ถอดรหัสกี่เพ้า เครื่องแต่งกายชนชั้นสูง สู่สัญลักษณ์ยุคศักดินากับแฟชั่นต้องห้ามทศวรรษ19
กว่าจะเป็นไอเทมที่เรามักหยิบมาใส่ในวันตรุษจีน กี่เพ้ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร?
ถึงแม้ว่าปัจจุบัน 'กี่เพ้า'
จะไม่ใช้ชุดที่ใส่กันในชีวิตประจำวันก็ตามที แต่ต้องบอกว่าหลายๆ
ครั้งเรามักเห็นการนำเอาซิลูเอตของชุดกี่เพ้าแบบดั้งเดิม
ไปสอดแทรกในแฟชั่นสมัยใหม่กันอยู่บ่อยครั้ง เห็นได้จากหลายๆ
คอลเลกชั่นของเหล่าลักชัวรี่แบรนด์หรือเหล่าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ
ที่หยิบเอามรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้มาดัดแปลงและถ่ายทอดในรูปแบบที่ร่วมสมัยขึ้น
และแน่นอนเราคงพูดได้อย่างเต็มปากว่ากี่เพ้าถือเป็นหนึ่งไอเท็มคลาสสิกตลอดกาล
ที่นอกเหนือจากเป็นเครื่องแต่งกายแล้ว
ยังเป็นเครื่องหมายบอกเล่าประวัติศาสตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสละสลวยที่สุดอีกด้วย
แม้ต้นกำเนิดจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "กี่เพ้า"
หรือ ฉีผาวตามการออกเสียงของจีนที่แปลว่าเสื้อคลุมตัวยาว
กับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยทั้งความเจ็บปวดที่เปลี่ยนผ่านยุคสมัยกลายเป็นเครื่องหมายแสดงความสง่างามของหญิงชนชั้นสูงในเวลาถัดมา
หากเล่าย้อนไปถึงประวัติศาสตร์หรือต้นกำเนิดของกี่เพ้าแล้วนั้น
ต้องย้อนกลับไปยังยุคสมัยของราชวงศ์ชิงราวๆ ต้นศตวรรษที่ 19
ซึ่งเป็นยุคที่ชาวแมนจูปกครอง
และเดิมทีกี่เพ้าเคยเป็นชุดที่ใส่ในชีวิตประจำวันของชนชั้นสูง
และไม่ได้มีรูปทรงเข้ารูปและร่วมสมัยอย่างทุกวันนี้
กี่เพ้ารูปทรงหลวมโคร่งและปกปิดร่างกายทุกสัดส่วนเหลือเพียงแค่มือกับเท้าเท่านั้นที่โผล่ออกมาด้านนอก
หากนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงเสื้อคลุมตัวยาวทรงโอเวอร์ไซส์อะไรประมาณนั้น
อีกทั้งภายใต้กี่เพ้ายังถูกทับซ้อนไปด้วยผ้าอีกหลายชั้น
ทำให้กี่เพ้าเป็นเครื่องแต่งกายที่มีน้ำหนักและมีไว้สำหรับชนชั้นสูงแต่เพียงเท่านั้น
pearlriver
หลังจากราชวงศ์ชิงล่มสลายจากการปฏิวัติซินไฮ่ในปี 1911
ชุดกี่เพ้าดั้งเดิมถูกนำมาสวมใส่ในวงที่กว้างขึ้น
แต่หากยังเป็นการสวมกี่เพ้ากับกางเกงเฉกเช่นเดียวกับผู้ชายในยุคนั้น
แต่เริ่มมีการรับวัฒนธรรมตะวันตกเพิ่มมากขึ้น
ทำให้มีรูปทรงที่โมเดิร์นและกระฉับกระเฉงกว่าเก่า
แต่สิ่งที่คงอยู่อย่างชัดเจนคือการหลอมรวมความเชื่อและศิลปะของจีนและถ่ายทอดออกมาเป็นลวดลายสุดประณีต
ไม่ว่าจะเป็นลวดลายมังกรที่ปรากฏลงบนกี่เพ้า ดอกไม้มงคล
และสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งตามความเชื่อของจีน
Getty
Images
ในปี 1920 จีนเริ่มมีการติดต่อทำการค้ากับตะวันตกมากขึ้น
ชุดกี่เพ้าในสมัยนั้นจึงมีวิวัฒนาการแบบชาวตะวันตกแบบชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นทรวดทรงที่เข้ารูปเพื่อเผยสัดส่วนของความสง่างามของผู้หญิง
จากเดิมที่เคยใส่กี่เพ้ากับกางเกงก็เปลี่ยนเป็นการใส่กี่เพ้าตัวเดียว
การตัดเย็บถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นเดรสแบบชาวตะวันตก
ซึ่งจะมีทั้งแบบแขนสั้น แขนกุด แขนตุ๊กตา
รวมไปถึงการลดระดับความสูงช่วงคอให้น้อยลง
และการดัดแปลงวัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บให้มีความบางกว่าเดิมเพื่อง่ายต่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
Getty
Images
ในช่วงกลางศตวรรษที่
19 เซี่ยงไฮ้ได้รับความสนใจจากนานาชาติในเวลาไม่นานหลังจากมีการทำสนธิสัญญานานกิงเปิดเป็นท่าเรือ
ทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในทันที
และกี่เพ้าจึงกลายเป็นหนึ่งในแฟชั่นยอดฮิตของหญิงสาวสมัยนั้น
เราจึงได้เห็นผู้หญิงยุคนั้นใส่ชุดกี่เพ้าในชีวิตประจำวันกันขวักไขว่
การเดินจ่ายตลาดและออกจากบ้านด้วยชุดกี่เพ้าที่ประดับประดางานปักสุดประณีตนับเป็นภาพชินตาของชาวเซี่ยงไฮ้
การสวมใส่กี่เพ้าเข้ารูปร่วมกับถุงน่องและรองเท้าส้นสูงเป็นแฟชั่นยอดฮิตของเหล่าสตรีหมายเลข
1 ศิลปิน นักร้อง และนักแสดงในยุคนั้น
ยิ่งทำให้แฟชั่นกี่เพ้าแพร่หลายกลายเป็นไอเท็มยอดฮิตแห่งศตวรรษเลยก็ว่าได้
thepankou
และแน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป
กาลเวลาพาจีนมาสู่ช่วงเวลาหลังการปฏิวัติของคอมมิวนิสต์ ในปี 1949
กี่เพ้าไม่ได้เป็นเครื่องแต่งกายที่ใครหลายคนอยากจะสวมใส่มันอีกแล้ว
กลับกันในยุคนั้น
กี่เพ้ากลับถูกมองเป็นสัญลักษณ์ของยุคแห่งศักดินาและอิทธิพลของชาวตะวันตกที่พวกเขาไม่ต้องการจดจำ
และใครก็ตามที่สวมใส่กี่เพ้าจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ต่อต้านการปฏิวัติในทันที
imdb
อย่างไรก็ตามมรดกชิ้นสำคัญชิ้นนี้ยังคงถูกถ่ายทอดผ่านกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้
บ้างก็ว่าช่างตัดเย็บชาวจีนคนหนึ่งได้หนีจากประเทศบ้านเกิดเดินทางไปยังฮ่องกง
นั่นคงพอจะอธิบายเรื่องราวของตัวละคร Maggie
Cheung ที่สวมใส่กี่เพ้าในภาพยนตร์ In the Mood for
Love ของ Wong Kar
Wai ที่ได้เล่าเรื่องราวของชุมชนชาวเซี่ยงไฮ้ที่ถูกเนรเทศในช่วงต้นทศวรรษ
1960
ในฮ่องกงไว้ได้อย่างดี และถึงแม้ว่าเรื่องราวของกี่เพ้าจะแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นแฟชั่นที่ถูกสวมใส่กันแค่ในวันสำคัญของชาวจีนหรือมีเชื้อสายจีน
จากที่เคยเป็นเครื่องแต่งกายของชนชั้นสูงที่จับต้องได้ยากก็ตามที
เราเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นกี่เพ้าจากยุคไหน
แต่ความเป็นเอกลักษณ์และการจะหาสิ่งใดมาบอกเล่ามรดกทางวัฒนธรรมได้แบบกี่เพ้านั้นคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย
และเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากเลยทีเดียว
ว่าแล้วตรุษจีนนี้ลองหยิบกี่เพ้ามาแมตช์ลุคเก๋ในแบบฉบับปี 2022
กันดูดีไหมล่ะ
คุณกำลังดู: ถอดรหัสกี่เพ้า เครื่องแต่งกายชนชั้นสูง สู่สัญลักษณ์ยุคศักดินากับแฟชั่นต้องห้ามทศวรรษ19
หมวดหมู่: ผู้หญิง