กินเจต้องรู้ 8 เมนูอาหารเจ ทำง่าย ไม่อ้วน แถมสุขภาพดี
ใครที่กินเจปีนี้แล้วกลัวจะเบื่อกับเมนูอาหารเจหน้าตาซ้ำเดิมที่กินอยู่ทุกปี แต่นึกไม่ออกว่าจะกินเมนูอะไรดี วันนี้เรามี 8 เมนูอาหารเจมานำเสนอ ทำไม่ยากและดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ใครที่กินเจปีนี้แล้วกลัวจะเบื่อกับเมนูอาหารเจหน้าตาซ้ำเดิมที่กินอยู่ทุกปี แต่จะให้ทำกินเองก็นึกไม่ออกว่าจะทำอะไร วันนี้เรามี 8 เมนูอาหารเจมานำเสนอ ทำไม่ยากเกินไป รสชาติอร่อย แถมยังไม่อ้วนและดีต่อใจอีกด้วย
เมนูที่ 1 ลาบเห็ดสามสหาย
เลือกเห็ดที่ชอบทานมาสัก 3 อย่าง เช่น เห็ดออรินจิ เห็ดชิเมจิ (ขาวหรือดำก็ได้) และเห็ดเข็มทอง นำเห็ดทั้งสามไปคั่วบนกระทะพอให้สุก พักไว้ในชาม จากนั้นทำน้ำลาบ ประกอบด้วย ซีอิ๊วขาว พริกขี้หนูป่น มะนาว และขาดไม่ได้เลยคือข้าวคั่ว ผสมกัน ปรุงรสให้พอดี นำไปคลุกกับเห็ดที่เตรียมไว้ (ถ้าสูตรมังสวิรัติ สามารถใส่หอมแดง ผักชีฝรั่ง และสะระแหน่ลงไปได้ด้วย)
เมนูที่ 2 เกี๊ยวห่อไส้เจ
ไส้เกี๊ยวเริ่มจากเห็ดหอมหั่นและสับให้เป็นชิ้นเล็กละเอียด เช่นเดียวกันกับแห้วหรือเผือก กะหล่ำปลี นำทั้งหมดนี้ไปผัดหรือนึ่งพอให้สุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทยเล็กน้อย จากนั้นก็ห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวสำเร็จรูปที่ซื้อมาจากตลาด จะห่อให้เป็นรูปถุงทองหรือพับเป็นสามเหลี่ยมง่ายๆ ก็ไม่มีใครว่า เคล็ดลับห่อเกี๊ยวคือแตะน้ำเล็กน้อยเพื่อให้แผ่นเกี๊ยวติดกัน จากนั้นนำไปทอดหรือนึ่งด้วยน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก ใช้ไฟกลางพอให้เหลืองสุก รับประทานกับน้ำจิ้มหรือซอสก็เป็นอาหารว่างที่อร่อยเคี้ยวเพลิน
เมนูที่ 3 ส้มตำเจ
ส้มตำเป็นอีกเมนูที่ไม่ยากจนเกินไป เริ่มจากตำพริกขี้หนูพอแหลก เติมน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว มะนาว จากนั้นนำแครอทที่ขูดเส้นเตรียมไว้แล้วลงไปคลุกหรือโขลกให้เข้ากัน หั่นมะเขือเทศ ถั่วฝักยาวเติมลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน ตักใส่จานแล้วโรยถั่วลิสงคั่วอีกเล็กน้อย กินกับข้าว ผักแกล้ม และเห็ดทอด รับรองว่าครกเดียวไม่เคยพอ
เมนูที่ 4 ฟองเต้าหู้ย่างบาร์บีคิว
เมนูนี้ไม่จำเป็นต้องมีซอสบาร์บีคิวก็ได้ แต่ประยุกต์โดยปรุงรสซอสพริก ซอสขะเขือเทศ พริกขี้หนูป่น หรือพริกไทย วัตถุดิบเริ่มจากเตรียมฟองเต้าหู้ หากซื้อแบบแห้งมาให้นำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อน จากนั้นฉีกเห็ดเข็มทอง วางลงบนแผ่นเต้าหู้ ห่อให้เป็นท่อนกลม เสียบไม้หรือเหล็กสำหรับเสียบอาหารย่างไฟ เสียบต่อกันด้วยมะเขือเทศราชินี พริกหยวกที่หั่นเป็นสี่เหลี่ยม เห็ดหอมและบร็อกโคลี นำไปย่างหรือจี่บนกระทะพอให้สุกหอม ระหว่างย่างให้ทาเนย (สูตรเจ) ไปด้วยเพื่อไม่ให้ไหม้และให้หอม บางบ้านนิยมกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเจ คือโขลกพริกขี้หนู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ และมะนาว
เมนูที่ 5 เห็ดทอดโรยงา สูตรเค็ม
รู้ไหมว่าสำหรับ “เห็ด” แล้ว แค่ทอดก็อร่อย กินเพลิน จนหมดจานไม่รู้ตัว เมนูนี้แนะนำให้ใช้เห็ดนางฟ้าสด ฉีกออกเป็นชิ้น (อย่าเล็กจนเกินไป เพราะตอนทอด เห็ดจะหดตัว) นำมาหมักด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อย พักไว้สัก 1-2 ชั่วโมง จากนั้นตั้งไฟกลาง ใส่เห็ดที่เราหมักไว้แล้วลงไปทอด (ระวังน้ำมันกระเด็นโดนตัว) พอให้สุกแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน โรยงาขาวก่อนเสิร์ฟ กินเล่นหรือกินกับข้าวก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 6 น้ำพริกกะปิเจ
น้ำพริกกับคนไทยเป็นของที่แทบจะแยกจากกันไม่ได้ แม้เราจะกินเจก็สามารถทำน้ำพริกกินได้เพื่อเพิ่มความเจริญอาหาร ถ้าไม่มีกะปิสูตรเจ เราสามารถใช้ “เต้าเจี้ยว” แทนได้ เริ่มจากตำพริกขี้หนูก่อนพอให้แหลก จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงไปโขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และมะนาว เท่านี้ก็ได้น้ำพริกไว้กินกับเมนูต่างๆ ได้อย่างเอร็ดอร่อยไม่จำเจ
เมนูที่ 7 น้ำพริกอ่องเจ
เมนูอาหารเหนือที่เชื่อว่าคนทุกภาคสามารถกินได้ ส่วนประกอบหลักคือมะเขือเทศ (พันธุ์ใดก็ได้) 1 ถ้วย เต้าหู้แข็ง 1 ถ้วย เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็มทอง 1 ถ้วย หั่นส่วนประกอบทุกอย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ เกือบละเอียด จากนั้นตั้งน้ำมันพอให้ร้อน ถ้ามีน้ำพริกตาแดงเจ ให้ผัดลงไปในน้ำมัน ถ้าไม่มี ให้ผัดเห็ดลงไปก่อน แล้วค่อยเติมพริกป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ตามด้วยมะเขือเทศ ผัดจนสุก กินกับข้าวและผักเคียงอย่างแตงกวา
เมนูที่ 8 ซูชิเจ
ปิดท้ายด้วยเมนูที่อร่อย ง่ายและยังสนุกเวลาลงมือทำ เพียงแค่ต้องเตรียมแผ่นสาหร่ายขนาดใหญ่พอให้ห่อม้วนเป็นซูชิได้ หุงข้าวกล้องจนสุก พักไว้ให้อุ่นหรือเย็น จากนั้นเกลี่ยลงบนแผ่นสาหร่ายแห้งที่เตรียมไว้ ไส้ซูชิใส่ได้ตามใจชอบ เช่น หัวไชโป๊ แตงกวาญี่ปุ่นและแครอทที่หั่นเป็นเส้นยาว ผักโขม (แครอทกับผักโขมแนะนำให้ผัดให้นิ่มก่อนและเหยาะน้ำมันงาลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอม) โรยงาขาวปิดท้ายก่อนจะม้วนให้เป็นท่อนกลม สามารถกินได้โดยไม่ต้องหั่น หรือจะหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำก็ได้
ส่วนใครที่กินเจแล้วอยากลองทำเมนูอาหารเจแบบอื่นๆ ด้วยตัวเองที่กินแล้วไม่อ้วนบ้าง เคล็ดลับก็คือ
- เน้นโปรตีนคุณภาพ เช่น เต้าหู้ ถั่ว ฟองเต้าหู้ เห็ด ถั่วงอก ต้นอ่อนผัก ควินัว
- เลือกเนื้อสัตว์เทียมที่ทำจากโปรตีนเกษตรแทนหมี่กึง
- เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เส้นหมี่กล้อง
- เลี่ยงของทอด หรืออาหารที่มีน้ำมันมาก หากเลี่ยงไม่ได้ควรใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก
- เลี่ยงของหวาน เช่น น้ำผลไม้ นมถั่วเหลืองที่มีรสชาติหวาน
- หากหิวระหว่างมื้อ ให้เลือกทานนมถั่วเหลืองจืด ถั่วอบ โยเกิร์ตจากถั่วเหลือง หรือกาแฟดำไม่ใส่นม
นอกจากนี้ คนกินเจยังต้องเลี่ยงอาหารต้องห้ามอย่าง กระเทียม ผักตระกูลหัวหอม (ต้นหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่) กุยช่าย ใบยาสูบ และอาหารทุกชนิดที่มาจากสัตว์ (นมจากสัตว์หรือไข่ก็ไม่ได้เช่นกัน) หากเราตั้งใจจะกินเจให้ครบเทศกาลเพื่ออิ่มใจอิ่มบุญ รับรองว่าไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอน.
คุณกำลังดู: กินเจต้องรู้ 8 เมนูอาหารเจ ทำง่าย ไม่อ้วน แถมสุขภาพดี
หมวดหมู่: อาหาร - ร้านอาหาร