ยืนงงในดงสถานีชาร์จรถ EV

ยืนงงในดงสถานีชาร์จรถ EV

สัปดาห์ที่แล้ว เกริ่นเอาไว้ว่าจะมาเล่าประสบการณ์ “ยืนงงในดงสถานีชาร์จ” ของผมเอง หลังมีโอกาสใช้งานรถ MG ZS EV แบบเต็ม ๆ 1 สัปดาห์ และมีโอกาสได้ลองผิดลองถูกกับสถานีชาร์จอยู่หลายเจ้า

เริ่มจากวันแรกครับ ผมขับรถไปกินข้าวกับครอบครัวที่เซ็นทรัลพระราม 9 ซึ่งจังหวะขับหาที่จอด ก็ได้ขับผ่านจุดที่จอดชาร์จรถไฟฟ้ายี่ห้อ Evolt พี่รปภ. อุตส่าห์โบกให้จอด ที่ไหนได้ ผมจอดในช่องปกติ เพราะไม่กล้า กลัวทำไม่เป็น (ฮา ๆ)

จากเซ็นทรัลพระราม 9 ขับต่อมายังเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ในช่วงค่ำ แล้วก็เจอที่จอด Evolt อีกครั้ง คราวนี้ระดับแบตเตอรี่เหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ก็เลยตัดสินใจลองผิดลองถูกมันตรงนั้น เริ่มตั้งแต่โหลดแอปฯ ลงทะเบียน ซึ่งยืนกดอยู่นานมากกว่าจะเรียบร้อย

ระบบของ Evolt เราต้องเติมเงินเข้าไปในระบบก่อน เริ่มต้นที่ 300 บาท ซึ่งที่จอดในห้างส่วนใหญ่จะเห็นหัวชาร์จ AC ซึ่งผมคิดว่าเขาคงอยากให้คนได้เดินชอปปิงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ซึ่งการชาร์จครั้งแรกที่อีสต์วิลล์ ผมใช้เวลา 1 ชั่วโมง 17 นาที ได้ไฟ 7.83 kWh ตัดเงินไป 78 บาท ระดับแบตเตอรี่ในรถขยับขึ้นมาราว 15-20 เปอร์เซ็นต์

วันต่อมาผมเดินทางไปอัมพวาอย่างที่เล่าไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนครับ ที่อัมพวาตั้งใจว่าจะต้องชาร์จที่ EV Station PluZ ของปตท. ตามที่เล็งเอาไว้ ซึ่งแอปฯ นี้ไม่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อน แต่ผูกกับบัตรเครดิต ทุกครั้งที่กดจองจะตัดเงิน 20 บาทเป็นค่าจอง แต่เงินจำนวนดังกล่าวจะคืนกลับมาเมื่อเราชาร์จเสร็จ

ev02 

สถานีชาร์จของ EV Station PluZ มีให้เลือกทั้งหัวแบบ AC และ DC CCS COMBO ซึ่งแน่นอนว่าเร็วกว่า และได้ระดับไฟที่เยอะกว่า แต่บอกก่อนนะครับ ว่าราคาของแต่ละที่ก็ไม่หมือนกัน ขึ้นอยู่กับความแรงของกระแสไฟ

อย่าง EV Station PluZ ที่อัมพวา ราคา 5.5 บาทต่อ kWh ชาร์จไป 21 นาที ได้มา 15.6 kWh ราคารวม VAT 65.80 บาท ซึ่งผมคิดว่าหากเป็นการเดินทางโซนต่างจังหวัด แอปฯ นี้น่าจะทำให้อุ่นใจได้มากที่สุดแล้ว

แอปฯ สุดท้ายที่มีโอกาสได้ลองก็คือ EA Anywhere ที่ลานจอดรถเพลินนารี่มอลล์ ย่านวัชรพล มีหัวชาร์จให้เลือกทั้ง 2 แบบ ทั้ง AC และ DC ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แต่ที่ติดใจคือ เวลากดเลือกตอนชาร์จ ดันให้ตัดเงินไปเลย อาทิ เลือกชาร์จ 100 บาท หากเราชาร์จไม่ครบ ตรงนี้ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะคืนเงินมาอย่างไร

ev01

แอปฯ EA Anywhere ผมกดเลือกวงเงินไป 100 บาท หัวชาร์จแบบ DC ราคา 6.55 บาท ต่อ kWh ชาร์จไป 41 นาที ได้ไฟมา 8.51 kWh ราคาตามจริง 55.74 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเงินที่เหลืออีก 40 กว่าบาท เขาจะคืนกลับมาอย่างไร

สรุปได้ว่าก่อนชาร์จจะมีความกังวล และก็ไปจะยืนงง ๆ หน่อยที่หน้าจุดชาร์จ แต่เมื่อเราลงแอปฯ และเรียนรู้กับมันได้แล้ว บอกเลยว่าการจอดชาร์จนอกบ้านนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ ขอแค่ให้แอปฯ นั้นเสถียรและเครื่องไม่ขัดข้องเป็นพอ

ส่วนปัญหาของผมตอนนี้ คือ ดันเหลือเงิน 150 บาท ที่เติมเข้าไปในแอปฯ Evolt หรือแบบนี้ผมควรแก้ปัญหาด้วยการหาซื้อรถ EV มาขับสักคันดีครับ (ฮา ๆ)

ผู้เขียน: ธันยเดช เกียรติศิริ 

คุณกำลังดู: ยืนงงในดงสถานีชาร์จรถ EV

หมวดหมู่: รถยนต์

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด