ไฮไลต์สุดยอด 8 งานศิลป์ สร้างสรรค์พื้นที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า

“ศิลปะร่วมสมัย” หรือ Contemporary Art ที่ไม่มีคำว่าเก่าหรือใหม่ และไม่มีกรอแน่นอน เหมือนอย่างที่ไอคอนสยามได้ชูไฮไลต์งานศิลป์ระดับชั้นครู เพื่อให้ที่นี่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า

ห้างสรรพสินค้า ที่ขอเป็นมากกว่าแหล่งช็อปปิ้ง แต่ขอเป็นพื้นที่สำหรับงานศิลปะ ที่พาให้ทุกคนที่ได้ท่องโลกแห่งวัฒนธรรม ในวิถีของ “ศิลปะร่วมสมัย” หรือ Contemporary Art ที่ไม่มีคำว่าเก่าหรือใหม่ และไม่มีกรอบแน่นอน เหมือนอย่างที่ไอคอนสยามได้ชูไฮไลต์งานศิลป์ระดับชั้นครู เพื่อให้ที่นี่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า เป็นอย่างไรบ้าง ไทยรัฐออนไลน์ขอพาไปสำรวจจุดไฮไลต์ทั้ง 8 กัน

HUNTING SPOT 1 เริ่มที่ประตูบานแรก ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ไอคอนสยาม ด้วยแนวคิดเจาะเวลาจากอดีตสู่ปัจจุบัน ผ่านเสาจารึกสีทอง

จุดนี้อยู่ที่ชั้น G โซน ICONLUXE พบกับผลงาน “จารึกสัญลักษณ์สุวรรณภูมิ คือแสงแห่งปัญญา” ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ เป็นงานศิลป์ที่เป็นเสาจารึกสีทองสูง 16 เมตร 4 ต้น มีลวดลายทัศนศิลป์ประณีตงดงาม อ่อนช้อยแต่หนักแน่นมั่นคง

เสาแต่ละต้นบอกเล่าเรื่องราวของอาณาจักรสุวรรณภูมิอุษาคเนย์ ที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ผ่านการเดินทางของวัฒนธรรม ตั้งแต่ยุคบ้านเชียง จนถึงปัจจุบัน

HUNTING SPOT 2 ด้านบนของโซน ICONLUXE นี้ จะพาไปสำรวจพลังแห่งสายน้ำที่เคลื่อนไหวสู่แรงบันดาลใจของประติมากรรมกนกเปลวสามมิติ

งานประติมากรรมชุดนี้ สุดอลังการ ที่ Haberdashery Studio อาร์ตสตูดิโอระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ได้รังสรรค์ขึ้นจากเส้นสายลายไทยออกมาเป็นรูปทรงกนกเปลวสามมิติสีเงิน-ทอง-นาก ด้วยลวดลายพลิ้วไหว และแสงระยิบที่ตกกระทบลงบนพื้นผิวของผลงาน ได้เกิดจากการสังเกตเห็นความเปล่งประกายจากกระเบื้องเซรามิกที่สะท้อนบนผิวน้ำ ทำให้งานชิ้นที่ชื่อว่า “แม่น้ำ” สะท้อนถึงพลังแห่งสายน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่นอกอาคารซึ่งแฝงไปด้วยความโดดเด่นของไอคอนสยามเป็นอย่างดี

HUNTING SPOT 3 แชนเดอเลียร์พวงมาลัย ที่ร้อยด้วยดอกรักและดอกมะลิ ซึ่งเป็นลักลักษณ์แทนน้ำใจ สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในความโอบอ้อมอารี

นับเป็นแชนเดอเลียแก้วขนาดใหญ่ชิ้นเดียวในโลก ที่ออกแบบโดย Petra Junová ดีไซเนอร์แห่ง LASVIT บริษัทออกแบบและผลิตจากสาธารณรัฐเช็ก ที่มีแรงบันดาลใจจากคำว่า “รอยยิ้มเมืองสยาม”

HUNTING SPOT 4 ห้องน้ำไอคอนสยาม ทุกชั้น มีไฮไลต์ โอ่งและผนังที่เต็มไปด้วยลวดลายที่แฝงวัฒนธรรมไทยจากภาคต่างๆ นับเป็นอาร์ตสเปซที่ถูกตกแต่งสวยงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละโซน

ในส่วนของโอ่งนั้นเป็นฝีมือของ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ทายาท “เถ้าฮงไถ่” โรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่คู่เมืองราชบุรี มาแต่งแต้มลวดลายลงบนโอ่งที่ปั้นเองกับมือด้วยวิถีดั้งเดิม

ผนังของห้องน้ำโซนสุขสยาม ยังได้ถ่ายทอดงานจิตรกรรมไทยร่วมสมัยผ่านผลงานของกลุ่มศิลปิน Hooker’s Green ให้มีเรื่องราวแตกต่างกันตามโซนแต่ละภาค

HUNTING SPOT 5 ประติมากรรม “ทองหยอด” ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของท้าวทองกีบม้า ที่นำมาสร้างสรรค์ประติมากรรมทองเหลืองรูปทรงทองหยอด ที่เคยถูกนำไปแสดง ณ งานเทศกาลศิลปะนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกศิลปะอย่าง Venice Biennale มาแล้ว

จุดนี้จัดแสดง ณ โถงทางเดินกลาง ชั้น M ไอคอนสยาม สร้างสรรค์โดยคุณอริญชย์ รุ่งแจ้ง

HUNTING SPOT 6 สำรวจลวดลายพิมพ์ใบไม้ ผ่าน “เสาแห่งมงคล” สีทองสุกสกาว 8 ต้น ที่ชั้น M และ 1 ผลงานของศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เชี่ยวชาญในสาขาภาพพิมพ์

ลวดลายเส้นสายต่างๆ เกิดจากการประทับพิมพ์ใบไม้จากต้นไม้มงคลของไทย ไม่ว่าจะเป็น ใบจากต้นประดู่ และต้นคูน โดยเส้นสายสีทองบนเสาที่สะท้อนแสงสุกสกาว ซ่อนนัยความหมายระหว่าง “ธรรมะ” กับ “ธรรมชาติ” ได้อย่างลึกซึ้ง

HUNTING SPOT 7 สำรวจกำแพงศิลป์สไตล์อิมเพรสชันนิสม์ “แสงสยาม” ที่สร้างสรรค์ความงามด้วยกระจกสี

ไฮไลต์นี้อยู่ที่ ICONSIAM Park ชั้น 2 กับกำแพงศิลป์ “แสงสยาม” ขนาดใหญ่ที่ทอดยาว 60 เมตร ผลงานโดย สิทธิ์วุธ ยาวิชัย ศิลปินรุ่นใหม่ ที่ได้นำ “กระจกสี” หนึ่งในงานของช่างสิบหมู่ของไทย งานพุทธศิลป์ที่หาดูได้ยากมาสร้างสรรค์ผลงานสไตล์อิมเพรสชันนิสม์ด้วยเทคนิคร่วมสมัย โดยความโดดเด่นของกำแพงศิลป์นี้อยู่ที่แสงเงาธรรมชาติที่สะท้อนเปลี่ยนไปแต่ละช่วงเวลา

HUNTING SPOT 8 “รวมพลังความเป็นไทย” แลนด์มาร์กสุดท้ายที่หลอมรวมทุกอณูของไอคอนสยามไว้ด้วยกัน ด้วยผลงานเทคนิคคอลลาจ (Collage) ณ บริเวณสุราลัย ฮอลล์ชั้น 7 รังสรรค์โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประทีป สุธาทองไทย ผู้มีชื่อเสียงด้านศิลปะภาพพิมพ์และ Photo Collage ระดับแถวหน้า

จุดนี้เปรียบเสมือนแลนดิ้งปิดท้ายทริปชมงานศิลป์อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านภาพที่รวบรวมทุกมิติของความเป็นไทยในแง่มุมต่างๆ ที่รวบรวมองค์ประกอบของไอคอนสยาม พร้อมภาพจากผู้คนที่บอกเล่าถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศในมิติต่างๆ กว่า 35,000 ภาพ มารวมหลอมไว้เป็นภาพขนาดใหญ่ยักษ์ 10 x 27 เมตร จารึกด้วยคำว่า “ไทย” คำเดียว อยู่ตรงกลาง โดยใช้ฟอนต์ที่ให้ความรู้สึกถึงการบรรจบกันระหว่างความเก่าแก่และสมัยใหม่ และใช้แพตเทิร์นที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ลายผ้าไทย” ด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความโมเดิร์นและไทยดั้งเดิม

นอกจาก 8 ผลงานไฮไลต์นี้แล้ว ยังมีผลงานประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีซอีกมากมาย ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเลนส์ของศิลปินทุกแขนงกว่า 100 คน เพื่อให้จุดหมายปลายทางนี้ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สาธารณะเพื่องานศิลป์อย่างน่าสนใจ

คุณกำลังดู: ไฮไลต์สุดยอด 8 งานศิลป์ สร้างสรรค์พื้นที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า

หมวดหมู่: วัฒนธรรม