"น้องแม็ค" กดดันร่วมงาน "แอน-อนันดา" เขินคนชมหล่อ รอโอกาสขึ้นแท่นพระเอก

"น้องแม็ค ณัฐพัชร์" กดดันร่วมงาน "แอน-อนันดา" เขินคนชมหล่อ รอโอกาสขึ้นแท่นพระเอก

"น้องแม็ค" กดดันร่วมงาน "แอน-อนันดา" เขินคนชมหล่อ รอโอกาสขึ้นแท่นพระเอก

กลับมามีผลงานละครให้หายคิดถึง สำหรับ น้องแม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ นักแสดงเด็กที่เคยสร้างชื่อจากละคร ทองเนื้อเก้า กับบทบาท วันเฉลิม แม้เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี จนตอนนี้ น้องแม็ค โตเป็นหนุ่มหล่อวัย 15 ปี แล้วก็ตาม

ล่าสุด sanook.com มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าตัว ถึงผลงานละครเรื่องล่าสุด เกมรักทรยศ ซึ่งบทบาทในเรื่องเจ้าตัวต้องเล่นเป็นลูกชาย ประกอบ 2 นักแสดงมากฝีมือ อย่าง แอน ทองประสม กับ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมืออีกขั้นเลยก็ว่าได้

ฟีดแบ็ก “เกมรักทรยศ” เป็นอย่างไรบ้าง ?

“ก็ดีใจเลยครับ มันเหมือนคลายความกดดันไป จากที่เราคาดหวังกันมา ว่าอยากให้คนชอบ หรือถูกใจในการแสดงของพวกเรา เพราะว่ามันก็เป็นละครที่รีเมกมา มันก็จะมีข้อเปรียบเทียบอยู่แล้ว มันก็เลยมีความกดดันสูง ว่าเราจะทำออกมาได้ถูกใจคนไทยไหม หรือจะถูกใจคนดูหรือเปล่า”

ความกดดันหลักๆ ของเรา อยู่ที่บทหรือกระแสโดยรวม ?

“ก็หลายๆ อย่างครับ ทั้งได้เล่นกับพี่ๆ รุ่นใหญ่ด้วย แล้วก็ตัวบทด้วย ซึ่งบทมันก็จะมีความยากขึ้นไปอีก เพราะแม็คก็เล่นเกินอายุไปอีก แล้วก็เป็นความกดดันจากฟีดแบ็กด้วยครับ ข้อเปรียบเทียบ กลัวว่ากระแสจะออกมาไม่ดี”

เคยมีโอกาสได้ดูเวอร์ชั่นเกาหลีหรือเวอร์อังกฤษมาก่อนไหม หรือว่ามาเล่นแบบไม่ต้องอิงจากเขาเลย ?

“แม็คไม่ได้ไปดูเต็มๆ เรื่องขนาดนั้นครับ แต่ว่าพอจะรู้จักเรื่องนี้อยู่ แต่ไม่ได้ดูทั้งหมด”

ตัวละครลูกก็ค่อนข้างสำคัญ และเป็นตัวน่ารำคาญในบางโมเมนต์ แล้วเราทำการบ้านกับบทนี้ยังไง ?

“จริงๆ ก็เป็นการอ่านบทนี่แหละครับ ถ้าเราอ่านบทไผ ก็จะเริ่มเข้าใจในตัวของพัชร์มากขึ้น แต่ถ้าในเวอร์ชั่นของพวกเรา ก็จะมีน้องสาวด้วย ซึ่งน้องสาวก็จะสะท้อนอีกมุมหนึ่งของลูกๆ ด้วย เพราะว่าด้วยความที่ตัวพัชร์เป็นพี่ ก็จะกลายเป็นว่าเรื่องความเป็นตัวน่ารำคาญ หรือตัวที่ทำให้เกิดเรื่อง จะไม่ใช่เราแล้ว จะเป็นน้องแทน ที่ทำให้พ่อหรือเรามีปัญหามากกว่า แต่แม็คว่าการทำการบ้าน หลักๆ ก็จะเป็นการอ่านบทนี่แหละครับ เป็นการทำความเข้าใจตัวละคร แล้วก็คุยกับผู้กำกับครับ”

เป็นการร่วมงานกับตัวพ่อตัวแม่ อย่าง “แอน ทองประสม” และ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ครั้งแรกเลยไหม ?

“กับพี่แอนแม็ครู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ ครับ เพราะพี่สาวแม็คเคยทำงานกับพี่แอนมาก่อน ก็จะเจอแม็คตั้งแต่เล็กๆ แต่ส่วนตัวแม็คไม่เคยทำงานทั้งกับพี่แอนแล้วก็พี่อนันดาเลย แต่ว่าก็จะเห็นทั้งคู่อยู่แล้ว ก็ดูหนังพี่อนันดาบ้าง”

พอรู้ว่าต้องมาเล่นเป็นลูก เรารู้สึกยังไงบ้าง ?

“ก็ดีใจครับ เพราะได้เล่นกับพี่ๆ ที่หลายๆ คนติดตาม และเราก็ติดตามด้วย แต่ว่ามันก็จะมีความเกร็งๆ บ้างครับ ช่วงแรกๆ เราก็เห็นเขาเป็นเบอร์ท็อปๆ ทั้งของวงการละครและหนังด้วย เราก็เกร็งๆ แต่พี่ๆ ใจดีมากครับ พี่อนันดาก็จะมีคุยกับแม็คในเรื่องทั่วไปบ้าง ด้วยความที่เล่นบาสเหมือนกัน ติดตามกีฬาเหมือนกัน ส่วนพี่แอนนี่ก็เหมือนจะรู้จักกับบ้านแม็คอยู่แล้ว ก็จะมีความเฟรนด์ลี่อยู่แล้วครับ”

ละลายพฤติกรรมนานไหม ?

“ไม่ได้ถึงขั้นต้องละลายพฤติกรรมหนักขนาดนั้นครับ เพราะทุกคนก็คุยกันง่ายอยู่แล้ว ในส่วนของพาร์ทครอบครัว พวกเราก็สนิทกันอยู่แล้ว เข้าฉากด้วยกันบ่อย แล้วพี่อนันดาก็ตลก ส่วนที่แอนก็จะเล่นกับน้องๆ อยู่แล้ว”

“อนันดา” เขาเป็นสายภาพยนตร์ เขามีแชร์อะไรให้เราบ้างไหม ?

“อาจจะไม่ได้มาบอกหรือมาสอนโดยตรงครับ แต่เราจะเห็นด้วยตาตัวเอง อย่างการอินโพรไวส์ของเขา เหมือนจะเป็นอีกแนวหนึ่งที่เห็นในกอง มันจะไม่เหมือนละครที่เราเล่นมาปกติ เพราะเขาจะเป็นสไตล์ละครที่มีความเมคเซ้นส์มากขึ้น อิงจากความเป็นจริงมากขึ้น พี่อนันดาเขาก็จะคุยกับผู้กำกับ ว่าฉากนี้คิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้หรือเปล่า มันควรจะเมคเซ้นส์มากกว่านี้”

เรื่องนี้ต้องเล่นเกินอายุจริงไปเยอะไหม ?

“ไม่ได้เยอะขนาดนั้นครับ ประมาณ 2-3 ปี ก็พอจะทำความเข้าใจได้ครับ”

เป็นละครเรื่องยาว ที่กลับมารับในรอบหลายปีไหม ?

“ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ก็จะเป็นหนัง เป็นซีรีส์ ในเน็ตฟลิกซ์ อันนี้น่าจะเป็นละครในรอบหลายปี คิดว่าน่าจะเกิน 3 ปี เพราะช่วงก่อนโควิดก็ยังไม่มี”

ต้องเคาะสนิมปลุกไฟตัวเองไหม ?

“มีครับ เหมือนเราอาจจะห่างไปนานด้วย การที่เราต้องมาจริงจัง มันก็เป็นเรื่องสำคัญ ตอนเด็กๆ แม็คทำงานตลอด หรือบางทีก็ถ่าย 2 เรื่องพร้อมกัน มันอยู่ในหัวอยู่แล้ว แต่พอเราเพิ่งกลับมาทำ มันก็อาจจะต้องทำความเข้าใจเยอะขึ้นหน่อย”

ฟีดแบ็กที่เขามาถึงตัวเราตอนนี้ แฟนๆ เขาว่ายังไงบ้าง ?

“ที่เห็นก็จะมีคนชมว่าหล่อบ้าง (ยิ้ม) ชมว่าเล่นดีก็มีครับ เขาก็จำเราได้ว่าเป็นนักแสดงเด็ก แต่เรื่องการเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเกาหลี ยังไม่เห็นนะครับ เพราะเวอร์ชั่นของเรา ตัวละครของลูกมันไม่เหมือนกัน ของเราเป็นพี่น้อง”

แต่โดยรวมก็คือโล่งใจเพราะกระแสดีมาก ?

“โล่งใจตั้งแต่อีพีแรกแล้วครับ มันเหมือนเราก็ตื่นเต้นด้วย ว่าคนติดตามไหม หรือว่าจะเข้ามาดูเยอะหรือเปล่า จะชอบหรือเปล่า มันก็คลายความกังวลไปได้เยอะครับ”

คนก็ชมว่าเราหล่อมาก ?

“ขอบคุณครับ ถามว่าชินหรือยัง ก็เขินตลอดครับ (มองว่าเราก็โตมาหล่อไหม?) ก็มีคิด แต่ชอบตัวเองตอนเด็กครับ พอกลับไปมองก็รู้สึกว่ามันก็น่ารักดี อยากมีน้องชายเป็นตัวเองเหมือนกัน อยากได้หน้าตาแบบนั้น คือน่ารักจริงๆ”

รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ?

“แม็คว่าเปลี่ยนในเรื่องนิสัย ตอนเด็กๆ ทุกคนจะบอกว่าแม็คซนมาก ไม่ได้ดื้อนะ แต่เจออะไรก็จะเล่นไปหมด อยู่ไม่ค่อยนิ่ง เอเนอร์จี้มันล้น แต่พอโตขึ้นก็มีเรื่องกาลเทศะ มารยาท และความเขินบ้างบางครั้ง”

ฉากที่เราเล่นเซิร์ฟกับ “อนันดา” คนชมว่าหล่อสูสีกันเลย ?

“อันนี้ถ้าไปพูดให้ฟัง พี่อนันดาจะบอกว่าไม่ได้ พ่อหล่อสุด ต้องให้เขาจริงๆ ครับ ไม่ได้เลย ต้องให้เขา เพราะเขาหล่อจริงๆ พ่อคนนี้ ตัวพ่อ ตัวบิดาเลย”

เส้นทางของเราตอนนี้ มุ่งมาด้านการแสดงอย่างเดียวเลยใช่ไหม ?

“ก็คิดว่าอย่างนั้นครับ แต่ก็ยังไม่ได้ปักหลักหรือว่าอะไรขนาดนั้น เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้มีความฝันไปในทางอื่นขนาดนั้นครับ”

ตอนนี้เริ่มมีงานติดต่อเข้ามาเยอะขึ้นหรือยัง ?

“ก็มีงานกลับเข้ามา เดี๋ยวอาจจะมีให้ได้ติดตามด้วยก็มีครับ ตอนนี้อายุ 15 อาจจะหาบทยากด้วย แต่ว่าก็อย่างที่บอกก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เป็นงานพวกโฆษณาบ้างก็มี ก็เดี๋ยวมีให้ติดตาม”

หลายคนมองว่าเราทรงพระเอกได้สบายๆ เลย มีคาดหวังไว้บ้างไหม ?

“ก็แล้วแต่พี่ๆ ให้โอกาส ถ้ามีโอกาสได้เล่นเป็นพระเอกได้เลยก็ดี (ยิ้ม)”

มองการทำงานในพาร์ตอื่นๆ ไว้อีกไหม ?

“มองมั้ยก็แม็กมองว่าอยากเป็นคนที่เก่งหลายๆ ด้านครับ อยากเป็นคนที่ทำได้หลายๆ อย่าง ร้องเพลงหรือเต้นก็อยากเป็นอยากเก่งก็มีครับ มีเรียนบางช่วง ถ้าถึงเด็กฝึกไม่ได้มีความฝันไปขนาดนั้นครับ”

หล่อขนาดนี้ไม่มีคนมาชักชวนไปออดิชั่นเลยเหรอ ?

“มีบ้างๆ ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรขนาดนั้น”

พี่ยอร์ชไม่มาเกลี้ยกล่อมบ้างเหรอ ?

“มีๆ มีคุยกันเขาก็บอกว่าลองดูมั้ย ไปมันก็สนุกดี ถามจริงๆ ก็อยากลอง อยากลองหลายๆ ทาง เพราะว่าเราก็ยังไม่เคยไปอยู่ที่โน่น อยากลองก็จะได้รู้ว่าแม็กชอบหรือมีความฝันจะเป็นอะไรกันแน่”

มีความกังวลความกลัวทำให้ไปกล้าไปหรือเปล่า ?

“ไม่เชิงว่ากังวลครับ แต่เหมือนว่าโตมาที่ไทยด้วย และก็แบบว่าหลายๆ อย่างงานอะไรมันยังไม่ค่อยเสร็จด้วย หรืออาจจะรอโอกาสเข้ามา”

ตอนนี้พี่ยอร์ชเขาได้เดบิวต์แล้วนะ จากที่เคยผิดหวังกับรอบแรกไป ?

“เอาจริงๆ ตอนนันก็เฟลๆ เหมือนกันครับ รู้สึกตอนแรกก็เสียดายแทนพี่ยอร์ช กลับมาเจอกันตอนที่พี่ยอร์ชกลับไทยมาเหมือนก็ได้คุยกัน แต่ไม่ได้พูดเรื่องที่เฟลไป แต่เหมือนก็ได้ยินข่าวมาอยู่พี่ยอร์ชเขาอาจจะไปอยู่อีกค่ายนึง เราก็เห็นเปิดตัวออกมาแล้ว พอเปิดตัวคบคนปุ๊บก็ดีใจกับเขา ที่เขาได้ทำตามความฝัน เพราะว่าก็รู้มานานแล้วว่าเป็นสิ่งที่พี่ยอร์ชชอบ เขาไปเต้นตั้งแต่เด็กๆ เลย”

เหมือนหลายคนชอบจำเรากับยอร์ชสลับกัน ?

“ใช่ หลายๆ คนทุกวันนี้ก็ยังมีจำสลับแบบว่ามาเรียกแม็ก แล้วแบบว่าเรียกเป็นยอร์ชแทน เด็กๆ ก็มีเรียกพี่ยอร์ชเป็นแม็กก็มี”

พอคนจำผิดก็อาจจะเกิดการเปรียบเทียบ ?

“จริงๆ แม็กไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นนะ แต่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะจำผิดหรือว่าไปเปรียบเทียบอะไรขนาดนั้น มีบ้างที่คาดหวังว่าเราจะไปเป็นแบบโน้นหรือเปล่า แต่ไม่ถึงขั้นเปรียบเทียบอะไรขนาดนั้นครับ”

เขาบอกลูกแม่ลำยองได้ดีทุกคนเลย ?

“ใช่ๆ ก็มีความเกี่ยวข้อง”

เตรียมปักเมนวงที่ยอร์ชเดบิวซ์เลยไหม ?

“ปักเมนเลยไหมอาจจะยังไม่ปักแล้วกัน แต่มีเห็นอีโมจิบ้าง เขาใส่อีโมจิกัน”

เป็นกำลังใจซัพพอร์ตให้พี่คนเสมอ ?

“ใช่ เป็นกำลังใจ ก็รอดูเดบิวต์อยู่ครับ เพลงจะเป็นยังไงก็รอดูอยู่”

ส่วนตัวเราเองบนเส้นเส้นทางบันเทิง หลังจากนี้ไว้ยังไงบ้าง ?

“ยังไม่ได้วางแผนไกลอะไรขนาดนั้นครับ รอดูแล้วแต่วาระโอกาส หรือว่างานที่ติดต่อเข้ามา”

จริงๆ นักแสดงเด็กไม่ใช่ทุกคนที่โตแล้วจะยังมีผลงานละครอยู่ ?

“แม็กว่ามันเป็นเรื่องดวงก็เกี่ยว มันเป็นโอกาสที่ได้เข้ามาตั้งแต่เด็กๆ เพราะว่าตั้งแต่เด็กๆ มันก็เป็นโอกาสที่ได้ไปเล่นทองเนื้อเก้า และหลังจากนั้นก็เป็นโอกาสเข้ามาเรื่อยๆ มีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำโน้นให้คำแนะนำนี้ ทำให้เราแบบว่ายังคงอยู่ในทางนี้ได้”

เรามีความคิดโตขึ้นอยากเป็นนักแสดงต่อไป หรือเรามีความฝันอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพนักแสดง ?

“เอาจริงๆ ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนที่มีความฝัน แบบว่าบางคนอยากเป็นหมอ ไม่ได้มีความฝันแบบนั้น แต่รู้สึกว่าอยากทำอะไรก็ได้ที่เราเก่ง หรือเราสนุกไปกับมัน อะไรที่เรายังชอบทำอยู่ก็ทำได้”

ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้รู้สึกว่าการแสดงเราพัฒนาขึ้นไหม ?

“รู้สึกบ้างบางครั้งครับ แต่รู้สึกว่าเราก็ยังต้องพัฒนาอยู่ เพราะว่ามีได้ยินเสียงวิจารณ์บ้างบางครั้ง อย่างเห็นตัวเองในมอนิเตอร์หรือในทีวีบางครั้งมันก็สะท้อนมาว่าเราอาจจะต้อง จุดนี้ๆ อย่างสายตา ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ”

ความรักอายุ 15-16 แล้วมีเข้ามาให้ชุ่มชื่นหัวใจไหม ?

“ไม่ได้มีขนาดนั้นครับ เรียนโรงเรียนชายล้วนด้วย ตรงๆ เลยแม็กแทบไม่ออกจากโรงเรียนเลย ถ้าไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนก็อยู่โรงเรียนเล่นกีฬา เพราะแม็กเป็นเด็กค่อนข้างบ้ากีฬาด้วย ถ้าวันว่างๆ ก็ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน เพราะเล่นเกมอยู่กับเพื่อน และก็มาทำงานอยู่แค่นี้ ไม่ได้ออกไปเจอใครขนาดนั้น”

มีสาวๆ แอบส่งข้อความไดเร็กเข้ามาจีบบ้างหรืเปล่า ?

“เท่าที่ดูไม่ค่อยมีนะครับ ส่วนใหญ่ไม่มีไดเร็กมาจะมีฟอลบ้าง ฟอลมากดดูสตอรี่ แต่ไม่มีไดเร็กมาตรงๆ ส่วนผมก็มีไปฟอลเขาบ้างที่รู้จักกัน”

มีสเปคสาวไหมที่จะจึ้งใจเรามาก ?

“ส่วนตัวชอบคนน่ารัก และก็ชอบคนที่เขาชอบที่เป็นเรา ชอบความแปลกความตลกของเรา ชอบแบบนั้นมากกว่า”

คุณแม่หวงหรือเปล่า ?

“แม่หวงครับ แต่ไม่ได้ปิดแม่ไม่ได้ห้ามมีแฟน แต่ค่อนข้างที่จะหวงและก็ห่วง แต่ก็มีได้ครับ ยังจอยกับการไปเล่นกับเพื่อน การทำงานก็ยังจอยอยู่ครับ ชิลๆ”

เพื่อนมีแนะนำสาวให้เราบ้างไหม ?

“มีๆ เพื่อนมีบ้าง แต่เราเฉยๆ ไงเพื่อนก็จะรู้ คือเขาก็แบบว่า จีบมั้ย แต่แค่นั้น ทักแค่รอบเดียวไม่ได้จี้ๆ เอายังไงๆ ไม่ได้ขนาดนั้น อาจจะแซวๆ เล่นๆ ครับ”

 

 

คุณกำลังดู: "น้องแม็ค" กดดันร่วมงาน "แอน-อนันดา" เขินคนชมหล่อ รอโอกาสขึ้นแท่นพระเอก

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด