อาการท้องเสียแบบไหน? ต้องใช้ “ยาฆ่าเชื้อ”

อาการท้องเสียแบบไหน? ต้องใช้ “ยาฆ่าเชื้อ”

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ถ้าท้องเสียต้องกินยาฆ่าเชื้อ เพื่อจะได้ฆ่าเชื้อในลำไส้และช่วยให้หยุดถ่าย แต่จริงๆ แล้ว เมื่อท้องเสียไม่จำเป็นต้องกินยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง เพราะ…

ท้องเสีย หรือ อุจจาระร่วง เป็นอาการที่ถ่ายอุจจาระเหลว เกิดจากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคปนเปื้อน หรือรับประทานอาหารรสจัด หรือเกิดจากยารักษาโรคบางชนิด หรือเกิดจากโรคบางชนิด ซึ่งส่วนใหญ่อาการท้องเสียจะหายได้เอง โดยการดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป แต่หากผู้ป่วยมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด และมีไข้สูง หรือถ่ายเป็นน้ำซาวข้าว จึงควรกินยาฆ่าเชื้อ

ส่วนกรณีที่มีอาการท้องเสียรุนแรง เช่น อุจจาระมีมูกปน กลิ่นเหม็นเหมือนหัวกุ้งเน่า คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส และมีอาการท้องเสียนานกว่า 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ด่วน เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

อาการท้องเสียแบบไหน? ต้องใช้ “ยาฆ่าเชื้อ”
ท้องเสีย – ถ่ายเหลวผิดปกติ ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน หรือ ถ่ายเป็นน้ำ, มูกเลือดเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน

 

ข้อควรจำ

  • การให้สารละลายเกลือแร่ชดเชย (ORS) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

  • อาการท้องเสียส่วนใหญ่ เกิดจากสารพิษ หรือ ไวรัส จึงไม่จำเป็นต้องทานยาฆ่าเชื้อ

  • จะทานยาฆ่าเชื้อเมื่อมีอาการ ถ่ายเป็นมูกเลือดหรือเป็นน้ำซาวข้าว , มีไข้สูง

  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และผู้สูงอายุ ไม่ควรซื้อยาหยุดถ่ายมารับประทานเอง

คุณกำลังดู: อาการท้องเสียแบบไหน? ต้องใช้ “ยาฆ่าเชื้อ”

หมวดหมู่: สุขภาพ

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด