ตุ่มน้ำ “ฝีดาษลิง” กับ ฝีดาษ ไข้ทรพิษ สุกใส เริม งูสวัด แตกต่างกันอย่างไร

แพทย์ผิวหนังชี้ ความแตกต่าง อาการของโรคฝีดาษลิง กับโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสอื่นๆ อาการของโรคฝีดาษลิง พบว่ามีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต นำมาก่อนตามด้วยอาการแสดงทางผิวหนัง

ตุ่มน้ำ “ฝีดาษลิง” กับ ฝีดาษ ไข้ทรพิษ สุกใส เริม งูสวัด แตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างของโรคฝีดาษลิง กับโรคติดเชื้อ จากไวรัสอื่นๆ ที่พบรอยโรคเป็นตุ่มน้ำ และที่มีอาการใกล้เคียงกัน และการอาการแสดงการผิวหนัง การรักษา ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส

ฝีดาษลิง คืออะไร

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฝีดาษลิง (monkey pox) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากสัตว์ ซึ่งมีอาการแสดงในมนุษย์คล้ายคลึงกับฝีดาษหรือไข้ทรพิษ โดยโรคมีรายงานอุบัติการณ์เกิดการระบาดในประเทศแถบทวีปแอฟริกา เนื่องในปัจจุบันมีการเดินทางข้ามทวีป ทำให้มีการเกิดการระบาดของโรคฝีดาษลิงส่วนอื่นของโลก เช่น ยุโรป และอเมริกา

อาการของฝีดาษลิง

ฝีดาษลิง มีการรายงานครั้งแรกในมนุษย์ในปี 1970 อาการของโรคฝีดาษลิง พบว่ามีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต นำมาก่อนตามด้วยอาการแสดงทางผิวหนัง ได้แก่ แผลในปากตามด้วย ผื่นแดง ตุ่มแดง ตุ่มน้ำ ที่อาจมีรอยบุ๋มเล็กๆ ตรงกลาง และต่อมากลายเป็นตุ่มหนองแล้ว จึงจะตกสะเก็ดโดยที่รอยโรค มีการเปลี่ยนแปลงพร้อมๆ กันจำนวนรอยโรค อาจมีได้ตั้งแต่ 2 - 3 ตุ่ม จนถึงมากกว่า 100

ความแตกต่างของโรคฝีดาษลิง และโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสอื่นๆ

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความแตกต่างของโรคฝีดาษลิง และโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสอื่นๆ ที่พบรอยโรคเป็นตุ่มน้ำ คือ ไข้ทรพิษ เริม สุกใส และงูสวัด โรคที่แยกจากฝีดาษลิงได้ยากที่สุด คือ ไข้ทรพิษ หรือ ฝีดาษ ซึ่งมีอาการนำคล้ายกันคือ ไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหลัง แต่ในฝีดาษลิงมักพบต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย ขณะที่ไข้ทรพิษมักมีอาการทางระบบทางเดินอาหารเช่น อาเจียน ปวดท้องได้มากกว่า

เมื่อเปรียบเทียบกับโรคติดเชื้อจากไวรัสอื่นที่พบได้บ่อยกว่า เช่น โรคสุกใส พบกว่าลักษณะของอาการแสดงทางผิวหนังแม้จะมีความคล้ายคลึงกันระหว่างโรคฝีดาษลิง และโรคสุกใส โดยที่เริ่มจากเป็นผื่นแดงเล็ก ๆ กลายเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง ที่กระจายทั่วตัว ตามลำดับ แต่ในฝีดาษลิงและไข้ทรพิษ การกลายของแต่ละระยะของรอยโรค จากผื่นแดง เป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ด รอยโรคจะอยู่ในระยะเดียวกัน ขณะที่ในโรคสุกใส รอยโรคแต่ละตำแหน่งจะมีการเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน ทำให้ผู้ป่วยอาจจะพบรอยโรคในทุกระยะในเวลาเดียวกันได้

โรคติดเชื้อไวรัสอื่นที่มีอาการแสดงทางผิวหนังเป็นตุ่มน้ำ เช่น งูสวัด และ เริม รอยโรคมักจะไม่มีการกระจายตัวไปทั่ว โดยงูสวัดจะอยู่ในแนวของเส้นประสาท และเริม มักมีรอยโรคเป็นกลุ่มในบริเวณเล็กๆ เท่านั้น จึงมีความแตกต่างจากโรคฝีดาษลิงอย่างไรก็ตาม

กรณีโรคฝีดาษลิงที่มีรอยโรคเล็กน้อย ในบริเวณแคบๆ ที่ไม่กระจายตัว อาจจะแยกได้ยาก จากโรคกลุ่มนี้ ทำให้ต้องอาศัยการตรวจพิเศษเพิ่มเติมและการแยกชนิดเชื้อด้วยวิธีการพิเศษทางห้องปฏิบัติการ

สำหรับโรคการติดเชื้อไวรัสที่ออกผื่น เช่น หัด หัดเยอรมัน ไข้เลือดออก ลักษณะอาการทางผิวหนัง มักจะเป็นผื่นแดง การพบตุ่มน้ำนั้นเกิดได้น้อยมาก ทำให้สามารถแยกโรคจากโรคฝีดาษลิงได้

หากมีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที

  • “ฝีดาษลิง” กับ 5 เรื่องควรรู้ พบเร็วลดเสี่ยงแพร่ระบาดได้
  • แบบทดสอบ คุณเสี่ยง “ฝีดาษลิง” มากน้อยแค่ไหน

คุณกำลังดู: ตุ่มน้ำ “ฝีดาษลิง” กับ ฝีดาษ ไข้ทรพิษ สุกใส เริม งูสวัด แตกต่างกันอย่างไร

หมวดหมู่: รู้ทันโรค

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด