ชัดเจนที่สุด! "พิ้งกี้ สาวิกา" เปิดใจครั้งแรก ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
พิ้งกี้ สาวิกา เปิดใจครั้งแรก ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต หลังเจอมรสุมลูกใหญ่ถาโถม
ออกมาเปิดใจครั้งแรก สำหรับนักแสดงสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช จำเลยที่ 7 คดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D หลังจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ศาลอาญาอนุญาตให้ ขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี พร้อมเงินประกัน 5 ล้านบาท รวมทั้งให้ติดกำไล EM ด้วย
ซึ่ง พิ้งกี้ สาวิกา ได้เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงภาพยนต์เรื่อง กุมาร จึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งยังชี้แจงถึงการยื่นคำร้องต่อศาล ขอความกรุณาศาลมีคำสั่งอนุญาตปลดกำไล EM เนื่องจากความสะดวกในการรับงานการแสดงเพื่อหารายได้
วันนี้เป็นยังไงบ้าง ?
พิ้งกี้ : "ไม่ตื่นเต้นมากค่ะ
เรียกได้ว่าปรับตัวมาสักระยะนึงแล้วค่ะ ก็ชินอยู่"
บรรยากาศยังเหมือนเดิมไหม ?
พิ้งกี้ : "เหมือนเดิมค่ะ (ยิ้ม) ทุกคน (สื่อมวลชน)
ยังเหมือนเดิม น่ารักค่ะ"
ไฟในการทำงานกลับมาแล้วใช่ไหม ?
คุณหน่อย : "จริงๆ น้องเป็นคนมีไฟมาก
ตอนก้าวเท้าเข้าบ้านอยากทำงานแล้ว เป็นคนที่อยากทำงานตลอดเวลา
เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นค่ะ"
สภาพจิตใจตอนนี้เต็มร้อยไหม ?
พิ้งกี้ : "ตอนนี้เหรอคะ เขาเรียกว่าไปปฏิบัติธรรมมา
มุมมองของพี่หน่อยคิดว่าเราไปปฏิบัติธรรม
กี้ไม่ได้คิดว่าปฏิบัติธรรมเพราะตัวกี้เองก็คือตัวกี้เองแหละ
เรียกว่าเป็นวัฏสงสารไปเรียนรู้ชีวิต
แล้วก็ได้ไปพบเจออะไรบางอย่างในประสบการณ์สุดโต่งค่ะ
คิดว่าแบบนั้น"
สิ่งที่เราไปเจอ เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้นบ้าง
?
พิ้งกี้ : "เดี๋ยวเล่ายาวเลย
มีโอกาสจะเล่าให้ฟังค่ะ"
หลังจากนี้กี้วางแผนในการใช้ชีวิตหรือการทำงานยังไงบ้าง
?
พิ้งกี้ : "จริงๆ วันนี้ถือว่าเป็นการรวม
เราไม่ได้ออกสื่อเลยนานมากแล้วนะคะ
ตั้งแต่เราถ่ายละครยังไม่ได้มีการมานัดเจอสื่อแล้วได้มาพูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง
ก็นานมากแล้ว ถือว่าวันนี้ก็พูดทีเดียวเลยแล้วกัน พูดให้หมด"
มีความกังวลใจอะไรไหมกลับมาทำงาน ?
พิ้งกี้ : "ไม่ค่ะ ไม่ได้กดดัน
เพราะว่าเราก็คือคนทำงานแหละ
แล้วก็ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น
กี้เชื่อว่าความจริงมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว
ก็ต้องบอกว่าเราคือคนที่เป็นอย่างนี้ค่ะ ทำงานมาตลอด
จะพูดว่าเราไม่ใช่คนที่เบียดเบียนใครเพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตเราใช่ปะ
แต่ว่ามันอยู่มุมมองของการตั้งรับว่าเราจะตั้งรับและมองมัน
แล้วก็หาเหลี่ยมของมันว่าเราจะมองมันยังไงให้เป็น
ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าชีวิตเราก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง"
เราตั้งรับกันมันได้ขนาดไหน ?
พิ้งกี้ : "ตั้งรับยังไง
เหมือนทุกคนแหละเจอปัญหาแล้วเราก็ไม่คิดว่าชะตามันจะตกแต่งสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นให้กับเรา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจริงๆ แล้ว พี่ปิ๊กก็คือคนที่เป็นทนายให้เรา
เพราะว่าจริงๆ แล้วตามกฎหมายแล้วพี่ปิ๊กจะพูดได้มากที่สุดค่ะ"
ช่วงที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง ?
คุณหน่อย : "เข้าป่า แต่ไม่ได้ไปไกลค่ะ ไปนครนายก
จริงๆ เขาฝึกสมาธิอยู่กับตัวเองในแต่ละวันที่เขาอยู่
เราเจอเขาบ้างตั้งแต่เขากลับบ้านมา จริงๆ เขาแทบไม่ได้คุยกับใครเลย
คนที่เขาคุยด้วยทุกวันคือทนายค่ะ กับเรา เขายังแทบไม่คุยเลย
เราจะคุยกับเขาได้ก็คือผ่านน้องจี้ คุยเรื่องบท มีเจอกันบ้าง
ก็ไปหาเขา ถามว่าทำอะไร เขาก็บอกว่านั่งสมาธิ
ละหมาดของทางศาสนาเขาด้วย"
พิ้งกี้ : "อย่างที่ทุกคนทราบ เวลาเราเจอปัญหาหนักๆ เราต้องศรัทธาตัวเองก่อน และรักตัวเองให้มากที่สุด มันเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราก็สู้ตามกระบวนการกฎหมายตามที่มันเป็น กฎหมายว่ายังไงเราก็สู้ตามนั้น ก็ฝากชีวิตไว้ที่พี่ปิ๊ก เพราะพี่ปิ๊กช่วยคอยดูแลทั้งหมด เพราะพี่ปิ๊กเป็นทนายที่ให้ความช่วยเหลือได้ดีมาก"
ยังกังวลใจในกระบวนการที่ต้องดำเนินต่อไปยังไง
?
พิ้งกี้ : "พาร์ตการถูกกล่าวหา เราก็ถูกกล่าวหา
แล้วเราก็สู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเราได้ถูกกล่าวหาเราก็ต้องสู้
แล้วเราก็รอความจริงกับสิ่งที่เป็นความยุติธรรม
เราเชื่อว่ามันจะรอเราอยู่ปลายอุโมงค์ เราคิดว่ามันรออยู่ตรงนั้น
เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องแพนิกไม่ต้องตกใจ
วันหนึ่งเดี๋ยวมันจะพิสูจน์เอง"
มั่นใจในเรื่องคดีเต็มร้อย ?
พิ้งกี้ : "มั่นใจค่ะ
เราเชื่อในความเป็นตัวเองของตัวเอง แล้วศรัทธาในตัวเอง"
พิ้งกี้ฝากชีวิตไว้ที่พี่ที่ทนาย ?
ทนายปิ๊ก : "มันเป็นเรื่องของคดีอาญา
มันเป็นเรื่องของเสรีภาพอยู่แล้ว
ฝากชีวิตก็หมายความว่าเป็นเรื่องของเสรีภาพ
เป็นเรื่องของกระบวนการทางศาล ศาลได้มีการนัดสืบพยาน
ที่เหลือรอขั้นตอนกระบวนการพิสูจน์ในทางศาล
คดีจะเริ่มพิจารณาปลายเดือนสิงหาคม ปี66 ศาลชั้นต้น
แล้วจะจบเดือนกุมภาพันธ์ ปี 67 หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 เดือน
คงจะมีคำพิพากษาออกมา ส่วนจะมีอุทธรณ์ ฎีกาหรือเปล่า
ก็คงต้องดูกันอีกที ในระหว่างนี้พิ้งกี้ก็สามารถทำงานได้ปกติ"
ถามถึงคุณแม่พิ้งกี้ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
ทนายปิ๊ก : "ในส่วนของคุณแม่
ทางเราก็รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลเพื่อที่จะเสนอต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยชั่วคราว
คุณแม่ก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ
ก็เหมือนคนทั่วไปถ้าไปอยู่ในสภาวะแบบนั้นมันไม่ใช่สภาวะปกติก็คงมีบ้าง
แต่ในเรื่องความเครียดก็คงไม่เท่าไหร่"
พิ้งกี้ : "กำลังใจคุณแม่ดีมากค่ะ ส่งพลังไปให้แม่ เพราะตัวเราต้องเดินหน้าทำงานต่อ คุณแม่ก็เซนสิทีฟโมเมนต์ของคนแก่ ส่วนเราเป็นนักสู้มากกว่า ก็จะสู้ต่อไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะกับทุกกำลังใจ คนรอบข้างก็จะบอกเรา ต้องบอกว่าพอเรามาตรงนี้ เราเสพอะไรเยอะมากไม่ได้ มันไม่สามารถตามโซเชียลได้เลย เขาไปถึงไหนกันแล้ว ก็อาจจะดีเลย์นิดนึง ถ้าเกิดพูดช้าก็จะบอกว่าเราช้ากว่าเดิม"
มันหนักขนาดไหนกับสิ่งที่เราเผชิญ ?
พิ้งกี้ : "กี้ว่าคนที่เขาประสบความรู้สึกคล้ายๆ
เราที่เขาไม่ได้ออกมาเล่าให้ฟังก็น่าจะเยอะ
น่าจะมีหลายร้อยเรื่องที่มีชีวิตแบบนี้แล้วเอามาพูดไม่ได้เล่าไม่ได้
อยากให้มองว่าชีวิตเราก็คือนักสู้คนหนึ่ง
อยากให้ดูละครตอนจบว่ามันจะเป็นยังไง"
ให้กำลังใจตัวเองยังไงที่ผ่านมา ?
พิ้งกี้ : "ก็ช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยไป
ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ
มุมมองของเราเท่านั้นแหละที่จะช่วยเราให้เราตั้งรับกับเรื่องต่างๆ"
มีคนให้กำลังใจก็ย่อมมีคนวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ
เรารับมือตรงนี้ยังไง ?
พิ้งกี้ : "ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นธรรมชาติ
ธรรมดา ไปห้ามให้เขาผายลมไม่ได้อะ มันเหมือนเราห้ามไม่ให้คนเรอไม่ได้
มันเป็นสิ่งที่เขาระบายออกมา เราก็เคารพในมุมมองของแต่ละคน
มันเป็นธรรมชาติค่ะ"
จะกลับมารับงานในวงการเต็มที่แล้วใช่ไหม
มีงานติดต่อมาเยอะหรือยัง ?
พิ้งกี้ : "จริงๆ คนนี้เขาไม่ใช่ผู้จัดการนะ
แต่เขาจะคุยกับน้องที่ดูแลมากกว่าเราอีก เพราะฉะนั้นเขาจะรู้"
คุณหน่อย : "จริงๆ ก็มีเยอะค่ะ แต่ต้องปรึกษาคุณปิ๊กก่อนว่างานไหนเรารับได้มากน้อยขนาดไหน จริงๆ น้องยังอยู่ในความดูแลอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 15 งานแล้วค่ะ"
พิ้งกี้ : "หมายถึงงานเดินสายไปตามแต่ละจังหวัดค่ะ ไปไหว้ญาติ ไหว้ผู้ใหญ่ ส่วนงานที่เป็นผลงานเลยตอนนี้มีภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นเรื่องหลักค่ะ แล้วกี้บอกกับพี่หน่อย บอกกับมาดามว่า ตอนนี้ในหัวเรา เราอยากมาช่วยเบื้องหลังเขา และเรารู้สึกว่าเรื่อง กุมาร อาจจะเป็นหนังที่อาจจะได้ไปอยู่เบื้องหลังด้วย และได้อยู่เบื้องหน้าด้วยค่ะ"
ก่อนหน้านี้ด้านธุรกิจก็กำลังสนุกสนาน
จะมีโอกาสกลับมาทำอีกไหม ?
พิ้งกี้ : "ไลฟ์สดเหรอ ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปค่ะ
ลูกค้าหรือแม้กระทั่งพรีเซนเตอร์ที่เขารัก เขาก็ยังเอ็นดูเราอยู่
ก็ขอบคุณมากๆ นะคะ ยังเหนียวแน่นและยังเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ค่ะ
ก็ขอบคุณมากๆ เลย"
ตัวคดียังไม่สิ้นสุด มีผลต่อการรับงานยังไงบ้าง
?
ทนายปิ๊ก : "จริงๆ
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีข้อจำกัดในการรับงานอะไร แต่อย่างที่พิ้งกี้บอก
เราก็คุยกันเป็นระยะ อาจจะเพื่อความมั่นใจ ความสบายใจ ก็ปรึกษามา
แต่ถามว่าเป็นอุปสรรคไหม แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร
เพราะศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือตัดสิน
ถ้าตามหลักกฎหมายสากลคือยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว
ส่วนในเรื่องที่จะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็เป็นเรื่องกระบวนการในศาล
เป็นเรื่องหลักฐานกันต่อไปครับ"
ในคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ?
ทนายปิ๊ก : "จริงๆ คงมีผู้เสียหาย
และส่วนของคุณพิ้งกี้เองก็เป็นผู้ต้องหาและเป็นจำเลยที่ถูกฟ้อง
แต่ทีนี้ก็อยากจะให้รอดูข้อเท็จจริง
คือตรงนี้ถ้าเราจะพูดไปก่อนมันก็คงจะไม่เหมาะ
หรือคงจะไปสะเทือนในเรื่องของการพิจารณาคดีของศาล
ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
หรือพิจารณาดูนิดนึงว่ามีความเกี่ยวข้องแค่ไหน ยังไง"
ถามถึงเรื่องบ้านที่ก่อนหน้านี้มีการประกาศขายไปแล้ว
ตอนนี้เราอยู่ยังไง ?
พิ้งกี้ : "ขายไปนานมากแล้วค่ะ หลายข่าวเลยเนอะ
(ยิ้ม) อะ ขอเคลียร์เลย คุณแม่ เรื่องการพนัน คุณแม่ไม่ได้เล่น
ไม่มีการเล่นการพนันใดๆ บ้านก็คือขายไปนานมากแล้ว
และบ้านนั้นก็คือบ้านที่เราซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ ขายไปนานมาก
จำระยะเวลาของไทม์ไลน์ไม่ได้ อยู่กับปัจจุบันค่ะ"
ทนายปิ๊ก : "ล่าสุด 2-3 วันมานี้มีข่าวเรื่องของการถอดกำไล EM ก็อย่างที่บอกว่าบางทีข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน ก็ขอความกรุณาศาล เพราะเราติดเรื่องของการจะมาถ่ายทำภาพยนตร์ แต่ว่าข้อมูลทางสื่อบางท่านอาจจะได้ไปคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วนเดี๋ยวพอเสร็จแล้วก็กลับไป"
พิ้งกี้ : "ปกติค่ะปกติ (ยิ้ม)"
คือถอดเฉพาะเวลาที่ถ่ายงาน ?
พิ้งกี้ : "แล้วเดี๋ยวกลับไปใหม่ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ
(ยิ้ม)"
คำว่าชั่วคราวมีระยะเวลาเท่าไหร่ ?
ทนายปิ๊ก : "จริงๆ
แล้วก็คือขอศาลไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นภาระกิจครับ
เพราะว่าโดยลักษณะตามกฎหรือตามอะไรต่างๆ
มันไม่สามารถให้ปรากฏตัวกำไลได้"
เท่ากับว่าถ้าปิดกล้องก็ต้องกลับไป ?
คุณหน่อย : "ใช่ๆ
จนกว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์กุมารเสร็จค่ะ"
ใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำเท่าไหร่ ?
คุณหน่อย : "น่าจะประมาณเกือบ 6 เดือนได้ค่ะ"
ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่พิ้งกี้ใช่ไหม
คนอื่นก็มีสิทธิ์ ?
ทนายปิ๊ก :
"ตรงนี้อยู่ที่เหตุผลความจำเป็นของแต่ละกรณีและสุดท้ายก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล"
คุณกำลังดู: ชัดเจนที่สุด! "พิ้งกี้ สาวิกา" เปิดใจครั้งแรก ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
หมวดหมู่: ความบันเทิง