“บ้านพักคนชรา” กับเรื่องเงิน แก่และเก๋าต้องรู้จักวางแผน

“บ้านพักคนชรา” กับเรื่องเงิน แก่และเก๋าต้องรู้จักวางแผน

ทุกวันนี้ คำถามที่ว่า “คนที่ครองตัวเป็นโสด ไม่มีคู่ชีวิต ไม่มีลูกหลาน แก่ตัวไปจะอยู่อย่างไร” ไม่ใช่คำถามที่ตอบยากอีกต่อไป อีกทั้งการใช้ชีวิตในบั้นปลายแบบตามลำพังก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดด้วย คนโสดที่วางแผนชีวิตหลังเกษียณไว้แล้ว จะมีคำตอบที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคำถามนี้ว่า “บ้านพักคนชราคือคำตอบ” ทว่าอันที่จริงคนไม่โสดแต่ใช้ชีวิตแบบ DINK หรือคนที่ไม่โสด มีลูกมีหลาน แต่ก็ไม่ต้องการเป็นภาระให้ลูกหลานเลี้ยงตอนแก่ ก็สามารถวางแผนให้บ้านพักคนชราเป็นคำตอบสุดท้ายในวัยไม้ใกล้ฝั่งของตนเองได้เช่นกัน

แต่เมื่อเอ่ยถึงบ้านพักคนชรา ภาพจำแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมา คือสถานที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีบรรยากาศหดหู่ชวนเศร้าใจ เพราะก่อนหน้านี้ บ้านพักคนชราถูกทำให้จดจำในฐานะของศูนย์รวมคนชราที่ถูกลูกหลานทอดทิ้ง ซึ่งส่วนหนึ่งของผู้สูงวัยที่พักอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ก็ถูกลูกหลานนำมาฝากไว้โดยไม่เหลียวแลจริง ๆ ทว่าทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของบ้านพักคนชราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ใครหลายคนวางแผนชีวิตในอนาคตไว้ ด้วยการตั้งใจเลือกให้บ้านพักคนชราเป็นสถานที่สุดท้ายของชีวิต ตั้งใจที่จะเก็บเงินไปอยู่เองไม่รอให้ลูกหลานพาไปปล่อย หรือบางคนไม่มีลูกหลาน ก็ไม่อยากอยู่ลำพังโดยไม่มีใครดูแล บ้านพักคนชราที่มีคนดูแล ข้าวปลาอาหารครบ เพื่อนฝูงวัยเดียวกันเยอะแยะ จึงตอบโจทย์กว่า

บ้านพักคนชราเป็นสถานที่ที่มีสภาพความพร้อมในการรักษาและพยาบาลผู้สูงอายุ มีทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ และเครื่องมือพร้อมดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกใช้บริการบ้านพักคนชราจึงไม่ใช่การมองหาที่พักในบั้นปลายชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการซื้อสภาพชีวิตที่ดีพร้อมต่อการอยู่อาศัยด้วย มีอาหารครบ 3 มื้อ มีคนคอยดูแล มีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกกับสังคมเพื่อนฝูงกลุ่มเดียวกัน ทำให้ทุกวันนี้ บ้านพักคนชรากลายเป็นสินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงมาก ผู้ที่วางแผนจะเข้าพักในบ้านพักคนชรา จึงต้องเตรียมพร้อมทั้งการเงินและสุขภาพร่างกาย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้ในอนาคต

เลือกบ้านพักคนชรา ต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง

ผู้สูงอายุแต่ละคนเหมาะกับโครงการแบบไหน เพื่อให้สามารถเลือกที่อยู่ได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยมีปัจจัยในการพิจารณา 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่

1. สภาพร่างกายของตัวคุณเอง

คุณต้องประเมินสภาพร่างกายของตัวคุณเองก่อนว่าคุณเป็นผู้สูงวัยที่ยังแข็งแรงดี ช่วยเหลือตัวเองได้ หรือเป็นผู้สูงวัยที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อการดูแลที่เหมาะสม ต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายในการไปพักที่บ้านพักคนชรา ก็เพื่อให้มีคนคอยดูแล เพราะตัวคุณในวัยนั้นมีข้อจำกัดมากมาย แตกต่างจากวัยหนุ่มสาว ทั้งนี้ แม้ว่าคุณจะวางแผนในขณะที่คุณคิดว่าตนเองน่าจะยังแข็งแรงดี ก็ต้องมองมุมกว้างถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วย ในกรณีที่คุณอาจจะล้มป่วยกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุ แผนจะเปลี่ยนทันที จากที่ช่วยเหลือตัวเองได้เป็นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย นอนติดเตียง หรืออาจพอจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่ก็ต้องการความช่วยเหลือเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

  • กลุ่มผู้สูงวัยที่สามารถดูแลตัวเองได้

การที่คุณดูแลตัวเองได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะถูกละเลย ไม่มีผู้ดูแลเลยแบบนั้น เพียงแต่คุณจะต้องไปพบแพทย์ตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเช็กสุขภาพร่างกายของตนเอง จึงไม่ต้องให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่มาตามดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา อันที่จริง คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้บริการบ้านพักคนชราก็ได้ แล้วเลือกใช้บริการบ้านหรือคอนโดสำหรับผู้สูงอายุแทน เพราะคุณสามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้ไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ แต่จะมีแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำการเพื่อคอยให้การบริการเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ

  • กลุ่มผู้สูงวัยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

จะแตกต่างออกไปจากกลุ่มก่อนหน้า การที่คุณช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แปลว่าคุณต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น บริการบ้านพักคนชราจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด มีทีมแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ในกรณีที่ร่างกายคุณไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิม ป่วยเป็นโรคร้าย หรือมีภาวะติดเตียง ควรวางแผนเลือกบ้านพักคนชราที่มีจุดเด่นหรือการดูแลที่ครอบคลุมในแบบที่คุณต้องการ ส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกัน มีเพียงรายละเอียดย่อย ๆ ที่แตกต่างกัน

2. เงินเก็บของคุณเอง

บ้านพักคนชรา หรือโครงการบ้านหรือคอนโดสำหรับผู้สูงอายุนั้น มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการไม่เท่ากัน คุณภาพและความพร้อมขึ้นอยู่กับงบประมาณที่คุณมี ดังนั้น คนที่วางแผนล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะให้บ้านพักคนชราเป็นคำตอบสุดท้ายในวัยนั้น คุณสามารถวางแผนเก็บเงินล่วงหน้าได้ โดยลองเลือกว่าคุณต้องการอยู่แบบไหน สายประหยัดเน้นใช้ชีวิตเรียบง่ายรอวันสุดท้ายของชีวิต สายพอมีกินมีใช้ ต้องการความสะดวกสบายขึ้นมาอีกระดับ หรือสายหรูหรา ถึงจะชราแต่ก็ยังติดหรูอยู่สบาย ทั้งหมดนี้คุณสามารถออกแบบได้เอง เข้าไปศึกษาที่พักในแต่ละแบบว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไร และค่อย ๆ เตรียมเก็บเงินของคุณไปในวัยทำงาน

  • กลุ่มที่มีเงินก้อน

การมีงบประมาณจำนวนหนึ่งอยู่ในมือ ทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการในระดับไหน แต่แนะนำให้อยู่ในโครงการบ้านหรือคอนโดสำหรับผู้สูงอายุมากกว่า เพราะคุณจะยังมีอิสระในการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันก็ยังมีเจ้าหน้าที่หรือทีมแพทย์ประจำการอำนวยความสะดวกให้ ที่สำคัญ คุณจะยังได้พบปะกับเพื่อนฝูงในวัยเดียวกันที่สามารถร่วมกิจกรรมเข้าสังคมร่วมกันได้ด้วย

  • กลุ่มที่มีไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินก้อน หรือได้รับเงินได้รายเดือน

การที่คุณไม่มีเงินก้อน อีกทั้งยังไม่สามารถกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดในโครงการสำหรับผู้สูงอายุได้ ตัวเลือกของคุณก็จะน้อยลง ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณเหมาะกับบ้านพักคนชรามากกว่า เนื่องจากคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นรายเดือน ซึ่งก็ครอบคลุมทั้งค่าที่พัก อาหาร และค่ารักษาพยาบาล คุณจะสามารถวางแผนบริหารการเงินให้เพียงพอต่อการใช้บริการบ้านพักคนชราได้

3. อื่น ๆ

นอกเหนือจากเรื่องของสภาพร่างกายและงบประมาณแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกที่พักอาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิต เช่น เสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการจริงหรือที่เรียกว่ารีวิว เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่คำเชิญชวนในโฆษณาจะไม่ได้แจ้งเรื่องในอีกแง่มุมให้ผู้ซื้อทราบอยู่แล้ว บางคนก็ยังเป็นห่วงในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ที่แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางบ่อยเหมือนตอนยังหนุ่มยังสาว แต่ก็ยังสะดวกใจกับทำเลที่เดินทางง่าย ๆ สะดวก ๆ มากกว่า รวมถึงความรู้สึกของคุณเองต่อที่พักนั้น ๆ เพราะก่อนที่คุณจะเลือก คุณน่าจะต้องไปลองสำรวจสถานที่ด้วยตัวเองดูก่อน

คิดจะเลือกบ้านพักคนชรา ควรมีเงินเริ่มต้นที่เท่าไร

ในอนาคต บ้านพักสำหรับคนชราจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกปี ยิ่งกับสังคมไทยที่เป็นสังคมผู้สูงอายุเรียบร้อยแล้ว และเมื่อถึงวัยเกษียณ ว่าที่คนชราในอนาคตทั้งหลายก็อาจจะได้เห็นรูปแบบที่พัก บริการ ตลอดจนราคาของบ้านพักคนชราที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการคนแต่ละกลุ่มมากขึ้น แต่โดยทั่วไป บ้านพักคนชรามีหลายแบบให้เลือกสรรตาม “งบ” ที่มี มีทั้งแบบเช่ารายเดือน เช่าระยะยาว ที่มักให้สิทธิเช่า 20-30 ปี หรือถ้ามีกำลังจ่าย จะซื้อขาดออกมาก็ได้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

  • บ้านพักคนชราแบบฟรี ที่ภาครัฐสนับสนุน หรือแบบจ่ายค่าแรกเข้าก็สามารถอยู่ได้ทั้งชีวิต หรือจ่ายรายเดือน สำหรับคนงบน้อยหรือเน้นความสันโดษหรือสมถะไม่หวือหวา ยกตัวอย่างที่บ้านบางแค จะแบ่งเป็นผู้รับบริการออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คืออยู่ฟรี ไม่เสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น กลุ่มที่สอง เสียค่าบริการแบบห้องพักรายเดือน เริ่มต้นที่ 1,500 บาทต่อเดือน (ห้องพักเดี่ยว) และ 2,000 บาทต่อเดือน (ห้องพักคู่) กลุ่มที่สาม แบบพิเศษ เป็นบ้านเดี่ยวบังกะโล เสียค่าแรกเข้า 300,000 บาท+ค่าเช่ารายเดือนราคาเดียวกันกับกลุ่มที่สอง และค่าน้ำค่าไฟ ส่วนบุศยานิเวศน์จ่ายค่าแรกเข้าอยู่ที่ 200,000-250,000 บาทตลอดชีพ
  • บ้านพักคนชราทั่วไป ราคาไม่เกินเอื้อม ถ้าตอนช่วงหนุ่มสาววางแผนมาดี ก็จะได้อยู่สบายมากกว่าบ้านพักคนชราแบบฟรีในช่วงบั้นปลายชีวิตอยู่แล้ว จากความเหน็ดเหนื่อยในการเก็บเกี่ยวน้ำพักน้ำแรงมาตลอดทั้งชีวิต บ้านพักคนชราแบบนี้จะเป็นบ้านพักคนชราแบบมาตรฐานของเอกชน ส่วนใหญ่แล้วจะเช่าเป็นรายเดือน โดยเริ่มต้นที่ราคา 10,000 บาทต่อเดือน ไปจนถึง 100,000 บาทต่อเดือน หรืออย่างที่สวางคนิเวศ สภากาชาดไทย จะให้สิทธิอยู่อาศัย 20 ปี แต่จะเรียกค่าแรกเข้าอยู่ที่ 650,000 บาท บวกรวมกับค่าใช้จ่ายช่วง 20 ปีอีก 1 ล้านบาท
  • บ้านพักคนชราแบบหรูหราตามวิถีของคนรวย ผู้สูงอายุที่มีกำลังจ่าย ก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามราคาที่จ่าย เพราะฉะนั้น ใครที่ต้องการความสบายขั้นสุดในช่วงบั้นปลายชีวิต ช่วงหนุ่มสาวอาจต้องขยันหาเงินกันสักหน่อย โครงการบ้านพักคนชราของผู้มีกำลังจ่าย มีทั้งแบบที่ซื้อขาดและแบบให้สิทธิ 30 ปี ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายคอนโด หากต้องการบ้านพักคนชราแบบหรูหรา จะต้องมีเงินหลักล้านเป็นอย่างต่ำ โดยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1.1 ล้านบาท และแพงที่สุด ราคาอาจพุ่งไปจนถึงหลักสิบล้านได้เลย ขึ้นอยู่กับโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในโครงการ

คุณกำลังดู: “บ้านพักคนชรา” กับเรื่องเงิน แก่และเก๋าต้องรู้จักวางแผน

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด