ลักษณะหางแมว บอกความหมายอะไรกับได้บ้าง

19 ส.ค. 2567 | 09:39 น.

แมวใช้หางเพื่อสองสิ่งสำคัญคือ การทรงตัวและการสื่อสาร แมวนั้นเก่งเรื่องการสื่อสารด้วยภาษากายมาก เมื่อพวกเขาต้องการสื่อสารกับแมวตัวอื่น พวกเขาจะใช้หางเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร และเมื่อต้องการสื่อสารกับเจ้าของ พวกเขาอาจจะร้องเมี๊ยวหรือร้องครางเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะใช้หางเป็นสื่อกลางด้วยเช่นกัน

น่าเสียดายที่คุณอาจจะยังไม่เข้าใจภาษาแมวดีพอที่จะรู้ว่าเจ้าเหมียวของคุณกำลังพยายามจะบอกอะไรคุณ แต่ถ้าคุณศึกษาและฝึกฝน คุณก็จะสามารถตีความภาษากายจากหางของแมวได้อย่างมืออาชีพ

ลักษณะหางแมวบอกความหมายอะไรบ้าง

1.เมื่อหางตั้งตรงและชี้ขึ้นสูง ถ้าแมวของคุณหลังโก่งและตัวงอ หางที่ตั้งตรงชี้ขึ้นสูงแสดงว่ามันกำลังกลัว คุณควรเว้นระยะห่าง

2.เมื่อหางโค้งเป็นเครื่องหมายคำถาม หางที่ตั้งตรงและโค้งขึ้นด้านบนเป็นตำแหน่งที่แสดงว่าแมวของคุณรู้สึกเป็นกลาง นั่นหมายความว่าเธอกำลังสงบ สบายใจ และพร้อมที่จะเล่น

3.เมื่อหางชี้ลงตรง โดยปกติแล้วหมายความว่าแมวของคุณรู้สึกถูกคุกคามและไม่อยากให้เข้าใกล้ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์แมวบางชนิด เช่น แมวเบงกอล มักจะเก็บหางชิดพื้นตลอดเวลา

4.เมื่อแมวของคุณโค้งหางไว้ใต้ตัว ถ้าแมวของคุณเก็บหางไว้ใต้ตัวหรือระหว่างขา แสดงว่ามันกำลังรู้สึกประหม่า ไม่มั่นใจ หรือยอมแพ้ อาจจะมีอะไรบางอย่างในสภาพแวดล้อมที่ทำให้มันรู้สึกไม่สบายใจ

5.เมื่อหางฟู หางฟูและหลังโก่ง อาจหมายความว่าแมวของคุณรู้สึกถูกคุกคาม ท่าทางนี้นับเป็นการป้องกันตัว เหมือนกับการจ้องมองศัตรู

6.เมื่อแมวของคุณแกว่งหางไปมา ถ้าแมวของคุณแกว่งหางไปมาอย่างกระตุกหรือตึงเครียด แสดงว่าเขากำลังหงุดหงิด ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังลูบแมวของคุณแล้วหางของเขากระตุก แสดงว่าเขาบอกคุณแล้วว่าพอแค่นี้

7.เมื่อแมวของคุณแกว่งหางจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง การแกว่งหางอาจหมายความว่าแมวของคุณกำลังสงสัย เขาอาจกำลังสนใจอะไรบางอย่าง เช่น กระรอก หรือของเล่น ถ้าคุณเห็นเขาท่าทางค่อมตัวลง เขาอาจจะกำลังจะกระโดดเข้าใส่

วิธีตอบสนองต่อภาษากายของแมวจากหาง

อาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าคุณจะเก่งในการอ่านการเคลื่อนไหวของหางแมว แต่เมื่อคุณทำได้ คุณจะพบว่ามันทำให้การดูแลเพื่อนแมวของคุณง่ายขึ้นมาก

หากเพื่อนแมวของคุณวิ่งมาหาคุณพร้อมกับหางโค้งเป็นเครื่องหมายคำถาม แสดงความรักกับเขาด้วย การลูบหูและเล่นกับเขาสักครู่จะช่วยได้ ในทางกลับกัน หากเขาส่งสัญญาณชัดเจนว่าให้คุณอยู่ห่าง ให้เคารพในสิ่งนั้น ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะโดนแมวกัดได้ หากคุณสังเกตว่าเขากลัวหรือไม่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา พยายามหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ในบางกรณี นี่อาจเป็นสัญญาณว่าควรพาไปหาสัตว์แพทย์

การอ่านสัญญาณจากหางยังช่วยให้เจ้าของแมวรู้ว่าควรพาเพื่อนขนปุยไปผจญภัยเมื่อใด ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการพาแมวของคุณไปเดินเล่น แต่สังเกตว่าเขาร่างกายเกร็งและเริ่มกระดิกหางเมื่อคุณใส่สายรัดอกให้ คุณอาจจะต้องเลื่อนการเดินเล่นไปอีกวัน ในทางกลับกัน เมื่อหางของแมวของคุณตั้งตรงและโค้ง นั่นอาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะใส่แมวตัวโปรดของคุณลงในกระเป๋าเป้สะพายหลัง