"ปารีส แฟชั่น วีก" ยุคเศรษฐกิจถดถอย สร้างสรรค์สุดพลังแค่ไหนก็ต้องเข้าถึงได้

"ปารีส แฟชั่น วีก" ยุคเศรษฐกิจถดถอย สร้างสรรค์สุดพลังแค่ไหนก็ต้องเข้าถึงได้

แม้จะเป็นแฟชั่นวีกปิดรั้งท้ายของฤดูกาลใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023 แต่คงไม่มีแฟชั่นวีกที่ไหนในโลกจะมีอิทธิพลในการกำหนดเทรนด์อนาคตของโลกแฟชั่นเท่ากับ “ปารีส แฟชั่น วีก” ที่สีสันของสตรีทสไตล์บนท้องถนนของเหล่าคนแฟชั่น ดูน่าจดจำไม่แพ้ความจัดจ้านของโชว์บนรันเวย์ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยต่อเนื่องและทำท่าว่าจะยืดเยื้อยาวนาน เหล่าแบรนด์ดังสัญชาติฝรั่งเศสต่างพากันสาดละเลงความคิดสร้างสรรค์อย่างดุเดือดกว่าที่เคย งัดทุกไม้ตายทั้งเก่าและใหม่ เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งในโลกแฟชั่น

Chanel
Chanel

“ดอกคามิลเลีย” คือหนึ่งในเอกลักษณ์โดดเด่นของ “Chanel” ที่ส่งต่อกันมาทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า ในโชว์ล่าสุดคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023 “เวอร์จินี วิยาด” พาเหล่าสาวกของชาเนลท่องโลกโรแมนติกแห่งดอกคามิลเลีย ด้วยการหยิบสัญลักษณ์ไอคอนิกมาถ่ายทอดลงบนเสื้อผ้าสุดคลาสสิกหลากหลายสไตล์ พร้อมสอดแทรกรายละเอียดฝีมือตัดเย็บอันพิถีพิถัน นอกเหนือจากดอกคามิลเลียขนาดยักษ์ กลางรันเวย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแจ็กเกต ผ้าทวีด, เสื้อโค้ต, ชุดเดรส, เครื่องหนัง, กระดุม, กระเป๋า, รองเท้า และเครื่องประดับจิวเวลรีใหญ่น้อย ล้วนแต่มีดอกคามิลเลียเบ่งบานสะพรั่งยั่วตายั่วใจ...“ดอกคามิลเลียเป็นมากกว่าธีมของงาน มันเป็นเอกลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ของบ้านหลังนี้ และฉันรู้สึกได้ว่าเราสบายใจและคุ้นเคยกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งฉันชอบความนุ่มนวลที่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งของมัน” ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนเก่งสารภาพรักกับดอกคามิลเลียซิลูเอตรูปทรงเรขาคณิต, ชุดโครงสร้างแข็งเหมือนงานศิลปะที่สวมใส่ได้, การผสมงานคราฟต์เข้ากับวัสดุล้ำสมัย ล้วนแต่ขับเน้นให้คอลเลกชันล่าสุดของ “Louis Vuitton” ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์ กระนั้น “นิโกลาส์ เฌสกิแยร์” จงใจเลือกใช้แพตเทิร์นและความนุ่มนวลของเนื้อผ้ามาช่วยสร้างสมดุลอย่างมีชั้นเชิง เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งซีซันที่ครีเอทีฟไดเรกเตอร์มือทองยังคงอินกับการค้นหาคำตอบว่าสไตล์ฝรั่งเศสคืออะไร มีการจำลองความรู้สึกของเมืองฝรั่งเศสมาไว้บนรันเวย์ ขาดไม่ได้คือเสียงบีบแตรรถ และเสียงส้นสูงกระทบพื้นถนนปูด้วยหินสัญลักษณ์ของปารีส

Louis Vuitton
Louis Vuitton

ความหรูหราคลาสสิกตามแบบฉบับฝรั่งเศสยังคงมีมนต์ขลังเสมอสำหรับ “Balmain” ในคอลเลกชันล่าสุด “โอลิวิเยร์ รูสแตง” พาแฟนๆย้อนกลับไปสำรวจแฟชั่นยุคหลังสงครามโลก ยุคทองที่เต็มไปด้วยความสดใหม่ในการตีความ และความหรูหราเหนือระดับในแบบฉบับของห้องเสื้อฝรั่งเศส โชว์พลังสร้างสรรค์ครบทั้งในมิติของงานเทเลอริงอันคมกริบ, ซิลูเอตเป๊ะเว่อร์ที่ขับเน้นความโค้งเว้าของรูปร่างผู้หญิง, งานปักประดับแสนประณีต และโครงเสื้อเอกลักษณ์เฉพาะที่รังสรรค์ขึ้นโดยบัลแมง ซึ่งยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการออกแบบของห้องเสื้อขวัญใจพรมแดงฮอลลีวูดมาจนถึงปัจจุบัน

Balmain
Balmain
Dior
Dior

“ปารีส แฟชั่น วีก” จะสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าขาดการขับเคลื่อนของ “Dior” ภายใต้การนำของ “มาเรีย กราเซีย คิอูริ” ครีเอทีฟไดเรกเตอร์หญิงคนแรกของดิออร์ คอลเลกชันล่าสุดยังคงเดินหน้าเชิดชูพลังของผู้หญิงเก่งและแกร่งที่ไม่เคยเสียใจกับอะไรเลย โดยได้แรงบันดาลใจจากสุภาพสตรีในตำนานของฝรั่งเศสหลายคน รวมถึง “แคทเธอรีน ดิออร์” น้องสาวของ “คริสเตียน ดิออร์” ผู้เป็นอินสไปเรชันในการให้กำเนิดน้ำหอมรุ่นแรกของดิออร์อย่าง “Miss Dior” ขณะที่ความแกร่งทว่าสง่างามและอ่อนโยนของ “อีดิธ ปิยัฟ” นักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศสในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เจ้าของบทเพลง “La Vie en rose” และเพลง “Non, je ne regrette rien” ก็ตอกย้ำภาพลักษณ์ของดิออร์ยุคใหม่ให้แจ่มชัดขึ้น บางลุคของนางแบบถึงกับพิมพ์ลายคำว่า “Non, je ne regrette rien” (ฉันไม่เสียใจกับอะไรเลย) บนเสื้อด้วย ดิออร์ยังหยิบยืมแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณเสรีชนสุดเท่ของ “จูเลียต เกร็กโก” นักร้องและนักแสดงในตำนานของฝรั่งเศส ที่เคยถูกกุมขังในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยทหารเยอรมัน หลังจากได้รับอิสรภาพเธอลุกขึ้นสนับสนุนความเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างไม่เกรงกลัวใคร และกลายเป็นหัวหอกสำคัญของคลื่นวัฒนธรรมโบฮีเมียนในฝรั่งเศส.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

คุณกำลังดู: "ปารีส แฟชั่น วีก" ยุคเศรษฐกิจถดถอย สร้างสรรค์สุดพลังแค่ไหนก็ต้องเข้าถึงได้

หมวดหมู่: แฟชั่น

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด