แจกพิกัดรสอร่อย นางเลิ้ง ตลาดแบบไทยๆ ที่ถือกำเนิดเมื่อ 100 กว่าปีก่อน
แนะนำร้านอาหารเด็ดย่านนางเลิ้ง ย่านโบราณของไทยที่มีแต่ของอร่อย
ในบรรดาย่านพระนครที่อุดมด้วยร้านอาหารมีตำนานของกินมีตำรับและอยู่พิกัดถิ่นเก่าแก่ นางเลิ้ง นับว่าไม่แพ้ใคร แม้ว่าจะต้องตั้งใจเดินทางไปสักนิดด้วยรถไฟฟ้ายังไม่ผ่านจะขึ้นรถเมล์ก็ต้องเดินต่อ ขับรถก็ต้องลุ้นที่จอดนิด แต่นี่คือเสน่ห์ของอดีตย่านตลาดแบบไทยๆ ที่กำเนิดเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเพื่อรองรับการขยายตัวของพระนครตามแนวเส้นคลองผดุงกรุงเกษมที่ขุดขึ้นใหม่
ครั้งหนึ่ง นางเลิ้ง ได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงอาหารกลางวันของหน่วยงานราชการจำนวนมากที่รายล้อม การโยกย้ายของหน่วยงานเหล่านี้ออกไปจำนวนมากในปัจจุบันทำให้นางเลิ้งซบเซาไปช่วงหนึ่ง แต่ด้วยเสน่ห์ความอร่อยที่พ่อค้าแม่ขายรุ่นลายครามที่ปรุงกันร้อนๆ และเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนที่เหมือนหยุดนาฬิกาไม่ให้หมุนมานับทศวรรษ ทำให้ “ซิงตั๊กลัก” (คำที่คนจีนใช้เรียกสื่อถึงตลาดใหม่เทียบกับ “ตลาดเก่า” ที่เยาวราช) ยังคงมีลมหายใจอยู่ ยิ่งหลังๆ ได้ทั้งดาราและบุคคลสำคัญจากต่างประเทศหลายคนมาแวะช่วยโปรโมตทางอ้อม รวมถึงตัวช่วยของการสั่งผ่านไรเดอร์ทำให้หลายร้านขายหมดแม้ยังไม่ถึงเวลาเที่ยง
จุดเด่นอีกอย่างของ นางเลิ้ง คือนอกจากนั่งกินตามร้าน ยังสามารถหิ้วห่อเล็กจานน้อยจากกองทัพแผงอาหารทั้งแบบปรุงสดและบรรจุสำเร็จพร้อมกินซึ่งล้วนถูกจัดระเบียบเรียบร้อยให้อยู่ภายใต้หลังคาใหญ่หลังเดียว มานั่งกินบนโต๊ะเก้าอี้กลางตลาดได้หลายเจ้าไปพร้อมกัน
นางเอกของตลาดดูจะเป็นขนมไทยและของกินเล่นทั้งแบบแห้งเก็บกินข้ามวันและแบบทำสดกินร้อนทันที
ไม่ว่าจะกลุ่มขนมทำจากกะทิ ทำจากไข่แดง และที่นึ่งสด
แต่ก็มีอาหารจานเดียวสารพันเมนู คอยบริการ Sarakadee
Lite รวมโพยมาให้ ทอดน่องไปชิมไป ไว้เป็นกลุ่ม ทั้งคาวหวาน
และทั้งร้านเก่าร้านใหม่ ดังนี้
3 ตำนานขุนพลความอร่อยแห่งย่านนางเลิ้ง
เมื่อเอ่ยถึงเมนูนางเลิ้ง สามร้านนี้คือภาคบังคับ ด้วยอายุร้านนับหลายทศวรรษ อ่อนแก่พรรษากันไปไม่มาก ทั้งหมดล้วนนำเสนอตำรับรุ่นปู่ย่าอากงอาม่า บางคนอาจจะติงว่ารสไม่จัดจ้านอย่างที่คนร่วมสมัยคุ้น แต่หารสมือแบบนี้ได้ยากเต็มที เรียกว่าส่วนหนึ่งที่ยังยืนหยัดมาได้อย่างยาวนานเพราะลูกค้าขาประจำอุดหนุนต่อเนื่องกันมา ตั้งแต่ยุคนั่งรถรางมากินยันยุคสั่งผ่านไรเดอร์
ไส้กรอกปลาแนมแม่เล็ก: ของกินเล่นไทยโบราณที่ทำแบบเล่นๆ ไม่ได้
เพราะมากด้วยเครื่องเครา และกระบวนการตั้งแต่ตอนปรุง จัดเรียง
ไปจนถึงกินเลยทีเดียว แต่เจ้าเก่าแก่กว่า70ปี
รุ่นที่3นี้กลับจัดสรรได้อย่างครบสูตร
แม้กระแสความนิยมจะทำให้มีเจ้าอื่นในย่านอื่นเป็นทางเลือก
แต่หาใครโค่นตำแหน่งแชมป์ของแม่เล็กไปได้ ด้วยรสมือที่ลงตัวของสองส่วน
ทั้งไส้กรอก ที่จัดมาทั้งแบบข้าวและแบบหมู
และตัวปลาแนมที่นิ่มฟูแต่เต็มคำ ส่วนผสมหายากทำเหนื่อยก็ไม่เคยขาด
ทั้งส้มซ่าสด ถั่วคั่วใหม่ และกระเทียมดองซอย
รสครบทั้งหวานอมเปรี้ยวเผ็ดพริกปลายลิ้นกับหอมสมุนไพรติดปลายจมูก
รวมถึงผักเคียงที่จัดมาให้ครบรส โดยที่ไม่ลืมจะมีใบชะพลูมาให้ทุกครั้ง
จากความนิยมทำให้ขายได้หมดแทบทุกวัน พลอยให้คนซื้อได้กินของปรุงสดใหม่
แนะให้จองไว้ก่อนจะดีสุดหากชอบกินเป็นบางอย่างก็สามารถขอซื้อไส้กรอกหรือปลาแนมแยกขายเป็นขีดได้
“จิ๊บกี่” สถาบันประจำนางเลิ้ง : เห็นคำลงท้ายว่ากี่
ก็ยืนยันได้ดีว่าเป็นกวางตุ้งคู่พระนครเก่าแก่ ด้วยอายุไขร้านถึงกว่า
8 ทศวรรษ
หลักฐานชั้นดีคือรูปบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกร้านกับเฟอร์นิเจอร์ไม้รุ่นเก่ารวมถึงจานช้อนส้อมที่เสริมความขลังของตึกแถวสามคูหาแห่งนี้
ให้เป็นสถาบันอาหารประจำย่าน
แต่ที่ต้องยอมรับคือความคงเอกลักษณ์ด้านรสชาติและการนำเสนอ
ทั้งตูดเป็ด ไส้แก้ว หม้อตุ๋น ข้าวร่วนๆ น้ำจิ้มพริกสด
ที่โดดเด่นสุดคือน้ำราดแบบรสยุคก่อนที่เค็มนำหวาน
ออกใสไม่ข้นแป้งมันแบบร้านรุ่นใหม่
และตัวเนื้อเป็ดที่บรรจงหั่นโชว์หนังติดมาให้แทบทุกชิ้น
โดยสีไม่ได้แดงจัด แต่กลับติดเกรียมนิดๆ
และหอมย่างด้วยถ่านคนที่มาสายก็จะทันแค่หมูย่างที่ไม่ได้หวานมากเช่นกัน
และหมูกรอบเนื้อนุ่มหนังติดเค็มหน่อย ย้อนอดีตถึงรสกวางตุ้งแบบไทยๆ
ที่มีกลิ่นอายของแต้จิ๋ว
ความคลาสสิกอีกอย่างนอกจากตัวอาหารก็คือวิวถนนฝั่งตรงข้าม
และอาม่าที่คอยเฝ้าร้าน จะให้ดีต้องมาแต่เช้า
ตอนลูกค้ายังไม่มากออร์เดอร์ไรเดอร์ยังไม่หลั่งไหล
นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังไม่มายึดโต๊ะ
แล้วสั่งชุดเครื่องในพร้อมไส้แก้วผสมตูดเป็ด ขอน้ำราดแยกใส่ถ้วย
เป็ดตุ๋นกรุ่นพริกไทยไร้กลิ่นมะนาวดองสักโถมาพุ้ยกับข้าวสวยที่ยางน้อยอย่างที่หลายคนบ่นไม่ชอบ
นับเป็นเซตหาที่ไหนเทียบได้
สตู-กะหรี่รสโบราณ : อีกดาวเด่นที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนศุภมิตร
แยกจากถนนกรุงเกษมริมคลอง แต่เป็นทางเข้าตลาดด้านหลัง
ร้านอายุกว่าครึ่งศตวรรษนี้ไร้ชื่อ แต่ไม่จำเป็น
เพราะใบหน้าของสองสาวศรีพี่น้องรุ่นเก๋านับเป็นตราร้านได้เป็นอย่างดี
อาหารจานเดียวตักเสิร์ฟไวเมนูประหยัดนี้เคยยอดฮิตในอดีต
ที่ไม่ใช่ทั้งสตูแบบฝรั่ง หรือกะหรี่แบบแขกหรือญี่ปุ่น
แต่เป็นแนวจีนที่ทั้งหากินยากและหาอร่อยแบบสูตรโบราณยากขึ้นไปอีก
ร้านที่กว้างถึง2คูหา แต่ขายกับเพียงแค่ 2 หม้อ คือ แกงกะหรี่หมู
และสตูลิ้นหมูแบบจีน และแทบทุกโต๊ะจะสั่งกุนเชียงมาแกล้ม
เพราะน้ำแกงไม่เค็มหรือฉุนเครื่องพะโล้แบบร้านอื่น
ส่วนเนื้อเองก็นุ่มจากการเคี่ยวตุ๋นที่ไม่เละจนเกินไป
น่าเสียดายอยู่นิดที่ร้านนี้เลิกขายเนื้อและก๋วยเตี๋ยวไปแล้วแต่ยังมีกะเพราไก่
(เฉพาะวันอังคารและวันพฤหัสบดี) ไว้เป็นทางเลือก
หากไม่รู้จะสั่งอย่างไร
ก็ขอแบบผสมทั้งสตูและกะหรี่ราดข้าวบนจานเดียวกัน และกุนเชียงแนม
สวรรค์คำน้อยๆ ของอาหารว่าง
ถ้ายังไม่อิ่มจากจานหลัก นางเลิ้งก็พร้อมทำให้จุกด้วยอาหารว่างที่จะกินต่อเลย หรือหิ้วกลับไปกินยามบ่ายหรือยามเย็นที่บ้านก็ได้ แต่ดีสุดคือกินภายในวันที่ซื้อเลย เพราะจะได้ผัสสะสดรสไม่ต่างจากที่ทำเสร็จใหม่ ท่ามกลางสารพัดอาหารว่างตำรับ นางเลิ้ง คงพลาดรายการตามนี้ไปไม่ได้
สาคูพอดีคำสูตรแม่สะอิ้ง : แม่สอิ้งทำสาคูของเธอออกแนวหวานนำ
ไม่เค็มไช้โป๊อย่างเจ้าอื่นแต่กินได้เนื้อหมูแท้ๆ
ที่ไม่ใช่มาเพียงแต่วิญญาณ
เครื่องทั้งหมดพร้อมถั่วและหอมได้สับละเอียดเนื้อแน่นกัดแล้วไม่ร่วง
ด้วยคำไซซ์มินิทำให้กินง่ายโดยขายมากว่าครึ่งศตวรรษข้างไส้กรอกปลาแนมนั่นเองแถมมีปากหม้อเมนูคู่แฝดของไส้หมูที่มักหมดก่อนเพราะแป้งบางชนะใจสายโลว์คาร์บ
ทั้งหมดควรรีบกิน
หากข้ามคืนเม็ดสาคูหรือแป้งปากหม้ออาจเกาะกันด้วยไม่ได้ราดน้ำมันเคลือบจนโชกอย่างเจ้าอื่น
ของแนมก็คัดมาดีทั้งหอมผักชีกระเทียมเจียวกรอบ พริกขี้หนูสวนเม็ดจิ๋วๆ
อยากได้ของเสริมก็มีสองข้าวตัง ทั้งหน้าตั้งและเมี่ยงลาวให้สลับรส
เบื้องไทยประชันเบื้องญวน : แก้อาการคนแยกไม่ออกระหว่างเบื้องไทยกับเบื้องญวน ที่ไม่รู้อันไหนเป็นคาวหรือหวาน อาหารหรือขนม ได้ด้วยการพามาดูอาหารสองชนิดนี้ที่ละเลงแป้งกันร้อนๆ ได้ที่นางเลิ้ง โดยมีทั้งหมด 3 พิกัด เจ้าแรกคือร้าน เบื้องญวนวิภาวรรณ ในบริเวณตลาดด้านในที่ขายตลอดวัน ซึ่งนอกจากมีทั้งแบบแป้งกรอบเป็นแพและแบบแป้งนิ่มใส่ไข่แล้ว ยังมีผัดไทยและขนมผักกาดให้เลือกพร้อมกัน ส่วนอีกเจ้า เบื้องญวนย่าแช่ม อยู่ริมถนนโดยตั้งเตาถ่านเรียงรายตรงปากซอยนครสวรรค์ 4 ขนความเก๋ามาทั้งสูตรและวิธีทำ ไส้จะเน้นมะพร้าวสั่งพิเศษขูดเป็นเส้นไม่ใช่ฝอยผัดปรุงรสผสมกุ้งแม่น้ำนิดๆ สีออกธรรมชาติไม่แดงจัด แนะให้สั่งแบบกรอบมาคลุกกับอาจาดเปรี้ยวนำด้วยน้ำส้มสายชูสับปะรดหมักผสมขิงอ่อนซอยไม่เหมือนใคร ที่ให้มาแบบจัดเต็มถ้วยไม่หวงของไว้คอยตัดเลี่ยน ส่วนขาชอบแป้งนิ่มต้องรอนิด เพราะแม่ค้าจะนำมาทอดซ้ำรีดน้ำมันออกเพิ่มความกรอบ คนที่โชคดีได้คิวเบื้องญวนแล้วแต่รอทนหิวไม่ไหว ก็กินปังหน้าหมูที่มีเตาปิ้งรีดน้ำมันประทังไปก่อนได้
ส่วน เบื้องไทยลุงน้อย เพิ่งย้ายไปขายแผงในตลาดใต้หลังคา
หลังขายปากซอยเดียวกันกับย่าแช่มมานานเอกลักษณ์ (อีกแล้ว)
อยู่ที่การทำคำเล็กๆไม่ต้องคอยประคองถือให้เมื่อย
จบได้ในหนึ่งหรือสองคำ
แต่อาจยังร่วงลงพื้นอยู่บ้างด้วยแป้งที่กรอบพรุนซึ่งทำจากแป้งถั่วเขียวแท้โม่เองที่ติดหวานนิดด้วยคาราเมลจากไข่ขาวผสมน้ำตาลมะพร้าวที่ละเลงบางๆ
ก่อนโปรยไส้ที่มีทั้งแบบหวานเครื่องฝองทองเมืองเพชรผสมงาคั่วพุทราสับและลูกเกด
และแบบไส้เค็มเครื่องมะพร้าวผัดสามเกลอที่ได้ผัสสะเนื้อกุ้งและกลิ่นมันกุ้งที่พอใส่ให้ออกแดงซีดๆ
แซมด้วยใบผักชีเพิ่มกลิ่นด้านบนหากมาสายอาจจะไม่ทันเห็นตอนทำสด
แต่ประกันความกรอบที่ยังกรุบตลอดวัน
และฝากสั่งให้มาส่งที่ร้านย่าแช่มได้
ละลานตาขนมไทย
หลายคนดั้นด้นไปต่างจังหวัด ทั้งเมืองเพชร หรือแปดริ้ว โดยลืมไปว่ายังมีแหล่งรวมขนมไทยชั้นดีอยู่ใจกลางพระนครอย่างนางเลิ้งนี่เอง และไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าสองเจ้า แต่นับด้วยนิ้วทั้ง 10 เกือบไม่ถ้วน บางเจ้าที่เก่าแก่หน่อยก็แตกหน่อเป็นเครือญาติกันมา ส่วนเจ้าที่ใหม่หน่อยก็พยายามหาจุดเด่นให้ไม่ซ้ำใคร
แม่สมจิตต์: เพื่อนบ้านร้านปลาแนมที่เด่นด้วยขนมใส่กล่องพลาสติกใสเรียงสวยงามด้วยสัดส่วนพอดีมื้อและหลากหลาย ตัวชูโรงคือแปบไส้กุ้ง ที่ไม่ใช่ถั่วแปบ ที่ต้องลุ้นนิดว่าทำขายไหมและหมดไวมาก ส่วนของพื้นฐานอย่างถั่วแปบ ขนมกลุ่มทองหยิบทองหยอด ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ กับขนมกลุ่มกะทิ ก็จะสลับเวียนกันมาวางในแต่ละวัน ขาเก่าแก่จะทราบว่าแม่สมจิตต์เป็นขนมทางเดียวกับร้านแม่กวา อีกเจ้าเก่าแก่ที่ปัจจุบันตั้งเป็นแผงอยู่ในตัวตลาดใต้หลังคา
นันทา: อีกเจ้าที่อยู่ในตึกแถวเก่าข้างตัวตลาดด้านใน
ที่สร้างแบรนด์ด้วยการทำขนมให้ออกมาขนาดเดียวกันในกระทงใบตองขนาดพอดีสองนิ้วหยิบได้
โดยแยกขนมเป็นสองสายหลัก คือกลุ่มข้าวเหนียวหน้าต่างๆ
กับกลุ่มขนมนึ่งผสมแป้งข้าวเจ้าทั้งขนมมัน เผือก กล้วย ข้าวโพด
และฟักทอง รวมถึงขนมตาล
แต่จะกลุ่มไหนก็เอาไปฝากใครหรือจัดเสิร์ฟต่อเองได้อย่างสวยงาม
แม่มณฑา: ยืนหนึ่งในตองอูในบรรดากลุ่มเจ้าขนมในตลาด
คือขนมถ้วยเจ้านี้ที่นึ่งใหม่ทุกวัน
ราดส่วนแป้งหวานกับส่วนกะทิเค็มกันให้เห็นๆ
พร้อมเรียงรายให้เห็นถ้วยตะไลที่แคะออกมาให้ประจักษ์เป็นหลักฐาน
โดยแม้ทำแบบถ้วยใหญ่ที่เริ่มหายากแต่เนื้อกลับไม่เละหลังแคะเรียงลงกล่อง
สำหรับคนที่รู้สึกยังกลืนกะทิไม่พอ ก็มีขนมสอดไส้เป็นตัวเสริม
พร้อมข้าวต้มมัด ถั่วแปบ และมันเชื่อม
และหากอาการน้ำตาลตกยังไม่หาย ตลาดนางเลิ้งยังมีขนมเทียนแม่อรุณไส้เค็มสูตรเก่าที่ขายมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ป้าหงส์ขนมไทยร้านใหญ่ใกล้อดีตโรงหนังที่เป็นสวรรค์ของขนมแห้ง กล้วยเชื่อมน้องเดียร์ในตึกริมตลาดอีกฝั่งที่ละลานตาด้วยสารพัดกล้วยเชื่อมหลากสีแปลกตากว่าเจ้าอื่น และอีกนานาเจ้า
สามขุนพลหมี่เตี๋ยว
ไม่ต่างจากย่านเก่าคู่พระนครย่านอื่นที่มีสำรับจีนไว้คอยยั่วน้ำลาย แม้จะไม่ถึงกับระดับเหลาแต่นางเลิ้งก็ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมบะหมี่ก๋วยเตี๋ยวแนวจีนที่แต่ละเจ้าบรรจงสร้างเอกลักษณ์ของตนไม่แพ้ที่อื่น โดยส่วนใหญ่จะหนักไปทางเครื่องหมูเครื่องเป็ด มากกว่าสายลูกชิ้นปลา
บุญเลิศ สารพันจานหมูย่าง
: จุดเรียกแขกของบุญเลิศก็คือหมูย่างที่หมักด้วยซีอิ๊วอย่างดี
ที่ทำให้คนออกันเต็มปากซอยนครสวรรค์ 8
จนทำให้ได้ป้ายมิชลินมาเป็นแม่เหล็กสำคัญให้กับตลาดเก่าแก่อย่างนางเลิ้ง
โดยย่างออกมาได้สีธรรมชาติจากเครื่องปรุง
ไม่ได้หวานนำและแดงแสบตาจากสีผสมอาหาร
ยิ่งพอได้กัดกลืนความหอมก็กระทบนาสิก น้องๆ
หมูชาชูตามร้านราเมงหลักร้อย แต่ดีสุดก็คือขอประดับชามให้ครบสามหมู
ทั้งหมูแดง หมูกรอบ และหมูสับ จะโรยปูหรือไม่ก็แล้วแต่กำลังศรัทธา
จะต่อด้วยเมนูหมูอบหรือจานเป็ดไก่อื่นๆ
ที่พลิกแพลงก็คงแล้วแต่กำลังพุง
รุ่งเรืองหมี่เหนียวนุ่ม : ถัดมาด้านในของซอยนครสวรรค์ 8 เช่นกัน คือร้านติดป้ายเชลล์ชวนชิม ดังได้ด้วยเส้นบะหมี่สูตรฮกเกี้ยนเหนียวสู้ฟันแบบไร้สารกันบูดที่มีคนติดใจขอแยกซื้อกลับบ้านจนต้องบรรจุบะหมี่สดขายเปล่าๆ อาศัยมีปริมาณเนื้อที่ร้านเยอะจากการขยายร้าน เลยแตกไลน์มาขายไก่ตุ๋นเป็ดย่างและขาหมูให้ลูกค้าไม่ต้องนอกใจไปต่อไหน กินกันได้จบหลายอย่างในร้านเดียว แน่นอนว่าจะเครื่องอะไรก็ตามก็เข้ากันกับบะหมี่เส้นใหญ่หนานุ่มของรุ่งเรืองได้เป็นอย่างดี
ก๋วยเตี๋ยวรสละมุน
: สำหรับคนที่แสวงหาก๋วยเตี๋ยวรสย้อนอดีตที่ไม่หวานเจี๊ยบเค็มจัดกัดไต
นางเลิ้งคือแหล่งที่ควรมาย้อนศึกษาประวัติศาสตร์รสชาติก๋วยเตี๋ยวตำรับพระนคร
ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นนางเลิ้ง ที่มีอาณาจักรของตัวเองอยู่ในซอยนครสวรรค์
2
ริมตลาดซึ่งหลายคนเลือกที่จะซึมซับรสของเนื้อที่ตุ๋นจนเปื่อยและซดซุปรสหวานกระดูกเจือเครื่องเทศอ่อนๆ
แบบงดปรุง สูตรประจำคือเกาเหลารวมมิตรพร้อมข้าวสวย
คนที่มักเมินลูกชิ้นด้วยเกรงผสมแป้งก็ให้ไว้ใจได้ว่าที่นี่เนื้อล้วนๆ
ขาก๋วยเตี๋ยวแคะก็ต้อง ร้านสุวิมล ในตัวตลาดใต้หลังคาที่สีสันอาจจะไม่สดใสเพราะทำลูกชิ้นเอง ชนิดที่สดสะอาดไปยันน้ำซุปสูตรไร้ผงชูรส และหากเดินมาทางเส้นริมคลอง ร้าน ก.ชวนชิม สาขา68 ที่ขายมาเกินครึ่งศตวรรษก็ไม่ได้มีดีเพียงการตกแต่งสีแดงฉานเกือบทั้งร้านจากป้ายทีมปีศาจแดงและแบรนด์น้ำซ่าแต่ยังเด็ดด้วยสูตรน้ำซุปใสแบบเชงๆ ไม่แพ้เจ้าดังแถวศรีย่าน โดยปรุงแยกหม้อเนื้อกับหมูที่สองอาแป๊ะยังแยกกันทำคนละฝั่งให้สบายใจคนที่งดเนื้อสัตว์อีกอย่างด้วย และกล่าวได้ว่าทั้งรสลูกชิ้น เนื้อเปื่อย และเนื้อสด (แบบลวกทีละชามไม่ทิ้งไว้) มีมาตรฐานเกินหน้าตาของร้านไปอยู่มาก
เก็บตกรสนางเลิ้งร่วมสมัย
นอกจากรสชาติแห่งประตูกาลเวลา นางเลิ้งยังนำเสนอรสร่วมสมัยไว้ไม่น้อย อย่างแจซบาร์บริการค็อกเทลแสนครีเอต Buddha & Pals ที่ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับ Kanvela โฮสเทลแสนเท่ห์ ฝั่งริมคลองผดุงที่คอแจซจะคอยเช็กการแสดงดีๆ ในแต่ละค่ำคืนพิเศษ หรือ Na Café at Bangkok 1899 ที่แอบอยู่ในบ้านเก่าขุนนางสำคัญทรงขลังริมถนนนครสวรรค์ที่มักมีกิจกรรมส่งเสริมสังคมโดยเฉพาะประเด็นปัญหาผู้ลี้ภัยผ่านจานอาหารมาให้ตามติดในเฟซบุ๊กของร้านอยู่ทุกเดือน
ไม่นับร้าน วราภรณ์สาขาแรก ที่อยู่ริมถนนข้ามคลองไปด้านธนาคาร
ธ.ก.ส.
ที่แปลงตึกแถวสองคูหาจุดกำเนิดของซาลาเปาร้อยล้านสูตรไหหลำให้เป็นต้นแบบติ่มซำคาเฟ่อีกนับสิบๆ
สาขา
ส่วนร้านในตำนานรอบนอกอื่นๆทั้ง เกาเหลาสมองหมู ริมถนนจักรพรรดิพงษ์
หรือร้านสุกี้โบราณชื่อยาวอย่าง เอี้ยย่งเฮงกุ่ยฮวด คงต้องขอรบกวนให้ทำการบ้านเพิ่มเอง
เรียกได้ว่า นางเลิ้ง มีตั้งแต่รสชาติแห่งอดีต ประวัติศาสตร์ย่าน
และความร่วมสมัยของนักกินในยุคสมัยปัจจุบันให้ได้ตระเวนกินอย่างสนุกไม่แพ้ย่านใด
การเดินทาง
ที่จริงการเดินทางมา นางเลิ้ง ไม่ได้ยากจนเกินไป ง่ายสุดสำหรับรถเมล์ คือจับสาย 53 ลงทางริมคลองใกล้สภาพัฒน์แล้วเดินเข้าซอยศุภมิตรมาทะลุด้านหลังตลาด หรือตามเส้นกรุงเกษมเลียบคลองแล้วเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกใกล้ชื่อป้ายตลาด หรือจับสารพัดสายที่ผ่านด้านถนนหลานหลวง ลงป้ายเยื้องโรงแรม Royal Princess แล้วเข้าถนนพะเนียงมาทะลุซอยศุภมิตร หรือจะเข้าทางสี่แยกริมคลองอ้อมสาขาต้นกำเนิดของร้านบุญถาวรมาตามแต่ความช่ำชองในการย่ำพระนคร
สำหรับคนที่มาด้วยรถยนต์
หากเบื่อที่จะลุ้นที่ว่างริมคลองผดุงที่มีเจ้าหน้าที่
กทม.ตระเวนเก็บค่าจอดไปมาด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
สามารถจอดได้ที่วัดโสมนัส วัดสุนทรธรรมทาน
หรือที่ใกล้สุดคือในโครงการชัยพัฒนาประชาเกษมริมคลองผดุงฯ
ที่จอดฟรีช่วงกลางวัน เว้นเสาร์-อาทิตย์
และแน่นอนหลายเจ้าอร่อยร้านเก่าแก่ที่ไล่เรียงมาข้างต้นสามารถซื้อผ่านแอปบริการรับส่งอาหารเจ้าหลักๆ
ได้เกือบหมด
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ แจกพิกัดรสอร่อย นางเลิ้ง ตลาดแบบไทยๆ ที่ถือกำเนิดเมื่อ 100 กว่าปีก่อน
คุณกำลังดู: แจกพิกัดรสอร่อย นางเลิ้ง ตลาดแบบไทยๆ ที่ถือกำเนิดเมื่อ 100 กว่าปีก่อน
หมวดหมู่: อาหาร - ร้านอาหาร