เชื้ออะมีบากินสมอง ภัยร้ายที่มากับแม่น้ำ-แหล่งน้ำธรรมชาติ

เชื้ออะมีบากินสมอง ภัยร้ายที่มากับแม่น้ำ-แหล่งน้ำธรรมชาติ

มีผู้ป่วยหลายคนที่ประสบอุบัติเหตุรถตกคูคลองน้ำ หรือพลัดตกเรือตกท่าในแม่น้ำลำคลองตามธรรมชาติต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นน้ำใสๆ ที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัย หรืออาจจะเป็นน้ำสีคล้ำดำที่ส่งกลิ่นเหม็นมาจางๆ หรือภาษาชาวบ้านเราเรียกว่า "น้ำเน่า" จากการทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง สารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม และการระบายน้ำที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

ที่น่ากลัวคือบ้านเรามีแหล่งน้ำที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรือมี "เชื้ออะมีบา" แบบนี้อยู่เยอะเสียด้วยสิ

เชื้ออะมีบา คืออะไร?

เชื้ออะมีบา เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเป็นโปรโตซัวชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่รู้จักกันดี พบได้ในน้ำจืด โดยปกติอยู่ในพืชผักที่เน่าเปื่อย จมอยู่ในลำน้ำ อะมีบาที่ก่อให้เกิดโรคในคนได้ เป็นอะมีบาที่อาศัยเป็นอิสระ ในธรรมชาติตามแหล่งน้ำ ดิน โคลนเลน

เชื้ออะมีบากินสมอง คืออะไร?

แท้ที่จริงแล้ว เชื้ออะมีบากินสมอง คือ "โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา" โดยมีสาเหตุมาจากเชื้ออะมีบาชนิดที่เป็นอันตรายต่อคนที่มีชื่อว่า ชนิดนีเกลอเรีย (Naegleria fowleri) เชื้ออะมีบาชนิดนี้จะอาศัยอยู่แหล่งน้ำจืดธรรมชาติที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือแหล่งน้ำขังในเขตอุตสาหกรรม และในดินในเขตร้อนหรือเขตอบอุ่นเกือบทั่วโลก ดังนั้นจึงรวมถึงแหล่งน้ำจืดตามธรรมชาติในประเทศไทยด้วย

เชื้ออะมีบาเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร?

เชื้ออะมีบาเข้าสู่ร่างกายผ่านการสำลักเข้าจมูก หรือปาก โดยเชื้อจะผ่านเข้าไปทางประสาทรับรู้กลิ่นภายในจมูก และเข้าสู่สมอง ทำให้เกิดเยื้อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยอาจเสียชีวิตภายใน 10 วัน

โอกาสที่จะเกิด “เชื้ออะมีบากินสมอง”

จริงๆ แล้วถือว่าสถิติของผู้ป่วยที่พบในประเทศไทยถือว่าน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับจำนวนเด็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่ถึงกระนั้นหากไม่อย่างเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้กับบุตรหลาน ก็ไม่ควรมองข้ามโอกาสเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้

อาการของ เชื้ออะมีบากินสมอง หรือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา

  1. เริ่มแรกมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา คัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ต่ำๆ และปวดศีรษะ โดยมีอาการเหล่านี้อยู่ 2-3 วัน
  2. หลังจากนั้นจะมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีอาการซึม เพ้อ อาจอาเจียน และคอแห้งร่วมด้วย อาการเหล่านี้จะเป็นขึ้นมาเฉียบพลัน และหนักมากจนอาจหมดสติภายในเวลา 3 วัน เนื่องจากสมองบางส่วนติดเชื้อจนมีหนอง และเนื้อสมองตายบางส่วน
  3. สุดท้ายอาจเสียชีวิตจากการหมดสติอย่างลึก ระบบหายใจ และระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว

วิธีรักษาเชื้ออะมีบากินสมอง หรือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่าการรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบาเหล่านี้มักไม่ได้ผล ผู้ป่วยเกือบทุกรายมักเสียชีวิต เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะถึงมือแพทย์เมื่อมีอาการหนักมาก และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว แพทย์ทำได้เพียงวินิจฉัยผู้ป่วยหลังเสียชีวิตโดยการตรวจทางพยาธิวิทยา อย่างไรก็ตามอาจรักษาได้บ้างหากสามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก

วิธีป้องกันเชื้ออะมีบากินสมอง หรือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา

  1. ระมัดระวังในการลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด หรือต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งน้ำอุ่นบริเวณรอบแหล่งอุตสาหกรรม แหล่งปล่อยของเสียลงสู่แม่น้ำ
  2. หันมาเล่นน้ำในสถานที่ที่มีการทำความสะอาด และใส่สารฆ่าเชื้อโรคอย่าง คลอรีน เป็นประจำ เช่น สระว่ายน้ำที่ได้มาตรฐาน
  3. หากมีอาการคล้ายไข้หวัดหลังจากลงเล่นน้ำธรรมชาติ ควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติควรรีบนำส่งแพทย์ทันที

ถึงแม้ "โรคอะมีบากินสมอง" นี้จะน่ากลัว และมีโอกาสที่จะได้รับการรักษาจนหายได้อย่างทันทีท่วงทีค่อนข้างน้อย แต่ก็ใช่ว่าเราจะระวังไม่ให้เป็นไม่ได้นะคะ เพราะฉะนั้นป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ คือเล่นน้ำในแหล่งน้ำที่สะอาด และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ให้ดีกันดีกว่าค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก med.cmu.ac.th, tm.mahidol.ac.th
ภาพประกอบจาก istockphoto

คุณกำลังดู: เชื้ออะมีบากินสมอง ภัยร้ายที่มากับแม่น้ำ-แหล่งน้ำธรรมชาติ

หมวดหมู่: รู้ทันโรค

แชร์ข่าว