เมื่อ “ธรรมะ” ขับเคลื่อนชีวิต "โบว์ เบญจวรรณ" เพื่อให้เธอส่งต่อพลังหญิงในแบบของตัวเอง

"โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์" นักแสดง นางแบบ และแฟนสาวของก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล แม้เธอจะไม่ใช่นักแสดงหญิงเบอร์ต้น

เมื่อ “ธรรมะ” ขับเคลื่อนชีวิต "โบว์ เบญจวรรณ" เพื่อให้เธอส่งต่อพลังหญิงในแบบของตัวเอง

ตลอดทั้งเดือนมีนาคม เรามักจะเห็นสื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิง เนื่องจากในทุกๆ ปีวันที่ 8 มีนาคมเป็นวันสตรีสากล ที่ทั่วโลกมองเห็นความสำคัญของพลังหญิงร่วมกัน "โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์" นักแสดง นางแบบ และแฟนสาวของก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล แม้เธอจะไม่ใช่นักแสดงหญิงเบอร์ต้น ขึ้นแท่นระดับนางเอก แต่ชื่อชั้นเรื่องการแสดงของเธอนั้นก็ทำให้หลายคนจดจำ และทำให้ผู้ที่ติดตามผลงานอาจมองว่าเธอเป็นผู้หญิงแรงๆ เหมือนในละคร

โบว์ เบญจวรรณ

แต่เมื่อ Sanook Women มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับพลังหญิงในแบบโบว์ เบญจวรรณกลับได้รู้จักเธอในอีกด้าน ซึ่งอาจจะทำให้ภาพจำของเธอจากในละครเปลี่ยนไป

โบว์ เบญจวรรณ

วันนี้พลังเต็มร้อยไหม

เต็มร้อย ตอนเช้าโบว์จะตื่นมานั่งสมาธิแต่เช้าประมาณ 1 ชั่วโมง และถ้ามีเวลาก็จะออกกำลังกายต่อ ทำเพื่อเติมพลังงานตัวเอง พอเราปฏิบัติธรรมมาระยะเวลายาว โบว์เห็นแล้วว่าการทำสิ่งนี้มันส่งผลดีกับสภาพจิตใจ เพราะหลายอย่างที่เราเจอในแต่ละวันทั้งผู้คน หรือคนในครอบครัว รวมถึงสิ่งที่เราปะทะ เราต้องเคลียร์ขยะเก่าออกไปก่อน แล้วใช้ธรรมะสร้างเกราะป้องกันให้กับตัวเองเพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆ อย่างเป็นกลางที่สุด ไม่งั้นเราจะใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วปล่อยให้อะไรก็ไม่รู้ว่าคอนโทรลชีวิตเรา และแต่ละอย่างที่มันคอนโทรลเรา ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เราต้องคอนโทรลความคิดและอารมณ์ของเราได้ ไม่งั้นการที่เราเกิดเป็นมนุษย์ที่มีศักยภาพตรงนี้ทำไมเราไม่ใช้มัน และโบว์ก็อยากมอบสิ่งเหล่านี้ให้กระจายไปสู่คนอื่นๆ

ทุกวันนี้อะไรคือสิ่งที่เป็นพลังขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของโบว์

ธรรมะ ก่อนหน้านี้โบว์เคยตั้งคำถามเหมือนกันว่าอะไรคือพลังในการขับเคลื่อนชีวิตโบว์ งานเหรอ เราสนุกนะ แต่มันมีบางวันที่เราไม่อยากลุก ความรักเหรอ ไม่ใช่เหมือนกันเพราะมันมีขึ้นลง บางวันเราก็ไม่ได้รู้สึกถึงความรักที่เราได้รับ หรือรู้สึกถึงความรักที่เราอยากจะปลดปล่อยออกไป ความสุขมันก็ไม่ได้มีทุกวัน โบว์หาคำตอบนี้มานานมากเหมือนกัน ครอบครัว แม่ พ่อ เหรอ ตั้งคำถามแต่พอได้ได้ปฏิบัติธรรม โบว์รู้ว่าสิ่งๆ นี้คือสิ่งที่โบว์รู้สึกว่าโบว์ทำได้ทุกวัน แล้วโบว์ตั้งใจทำมัน พร้อมที่จะทำมันทุกวันไม่ลังเล แต่เรื่องนี้โบว์ไม่ลังเล มันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเราเห็นว่าเราได้อะไรหลังจากทำมันมาแล้ว เราจะรู้ธรรมชาติของตัวเอง ธรรมชาติของทุกคน องค์ประกอบทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลก เรารู้ เราเข้าใจ และยอมรับในแบบที่มันเป็น ไม่เอาตัวไปขวางกับทุกๆ เรื่อง เมื่อก่อนเรามีอันนี้ฉันไม่ชอบ ต้องเปลี่ยนแปลงใหัมันเป็นไปตามใจฉัน พอมันไม่เป็นไปตามใจเรา เราก็ทุกข์แล้ว เราเอาความทุกข์ไปปล่อยที่คนรอบตัว มันไม่แฟร์กับเราและคนอื่น อันนี้คือแรงขับเคลื่อนที่โบว์ดีใจที่ได้เจอและอยากแบ่งปันให้กับคนรอบข้าง

โบว์ เบญจวรรณ

พูดถึงคำว่า “พลังหญิง” โบว์จะอธิบายอย่างไร

โบว์รู้สึกว่าผู้หญิงมีความอดทนสูง ทุกครั้งเวลาเรารวมตัวกันมันพาวเวอร์ฟูลมาก ยิ่งเราซัพพอร์ตกัน โบว์ว่าผู้หญิงมันวิเศษตรงที่เรากล้าที่จะชื่นชมผู้หญิงอีกคนว่าสวย ดี ชื่นชมผลงานเขาอย่างใจจริง ในขณะที่โบว์ว่ามันอาจจะยากสำหรับผู้ชายที่จะชื่นชมกัน ดังนั้นนี่คือพลัง ถ้าคุณตัดคำว่าอิจฉา เอาชนะออก และซัพพอร์ต หรือชื่นชมกันอย่างใจจริง ผู้หญิงมีอำนาจและพลังงานอย่างน่ามหัศจรรย์มาก เพราะเราเป็นเพศที่อดทนต่อแรงกดดัน ความเจ็บ หรือแม้แต่เราเจอการทะเลาะวิวาท สัญชาตญาณของเราจะรู้ว่านิ่ง เราจะไม่เอาตัวเองเข้าไป เพราะเรารู้ถึงผลลัพธ์ที่จะได้ถ้าเราทำอีกแบบหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ทุกคน แต่ส่วนใหญ่ที่เห็น ตรงนี้คือพลังที่ผู้หญิงมี แต่ก็แอบเศร้าเหมือนกันที่ในโลกโซเชียลสมัยนี้แข่งขันกันสูง ขาดการชื่นชม และซัพพอร์ตกัน มันต้องข้ามพวกนี้ไปได้แล้ว มันไม่เก๋แล้วที่จะชนะกันด้วยอะไรที่ไร้สาระ แต่การซัพพอร์ตกันมันช่วยให้ทั้งเขาและเราใจฟู เราส่งพลังบวกออกไป แน่นอนสิ่งที่เราได้กลับมาคือสิ่งนั้นเหมือนกัน

จากไลฟ์สไตล์ของคุณสะท้อนว่าคุณรักตัวเอง แต่ผู้หญิงบางคนรักตัวเองไม่เป็น มีคำแนะนำอย่างไรบ้าง

เมื่อก่อนโบว์เอาความต้องการคนอื่นเป็นที่ตั้ง รักคนอื่นมากกว่ารักตัวเอง ยอมเจ็บเพื่อให้คนอื่นมีความสุข แต่กลายเป็นว่าเรารู้สึกว่าการที่เรายอมทำขนาดนี้ ทำไมเราไม่ได้สิ่งนั้นกลับมาบ้าง เลยต้องรีเซ็ตตัวเองใหม่ เราต้องทำบางอย่างผิด เราอย่ารับบทเป็นเหยื่อ เมื่อก่อนโบว์เป็นและโบว์ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนั้น รู้สึกว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะอ่อนแอ หรือถูกเอาเปรียบ ทำไมเราไม่รักตัวเอง

สำหรับผู้หญิงหลายๆ คนที่คิดว่าจะทำอย่างไรให้รู้สึกมั่นใจในตัวเอง ตั้งคำถามก่อนว่าเหตุใดเราถึงต้องไม่รักตัวเอง มันมีจุดไหนที่เราแตกต่างจากคนอื่นเหรอ อะไรที่มันขาดแตกต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ เหรอ โบว์ว่าคุณต้องคุยกับตัวเองก่อนแล้วให้อภัยตัวเอง การให้อภัยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก หลายๆ คนไม่กล้าให้อภัยตัวเอง ได้แต่ขอโทษคนอื่น แต่ไม่เคยขอโทษตัวเอง

โบว์ เบญจวรรณ

มีวันหนึ่งโบว์นั่งคุยกับตัวเอง จนต้องกอดตัวเองแล้วบอกว่าขอโทษนะที่ผ่านมาฉันไม่เคยดูแลตัวเองเลย ฉันปล่อยปละละเลยเธอมาก ฉันเอาความสุขคนอื่นเป็นที่ตั้ง โดยลืมคิดไปเลยว่าเธอคือคนที่คู่ควรกับความสุขที่สุด เพราะที่ผ่านมาเธอให้ความสุขกับคนอื่นและคาดหวังว่าจะได้จากคนอื่น และเธอไม่เคยได้ ดังนั้นให้ความสุขแก่ตัวเองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทางใด

ในเมื่อคุณรู้ว่าจุดด้อยของตัวเองคืออะไร ให้แก้จุดด้อยตรงนั้น หรือหากคุณไม่ชอบตัวเองตรงไหน ลิสต์มาเลย ผมไม่สวยก็บำรุง ดูแลมัน ให้เห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นการพัฒนาของตัวเองทีละขั้น อย่าให้อำนาจคนอื่นมาครอบครองชีวิตของเรา เราต้องเขียนบทชีวิตตัวเองว่าเราอยากเป็นคนแบบไหน

โบว์ตื่นขึ้นมาเขียนข้อความทุกวัน ขอบคุณตัวเองทุกวัน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง เตียง น้ำดื่ม เพื่อนๆ ครอบครัวโบว์ เรื่องพวกนี้เวลาเรารู้สึกขอบคุณหัวใจเราจะเริ่มฟู ในเมื่อบางทีเราไม่สามารถขอบคุณตัวเองได้ เราสามารถขอบคุณสิ่งเหล่านี้ได้ แล้วหลังจากนั้นเราจะขอบคุณตัวเองเป็นละ ขอบคุณนะที่ตั้งใจ ขอบคุณนะที่พัฒนา ขอบคุณนะที่ไม่ยอมแพ้ เราจะเริ่มเห็นความสำคัญของตัวเองมากขึ้น เพราะโบว์เข้าใจว่ามันไม่ง่าย

โบว์ เบญจวรรณ

มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้คุณได้ดึงพลังหญิงออกมาใช้

โบว์ว่ามันคือการที่ทุกวันนี้การที่โบว์กล้าชื่นชมตัวเอง และชื่นชมคนอื่นได้อย่างใจจริง การที่เรากล้าชื่นชมเพื่อน คนสนิทอย่างใจจริงสิ่งเหล่านั้นมันจะกลับมาหาเราเช่นเดียวกัน เราไม่รู้หรอกว่าคำพูดอะไรของเราทำให้คนๆ นั้นใจฟูขึ้นมาได้ ทั้งเขาและเรา นี่แหละมันเป็นพลังที่เราแบ่งปันได้ ทุกเพศทำได้ มันจะโต และเราจะได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่พลังงานดีๆ โบว์พยายามส่งออกพลังที่ดีออกไปให้มากที่สุด โบว์พยายามทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

วิธีสร้างพลังภายในของโบว์คืออะไร

ปฏิบัติธรรมค่ะ สิ่งแรกที่โบว์ในการเริ่มต้นวันคือขจัดขยะออก เพราะเราไม่รู้หรอกว่าในแต่ละวันที่เราออกไปแค่ขับรถเนี่ยขยะเยอะมากละ คนนี้ปาดหน้าทำให้เราหงุดหงิดแล้วมันสะสม มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่พอมันสะสมไปเรื่อยๆ มันจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ แล้วบางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมวันนี้เราหงุดหงิดจัง มันมีนะที่วันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเราหงุดหงิด เพราะเราลืมไปว่าที่ผ่านมาเราสะสมอะไรมาบ้าง โบว์เคลียร์เรื่องเหล่านี้ทุกๆ วัน อาจจะเคลียร์ไม่ได้หมดทุกวัน แต่อย่างน้อยมันจะได้ไม่หนัก มันจะได้สบายใจ หรือเริ่มวันที่เบากว่าเมื่อวาน

โบว์ เบญจวรรณ

วิธีรักษาพลังให้คงอยู่คืออะไร

ทำต่อเนื่องไม่ว่าวันนั้นคุณอยากหรือไม่อยาก ทำให้มันเป็น priority คุณต้องทำให้มันเป็นกิจวัตรเหมือนแปรงฟัน ทำให้รู้สึกว่าขาดไม่ได้ เหมือนบางสิ่งบางอย่างที่เราให้ค่า ต้องเซ็ทใหม่ เมื่อก่อนมันอาจไม่ได้เป็น priority หลัก  อาจอยู่อันดับท้ายๆ เพราะเราไม่ได้ทุกข์อะไร ถ้าเราเห็นมันเป็นอันดับต้นๆ อย่างอื่นเราก็จะเรียงลำดับมันได้ดีเหมือนกัน เราจะรู้ว่าภายใน 1 วันเราจะทำอะไร อะไรมาก่อนมาหลัง เราจะให้ priority อย่างถูกต้อง

พอเรานั่งสมาธิแล้วจิตเรามันเคลียร์ เราจะตัดสินใจได้อย่างไม่ลังเล มันเหมือนจะมีสัญชาตญาณบอก เราเชื่อตัวเอง ทำในสิ่งที่เชื่อว่าทำดีแล้ว มั่นใจในสิ่งที่ทำไม่กระทบใคร เพราะการฝึกพวกนี้ก็เพื่อทำให้รู้ว่าตัวเองว่าจะไปทางไหน

โบว์ เบญจวรรณ

 

เราใกล้ชิดกับใครเราก็จะได้พลังจากคนนั้น ก๊อต จิรายุ ส่งพลังอะไรให้เราบ้างไหม และทำให้เราเปลี่ยนไปอย่างไร

โบว์ว่าไม่ใช่แค่ก๊อตหรอก โบว์ว่าพลังลบคือสิ่งที่เราจะรับได้ง่ายจากคนใกล้ตัว ของโบว์คือรู้เลยว่าคนที่โบว์รับได้ไวคือแม่ ก๊อต พี่ชาย มันจะรับรู้ได้ง่าย และคอนโทรลตัวเองได้น้อยกว่ากับคนอื่น เพราะว่าเราแคร์ ยิ่งเราแคร์ใครมากมันยิ่งยาก ถ้าเราจัดการกับคนใกล้ตัวได้ เราจะสามารถจัดการกับคนอื่นได้เช่นกัน เพราะเราแคร์คนๆ นี้มากที่สุดเพราะเรารู้สึกว่าการที่เขาทำบางสิ่งบางอย่างหรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่างมันกระทบใจเราเร็ว ดังนั้นการที่เราฝึกตัวเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ พี่ แฟน เราต้องวางใจเป็นกลาง เพราะในท้ายที่สุดนั่นคือชีวิตของเขา มันเป็นทางเลือกของเขา

พลังงานดีๆ ที่โบว์ได้รับจากก๊อตก็มีเพราะเขาเป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อ่านหนังสือเยอะ เขาใฝ่รู้ มันก็อินสไปร์เรา เราเห็นความตั้งใจของเขา มันมีบางวันที่มันอาจจะหย่อนบ้าง แต่พอเราเห็นคนรอบตัวเรามีความตั้งใจสูง มันจะเป็นแรงฮึด มันได้จากคนใกล้ชิดเพราะคนเหล่านี้เป็นคนที่สะกิดอารมณ์โบว์ได้เร็วที่สุดไม่ว่าทางลบหรือว่าทางบวก

โบว์ เบญจวรรณ

 

ผู้หญิงที่โดนทำร้าย หรือสังคมกดทับ สำหรับโบว์มีคำแนะนำอย่างไร

ถ้าเราอยู่ในจุดที่รับไม่ได้เช่นเรื่องจากโซเชียลให้ปิดไปก่อน การที่เราไปอยู่ในวงเวียนเดิมๆ ให้เราเอาตัวเองออกไปอยู่ในที่ๆ มันดี ทำให้ตัวเองเข้มแข็ง แข็งแรง ถ้าเรามั่นใจในสิ่งที่เราทำ ความจริงก็คือความจริง และเราก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง มันมีคนรอบตัวอยู่แล้วที่เข้าใจเรา เราจะให้ค่ากับคนที่เขาไม่รู้จักเราทำไม ในขณะที่คนรอบตัวเราซัพพอร์ตเรา หันไปหาพลังงานดีๆ เป็นไปได้ไปปฏิบัติธรรมเลยค่ะ เพราะการปฏิบัติธรรมคุณได้มากกว่าการแก้ปัญหา คุณจะเข้าใจตัวเอง คุณจะรู้วิธีการดำเนินชีวิต คุณจะรู้วิธีในการพูด คุณไม่จำเป็นต้องแก้ตัวกับคนพวกนี้ด้วยซ้ำไปเพราะเขาไม่ฟัง มันไร้ประโยชน์

ให้เราเมตตาเขาเยอะๆ มันยากจริงๆ มันต้องเกิดการฝึกฝน ส่วนคนที่ถูกกระทำอันนั้นเป็นเรื่องที่คนกระทำไม่รู้  ให้เอาตัวเองออกมา อยู่ตรงไหนที่ไม่มีความสุขให้ออกมา เรามีค่ามากพอที่จะรักตัวเอง ไม่มีประโยชน์ที่เราต้องทน ให้ความสำคัญกับตัวเองให้เหมือนกับที่เรารักตัวเอง เพราะถ้าเรารักตัวเองมากพอ เราจะไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ตรงนั้น คุณต้องเข้าใจก่อนว่าเราเอาตัวเองอยู่ระดับไหน ถ้าเอาตัวเองอยู่ระดับล่างๆ ต้องปรับมายด์เซ็ทใหม่เอาตัวเองอันดับ 1 อาจดูเห็นแก่ตัว แต่ถ้าคุณไม่รักตัวเองคุณจะแบ่งปันความรักดีๆ ให้คนอื่นได้อย่างไร ไม่รักความต้องการของตัวเองจะเข้าใจความต้องการของคนอื่นได้อย่างไร

 

คุณกำลังดู: เมื่อ “ธรรมะ” ขับเคลื่อนชีวิต "โบว์ เบญจวรรณ" เพื่อให้เธอส่งต่อพลังหญิงในแบบของตัวเอง

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด