ไฟหมดยังไปต่อ ไม่ต้องรอชาร์จ Toyota Prius Prime Plug in Hybrid แบตฯ บวกเครื่อง วิ่งไกลพันกิโลเมตร
Toyota Prius Prime Plug in Hybrid ระบบไฮบริดเจน 5 เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 220 แรงม้า ชาร์จเต็มวิ่งไกล 60 กิโลเมตร เชื้อเพลิงหนึ่งถัง วิ่งไกล 1,200 กิโลเมตร
หลังจากโชว์ความหล่อในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา น่าเสียดายที่ New Prius ซึ่งจะเข้ามาทำตลาดในไทย ไม่มีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เคลมว่าวิ่งไกลถึง 1200 กิโลเมตร ด้วยเชื้อเพลิงแค่ถังเดียว Toyota Prius รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยเร็วๆ นี้ มีเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น
รูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว หน้าทรงลิ่มที่ทันสมัยและมีความลู่ลมจากรูปทรงด้านข้างที่ไหลลื่น การตกแต่งภายในที่หรูหรา สมรรถนะที่ดีสุดในกลุ่มยานยนต์พลังงานผสมเสียบปลั๊กชาร์จไฟ Toyota Prius Prime PHEV ปี 2023 ทำให้คนที่เห็นตัวเป็นๆ ในงานอยากได้ไว้ใช้งานแทนรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่ค่อยจะลงตัว Prius เสียบปลั๊กชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น คงไม่ผิดหากจะกล่าวว่า Prius Prime ปี 2023 เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ Toyota (ในกลุ่มผลิตภัณฑ์พลังงานผสม เครื่องยนต์บวกไฟฟ้า) ในรอบหลายปี! หลังจากผ่านไปสี่รุ่น ในที่สุด Prius ก็มีโอกาสที่จะเข้ามาขายในบ้านเราอีกครั้ง ในจำนวนไม่มากนักและน่าจะหมดลงอย่างรวดเร็วหลังการเปิดรับจองToyota Prius Prime Plug in Hybrid ปี 2023 เป็นยานพาหนะตราสามห่วงที่ Toyota ทุ่มหมดหน้าตัก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เมื่อห้วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงมาถึงจุดที่เหมาะสม ประสิทธิภาพการทำงานของ Prius Prime Plug in Hybrid เกิดจากเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
Toyota Prius Prime Plug in Hybrid สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-C เจเนอเรชันที่สอง ขนาดตัวถัง ถูกขยับให้กว้างขึ้น ปรับปรุงตำแหน่งนั่งขับด้วยเบาะไฟฟ้าที่กดต่ำลงได้ราวกับรถสปอร์ตPrius PHEV ปี 2023 บรรจุระบบส่งกำลังไฮบริดเจนที่ 5 รุ่นใหม่ เชื่อมโยงเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่อยู่ในระบบเกียร์ e-CVT มอเตอร์ทั้งสอง (MG1 /MG2) มอเตอร์ตัวแรก คอยเสริมแรงบิดร่วมกับเครื่องยนต์ (MG1) มอเตอร์ตัวที่สอง ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือเครื่องปั่นไฟเพื่อชาร์จไฟใส่แบตเตอรี่ (MG2) แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีความจุมากกกว่าเดิมเพื่อเติมระยะทางไฟฟ้าให้ไกลมากยิ่งขึ้น
ระบบไฮบริดของ Prius Prime ปี 2023 มีกำลังสูงสุด 220 แรงม้า ซึ่งดีขึ้นถึง 82% เมื่อเทียบกับระบบส่งกำลังไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรของ Prius รุ่นก่อนหน้า (121 แรงม้า) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 7.4 วินาที นั่นหมายความว่า Prius Prime ปี 2023 มีความรวดเร็วเกือบจะเท่ากับรถสปอร์ตToyota GR86 ปี 2023 ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังพลังงานผสมที่น่าประทับใจ
Toyota ปรับตำแหน่งของชุดแบตเตอรี่ จากรุ่นก่อนหน้าให้เหมาะสม วางไว้ใต้เบาะหลัง ลดจุดศูนย์ถ่วงลงและปรับปรุงความจุของห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายเพิ่มเติม Toyota แจ้งว่าความรู้สึกและการตอบสนองของแป้นเบรก ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น การใช้บูสเตอร์ไฮดรอลิกแบบแอ็กทีฟในระบบเบรก ช่วยทำให้อาการเบรกฟองน้ำ (เบรกแล้วไม่มั่นใจ) ในรุ่นที่ผ่านมาหายไป
Prius Prime ปี 2023 นั้นน่าประทับใจในด้านการวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียวๆ ไกลมากกว่าเดิม นั่นคือ ประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าที่มีตัวเลขดีขึ้น Toyota ตั้งเป้าหมายระยะทางไฟฟ้าเอาไว้ที่ 70 กิโลเมตร ซึ่งสูงกว่า EPA-est ของรุ่นที่ผ่านมาถึง 76% (Prius Prime รุ่นที่แล้ว มีระยะทางไฟฟ้า 40 กิโลเมตร) Toyota ใช้ชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 13.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในรถยนต์รูปทรงลิ่มที่ออกแบบใหม่ให้มีความลู่ลมเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงาน สำหรับ Prius Prime รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีจำหน่ายในไทย ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 8.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง เล็กไปนิดนึง
Toyota Prius Prime Plug in Hybrid ยังติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 185 วัตต์ แผงเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ส่งพลังงานไฟฟ้าเสริมไปยังอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น ระบบแอร์ (เครื่องปรับอากาศในห้องโดยสาร) เครื่องชาร์จ AC แบบออนบอร์ด ช่วยให้สามารถชาร์จชุดแบตเตอรี่ได้สูงสุด 3.5 กิโลวัตต์ ในอัตราชาร์จดังกล่าว การชาร์จจนเต็ม จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง การเติมไฟลงในเต้ารับไฟฟ้ามาตรฐาน 120 โวลต์ ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง
Toyota Prius Prime Plug in Hybrid ปี 2023 มีสามรุ่นให้เลือกคือ
Toyota Prius Prime SE
Prius Prime SE ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมที่ครอบล้อ ที่ปัดน้ำฝน
ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia ขนาด 8 นิ้ว
พอร์ต USB-C หกพอร์ต พวงมาลัย SofTex
และเบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้าและเบาะหลัง หุ้มด้วยหนัง
ระบบตรวจสอบจุดบอด (BSM) พร้อมระบบเตือนเมื่อรถวิ่งสวนทางด้านหลัง
(RCTA), Traffic Jam Assist และ Toyota Safety Sense 3.0 (TSS 3.0)
เซนเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง
พร้อมฟังก์ชั่นเบรกอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์เสริม
Toyota Prius Prime XSE
Prius Prime XSE ล้อพิเศษขนาด 19 นิ้ว, ไฟท้ายแบบใส,
ระบบเปิดประตูแบบไม่ใช้กุญแจพาสซีฟ, IRVM ลดแสงอัตโนมัติพร้อม Home
Link, เบาะนั่งคู่หน้าอุ่นร้อน (สำหรับเขตหนาว), ผ้าหุ้มเบาะ SofTex,
ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย, ไฟส่องสว่างด้านข้างเมื่อลงจากรถ
เซนเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลังแบบอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่นระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถระบุหลังคาแก้วแบบตายตัว
ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia ขนาด 12.3
นิ้ว และความสามารถของระบบกุญแจดิจิทัล M20A-FXS 2.0L gasoline
Toyota Prius Prime XSE Premium
Prius Prime XSE Premium มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส
Toyota Audio Multimedia ขนาด 12.3 นิ้ว กุญแจดิจิทัล และหลังคากระจก
Panoramic แบบตายตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบเสียง JBL Premium
Audio ลำโพง 8 ตัว ฝาท้ายไฟฟ้า ฟังก์ชั่นระบายอากาศ
หน่วยความจำสำหรับเบาะหน้า หลังคากระจกพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกล้อง
360 องศา เครื่องทำความร้อนเบาะหลัง IRVM ดิจิทัล และ
ระบบจอดอัตโนมัติ Advanced Park
ยอดขาย Toyota Prius Prime รุ่นที่ผ่านมาในตลาดโลก (ยกเว้นไทย) ลดลงอย่างมากในปี 2565 เนื่องจากออกขายมานานแล้ว Toyota ได้ส่งมอบรถยนต์ Prius ปลั๊กอินไฮบริด จำนวน 25,042 คันในปี 2564 แต่ในปี 2565 มียอดสั่งซื้อเพียง 11,857 คัน เนื่องจากลูกค้าเก่ารอรถใหม่ที่เปิดตัวอย่างได้ใจ แต่ Toyota ไม่ได้เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ยอดขาย Prius ลดลง 52.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ปัญหาซัพพลายเชนของโรงงาน Tsutsumi (เมืองโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น) อาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้จำนวนการส่งมอบรถใหม่ลดลง
ก่อนที่ Prius Prime รุ่นใหม่ล่าสุดจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2023 ดูเหมือนว่า Prius โฉมที่กำลังจะตกรุ่น ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ มียอดขายลดลงอย่างมากถึง 61.6% เมื่อเทียบกับยอดขาย 2,586 คัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2565 โดยมีการส่งมอบรถใหม่เพียง 994 คัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2566 จากการเฝ้ารอรถรุ่นใหม่ที่จะมาถึงในเร็ววันนี้.
สีตัวถัง
Wind Chill Pearl
Cutting Edge
Midnight Black Metallic
Reservoir Blue
Guardian Gray
Supersonic Red
Engine Torque 139 lb.-ft.
Traction Motor Permanent Magnet AC Synchronous
Traction Motor Power 161 hp
Hybrid System Power 220 hp
Battery Pack 13.6 kWh Lithium-ion
Max. AC Charging Power 3.5 kW
Charging Time ~4 hours
Toyota-est. Electric Range SE: 44 miles
XSE: 39 miles
XSE Premium: 39 miles
Toyota-est. Fuel Economy (City/Highway/Combined) SE: 53/51/52
XSE: 50/47/48
XSE Premium: 50/47/48
Toyota-est. MPGe (Combined) SE: 127
XSE: 114
XSE Premium: 114
0-60 mph Acceleration Time 6.6 seconds
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
คุณกำลังดู: ไฟหมดยังไปต่อ ไม่ต้องรอชาร์จ Toyota Prius Prime Plug in Hybrid แบตฯ บวกเครื่อง วิ่งไกลพันกิโลเมตร
หมวดหมู่: รถยนต์
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- มาแล้ว กบเอสยูวี PORSCHE NEW CAYENNE 2023
- ไม่ต้องหลอนเพราะไฟใกล้หมด MG เปิดลายแทง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 4 ภาคทั่วไทยรับสงกรานต์
- สามห่วงทะลวงฝุ่น Toyota New Tacoma Trailhunter 2024
- Mercedes-Benz เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Maybach EQS 680 premium luxury SUV
- ส่องภายใน Cayenne ใหม่ ก่อนเปิดตัวในเซี่ยงไฮ้ออโตโชว์ 2023
- แวบเดียวเกลี้ยง! SUZUKI JIMNY ราคาขนาดนี้มีดียังไง?