอี้" เมืองดนตรีและแรงบันดาลใจของไต้หวัน

หมวดหมู่: เที่ยว-กิน

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด