“พีพี” ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เติบโตรับมือเรื่องต่างๆได้ดี สุดภูมิใจมากันไกลขนาดนี้

“พีพี” ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เติบโตรับมือเรื่องต่างๆได้ดี สุดภูมิใจมากันไกลขนาดนี้

นอกจากเพลง “Fire Boy” ของศิลปินมากความสามารถ “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกในสังกัด PP Krit Entertainment ของตัวเองจะได้รับกระแสตอบรับสุดปังและฮือฮาเหมือนทุกผลงาน ปีนี้ก็นับเป็นปีทองของพีพี ทั้งงานที่หลากหลายและการพิสูจน์ตัวเองกับการได้รับรางวัลจากหลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งล่าสุดที่พีพีพร้อม บิวกิ้น–พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล เพิ่งคว้ารางวัล AAA Asia Celebrity สาขานักแสดง เวที Asia Artist Awards 2022 เป็นการเติบโตอย่างสง่างาม “พีพี” เล่าเรื่องราวต่างๆเริ่มจาก...

กับเพลง “Fire Boy” ที่ทำวงการเพลงลุกเป็นไฟ

“เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 3 ของพีและเป็นซิงเกิลแรกภายใต้ PP Krit Entertainment ฟีดแบ็กดีมากๆแฟนๆ ให้การซัพพอร์ตที่ดีมากๆ จริงๆคำว่าไฟในเพลงเปรียบเหมือนความรัก ความรู้สึกว่าอย่ามาเล่นๆกับไฟนะ ร้อนๆ จะไม่ดี อย่าเล่นกับความรู้สึกเรานะ ดีใจครับที่สิ่งที่เราสื่อสารไปมีคนให้การตอบรับ”

ชีวิตจริงส่วนใหญ่เราเป็น “ไฟ” หรือเป็นคน “เล่นกับไฟ” มากกว่า?

“ชีวิตจริง เราก็เป็นคนเล่นไฟบ้างและก็เป็นไฟบ้าง ชีวิตก็มีความท้าทายบ้าง เป็นได้หมด (ยิ้ม) จริงๆพีว่าคำว่าไฟ คำว่าร้อนแรง มันแล้วแต่ว่าจริงๆแล้วเรากำลังรู้สึกอะไรอยู่”

มีส่วนไหนที่มันเป็นเรื่องราวของเรามั้ย?

“ก็จริงๆก็มาจากพี่ทอยครับ เรานั่งคุยกันสัมภาษณ์กันเค้าบอกว่าเราเห็นอะไรบางอย่างในตัวพีพี ที่เค้าอยากนิยามใช้คำว่าไฟ เลยได้เป็นเพลงนี้มา”

หลายคนเซอร์ไพรส์เคมีของพีพีกับเดอะทอยส์ ที่ทำหน้าที่โปรดิวซ์เพลงนี้มาบรรจบกันได้ยังไง?

“ก็ได้มาจากพี่เบล-สุพล ถามพีว่าอยากให้ใครมาทำเพลงถัดไปให้ ตอนแรกก็มีหลายชอยส์ เลยมาคิดว่าคนที่พีอยากให้มาร่วมงานตั้งแต่แรกแล้วคือพี่ทอย จนไทม์ไลน์มาเหมาะกันเลยได้ทำงานด้วยกันสักที พีชอบผลงานเค้าอยู่แล้ว และโทนต่างๆที่เค้าใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศร้า เพลงมีจังหวะ เค้าใช้คำน้อย แต่เป็นคำน้อยที่มันอิมแพกต์และตรงประเด็น”

เป็นความต่างที่มารวมแล้วลงล็อก?

“พีว่าตรงนี้นี่ล่ะครับคือการบาลานซ์ที่เราหากัน ตั้งแต่ตอนอัดและทำเพลงให้มีความเป็นพี่ทอยอยู่และเป็นพีพี เป็นความตั้งใจของทีมงาน การร้องก็เป็นช่องเสียงใหม่ที่พียังไม่เคยได้ใช้ หาช่องที่บาลานซ์โอเคที่สุดเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ท่าเต้นก็มีมูฟเมนต์หลายส่วนขึ้น”

เพลงนี้เป็นเพลงแรกของ PP Krit Entertainment ตื่นเต้นขนาดไหน?

“เป็นประสบการณ์ใหม่ของพีครับ ที่ผ่านมาเราอาจจะอยู่ในฐานะศิลปินคนนึงที่ทำงาน มีการเสนอไอเดียลงไปในเพลง มีส่วนร่วมในพาร์ตต่างๆ แต่ครั้งนี้เหมือนเรามาในฐานะเจ้าของบริษัทด้วย เราก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่างที่เราต้องเวิร์กมากขึ้น มานั่งดูดีเทลต่างๆมากขึ้น เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีได้ทำให้เราเรียนรู้ในพาร์ตเมเนจเมนต์ด้วย และพาร์ตการเป็นศิลปินด้วย จริงๆเราก็ลงไปดูในทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นโปรดักชันเราก็ลงไปเลือกทีมเอง เราเป็นคนตัดสินใจในพาร์ตเพลงเอง ฝั่งงบการเงินก็ดูเอง มีพี่เบล-สุพล ก็ Executive Producer ฝั่งเพลงและเป็นพาร์ตเนอร์กันใน PP Krit Entertainment ด้วย”

เรื่องการตัดสินใจเรื่องต่างๆล่ะยากขึ้นมั้ย?

“ก็ยากขึ้น แต่ก็มีพี่ๆในทีม PP Krit มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย แชร์ไอเดียกัน พีว่าพีโชคดีที่มีทีมที่ดีคอยเป็นแบ็กที่ดี”

ทำให้การทำงานของเราเปิดโลกใหม่ๆขึ้นด้วยมั้ยพอเราได้ตัดสินใจอะไรเอง?

“ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เราสร้างขึ้นเอง ก็เป็นความรับผิดชอบของเราเอง อะไรหลายๆอย่างมันก็เป็นความกดดันมากขึ้น พีมองว่ามันเป็นเรื่องสนุก เราได้เอาสิ่งที่เราได้เรียนมาจากมหาวิทยาลัยมาปรับใช้”

ความยากที่สุดของการทำบริษัทเอง?

“พีว่าตัวคอนเทนต์ของบริษัทนี่ล่ะครับที่เราต้องเป็นคนคุมและสร้างขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นอะไรหลายๆ อย่าง ความครีเอทีฟต่างๆก็ต้องมีการคิดเพื่อให้ตัวเราในฐานะศิลปินในค่ายด้วย เพราะปกติก็มีค่ายคิดมาเรามาเลือก แต่ตอนนี้เราก็มาคิดกันเอง”

ก่อนหน้านี้ได้อีกพาร์ตด้านสายแฟชั่น เป็นความสุขในอีกด้าน?

“พีมองว่าการแต่งตัวทุกๆวันหรือการทำอะไรมันก็เป็นความสุขส่วนตัวด้วยและเป็นอะไรที่พีรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ลงไปทำ เพราะมันหลากหลายมากๆ พีว่ามันทำให้ความครีเอทีฟบางอย่างของเราได้ออกมาผ่านชุดต่างๆเรื่องราวต่างๆ เสื้อผ้าไม่ได้มีแค่เอาไว้ใส่แต่มันสามารถเล่าเรื่อง ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆได้ด้วย มันก็คืออีกหนึ่งศาสตร์ศิลปะที่เรามีความสุขที่จะทำและสนุกไปกับมัน”

อยากมีก้าวต่อไปด้านแฟชั่นในทิศทางไหน?

“ตัวพีเองไม่ได้โฟกัสตรงจุดนั้นแต่ มองว่าตัวเองจะมีความสุขและสนุกกับมันไปได้มากยิ่งขึ้นขนาดไหน”

รู้สึกยังไงที่ความเป็น “พีพี” เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนมั่น ใจและเคารพตัวเองมากขึ้น?

“ดีใจครับที่แฟนๆให้การตอบรับพีดีมากๆ ไม่ว่าจะในด้านแฟชั่น ผลงานการแสดงหรือผลงานเพลงและดีใจมากที่สุดที่เราได้ไปเป็นแรงบันดาลใจให้บางคนได้ด้วย จริงๆแล้วเราไม่ได้คาดหวังว่าใครจะมองเราเป็นไอดอลเป็นแบบอย่าง ตัวพีเองพีทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในแบบที่พีมั่นใจที่สุด พีว่าแบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว ฟีดแบ็กต่างๆ เราก็ได้เห็นตลอด ทางทีมก็ส่งมาให้ดูดีใจครับที่เป็นส่วนนึงที่ทำให้บางคนได้ก้าวข้ามผ่านอะไรบางอย่าง และดีใจที่ผลงานที่เราทำแล้วมีแฟนๆให้เกียรติมันและเห็นคุณค่าของมัน”

กับบิวกิ้น–พุฒิพงศ์ ทุกครั้งที่ถาม เราทั้งคู่ก็สนับสนุนงานเพลงซึ่งกันและกัน?

“ใช่ครับ เพราะเราก็ใช้ทีมคล้ายๆกัน ก็ช่วยสนับสนุนกันอย่างนี้ต่อไป เพราะยังไงเราก็โตมาพร้อมๆกันอยู่แล้ว มีอะไรเราก็คุยปรึกษากันอยู่แล้ว”

เรื่องเพลงเรามีการแชร์แลกเปลี่ยนกันมั้ย?

“ในพาร์ตเพลงที่ต้องเป็นตัวตนของแต่ละคนอาจจะไม่ได้มีการไปแชร์ว่าเธอควรทำอย่างนี้ อย่างนั้นสิ แต่เป็นการซัพพอร์ตเค้ามากกว่าไม่ว่าเค้าจะทำเพลงออกมายังไงแบบไหน แต่สุดท้ายมันคือตัวตนของเค้า เราจะไม่แตะพาร์ตศิลปินของเค้า”

เค้าได้ฟังเพลงก่อนมั้ยหรือเซอร์ไพรส์พร้อมทุกคน?

“ก็มีได้ฟังก่อนครับ พอทำเพลงเสร็จเราก็มีการให้ฟังซึ่งกันและกัน คอมเมนต์กันว่าเราควรปรับกันยังไงช่วยเหลือกันยังไง”

ที่ผ่านมาได้เห็นเสมอว่าเราสองคนมีอารมณ์ร่วมกันในแต่ละสิ่งที่ทำร่วมกัน อย่างเช่นการที่พีพียกเค้กไปเซอร์ ไพรส์บิวกิ้น คนให้ก็ร้องไห้คนรับก็ร้อง?

“ก็เป็นอีกก้าวของเค้า เราก็ดีใจทุกๆครั้งที่เราประสบความสำเร็จ พีก็จะกลับไปมองย้อนตลอดว่าเราก็เดินทางมาพร้อมกันไกลได้มากขนาดนี้ เรามาไกลขนาดไหนแล้ว ทุกๆ ครั้งที่เห็นเค้าประสบความสำเร็จ มีผลงานใหม่ๆเราก็ยินดีและดีใจกับเค้า เป็นน้ำตาของความภูมิใจซึ่งกันและกัน อาจจะเพราะว่าเรารู้จักกันมานาน เวลาเรามองตาแล้วอีกคนนึงรู้สึกยังไงเราก็จะรู้กันอยู่แล้ว เราโต กันมาเห็นกันมานานมากๆและเราก็รู้ใจกัน”

พออยู่วงการนานขึ้น เจอเรื่องราวผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ถึงตอนนี้เราคิดว่าตัวเองรับมือได้ดีขึ้นมั้ย?

“ก็รู้สึกว่ารับมือได้ดีขึ้น อะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ที่ดี คอมเมนต์ที่ไม่ดี อันที่ดีเราก็เก็บมาเป็นกำลังใจให้เรา คอมเมนต์ที่ไม่ดีเราก็รู้สึกว่าจริงรึเปล่า ถ้าจริงเราก็ปรับแก้ตรงนั้น แต่ถ้าไม่จริง เราก็ต้องมองข้ามผ่านไป เพราะมันมีหลายฟีดแบ็กมาพีก็คงไปบังคับให้ใครมาชอบมารักเราตลอดเวลา หรือมาชอบเรามารักเราในทุกๆอย่างก็คงไม่ได้ เพราะคนเราโตมาแตกต่างกัน ต่างความคิดต่างสิ่งแวดล้อม แต่ตัวพีมองว่าเราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพในสิทธิของความเป็นคนซึ่งกันและกันและจะไม่ไปล้ำเส้นอะไรให้เค้ารู้สึกไม่ดี หรือไปคอมเมนต์ตอบกลับอะไร”

มันมีผลกระทบกับจิตใจเรามั้ยเวลาที่ใครก็ไม่รู้มาพูดอะไรไม่ดีถึงเรา?

“ถามว่ามีผลกระทบมั้ย อาจจะมีบ้าง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราอ่านอะไรพวกนี้แล้วเราจะไม่รู้สึกอะไรเลย มีมั้ยมันมีบ้างแต่มันก็อยู่กับวิธีการจัดการว่าเราจะจัดการกับความรู้สึกตัวเราเองยังไง ถ้าเราเอากลับมาคิดมันทำให้งานของเราดีขึ้นมั้ยช่วยอะไรรึเปล่า ก็ต้องมาพิจารณาว่าเราเป็นคนอย่างนั้นจริงรึเปล่า”

ดูเราจัดการได้ดี?

“พอเรายุ่งมากๆ เราก็จะรู้สึกว่าอะไรที่มันไม่จำเป็นเราก็ต้องข้ามผ่านมันไป ไม่งั้นเราก็คงไม่ได้โฟกัสงานอย่างอื่น ก็คงกลับมามองแต่อะไรก็ไม่รู้ที่มันไม่โพซิทีฟกับเรา”

ถึงตอนนี้คิดว่าตัวเองเติบโตขึ้นในด้านใดบ้าง?

“พีว่าในหลายๆอย่างในทุกๆแง่มุมเลย พีรู้สึกว่าจริงๆตั้งแต่เรามี PP Krit Entertainment ก็ถือเป็นอีกก้าวนึงที่ตัวพีเองได้เข้ามาทำในฐานะประธานบริษัทและฐานะศิลปินในค่าย เราก็มีมุมมองที่มันหลากหลายขึ้น เราก็ต้องวางแผนตัวเราในฐานะศิลปินในค่ายด้วยว่าเราจะไปในทิศทางไหน ด้านธุรกิจเราก็ได้มีโอกาสทำงานฝั่งโปรดักชันมากขึ้น เข้าใจในพื้นที่คนเบื้องหลังที่ได้ทำงานด้วยมากขึ้น”

ท่ามกลางงานยุ่ง ความสุขเล็กๆน้อยๆ ในแต่ละวันของพีพีคืออะไร?

“จริงๆพีว่าตั้งแต่เราตื่นมาเรามีแอตติจูดที่ดี เราอยากไปทำมันแค่นี้เราก็มีความสุขแล้วเพราะเราอยากทำมัน และอีกอย่างที่ไปทำงานทุกครั้งคือเราได้กำลังใจที่ดีจากแฟนคลับกลับมาเยอะมากๆ เราดีใจที่เค้าเห็นคุณค่าของผลงานของเรา พวกเค้าก็เป็นแรงบันดาลใจให้พีในการที่พีทำงาน เรียกว่าเป็นทั้งแรงบันดาลใจและกำลังใจครับ”

ปีนี้พีพีได้รับรางวัลมากมายเป็นการพิสูจน์ความสามารถ เราบอกอะไรกับตัวเอง?

“พีว่าหลายๆรางวัลหลายๆอย่างที่ได้มาจากการโหวตหรือจากคณะกรรมการเอง พีรู้สึกดีใจมากๆที่ปีนี้ได้รับรางวัลที่หลากหลาย จริงๆดีใจมากกว่าที่ทุกคนเห็นคุณค่าในผลงานที่พีทำและในความตั้งใจของทีมงานด้วย ดีใจมากๆที่แฟนคลับคอยให้การซัพพอร์ตพีมากขนาดนี้และเป็นการซัพพอร์ตที่ดีมาตลอดไม่ว่าจะเป็นผลงานด้านเพลงหรือการแสดงของพี รวมทั้งรางวัลล่าสุด Asia Artist Awards 2022 เหมือนเป็นการพิสูจน์อะไรหลายๆอย่างว่าภาษาหรือการแสดงออกไม่ได้เป็นกำแพงสำหรับเรา เราได้ก้าวข้ามผ่านไปทำให้คนในเอเชียหรือนอกเอเชียเข้าใจและเห็นคุณค่าในงานที่เราทำได้ครับ”

อย่างรางวัลที่ได้รับคู่กัน แชร์ความรู้สึกกับบิวกิ้นยังไง?

“เราแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกันอยู่แล้่ว ทุกๆรางวัลที่พีได้ ส่วนนึงมันมาจากตัวบิวกิ้นด้วย ทุกๆอย่างเราก็อยากจะให้เครดิตเค้าด้วยเหมือนกันว่าทุกๆวันนี้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดเราก็เติบโตมาพร้อมๆกันในทุกๆผลงาน อย่างด้านผลงานเพลงของพีทุกๆผลงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเพลงเดี่ยวก็จะมีบิวกิ้นอยู่ใน element ตรงนั้น เพราะมันคือเรื่องราวของพีพี พีรู้สึกว่าในทุกเรื่องราวของพีพีก็จะมีบิวกิ้นปนอยู่ในทุกผลงาน”

จากวันแรกที่พีพีเคยบอกว่าเป็นคนไม่มีแพชชันและไม่มั่นใจจนก้าวมาถึงจุดนี้ ภูมิใจแค่ไหน?

“ภูมิใจมากๆครับ ทุกๆผลงานพีภูมิใจกับตัวเองมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ทำมัน ได้ทำงานที่หลากหลาย พีรู้สึกว่าพีก็ก้าวข้ามผ่านอะไรหลายๆอย่างมามาก ทุกผลงานมากกว่าความภูมิใจในตัวเอง พีภูมิใจกับทีมงานที่อยู่ซัพพอร์ตเบื้องหลังและให้กำลังใจ พีมากกว่า เพราะเค้าเป็นคนที่เหนื่อยมากกว่าพี ถ้าให้เครดิตในแง่ความภูมิใจพีอยากให้เครดิตกับทีมงาน”

ก้าวต่อไปในปีหน้าแพลนงานในทิศทางไหน?

“ปีหน้าพีอยากพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นในหลายๆแง่มุม เพราะเรายังใหม่มากๆสำหรับวงการนี้ เพราะพีรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งมาทำงานวงการนี้แค่ 3 ปี ยังมีงานเพลงอะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่ได้ ลองในแง่การแสดงด้วย เราก็ได้รับบทบาทที่มันพัฒนามาจากตัวเรา พีก็อยากรับบทบาทใหม่ๆที่น่าสนใจและยากขึ้น อินเนอร์ต่างๆที่เรายังไม่เคยลองพวกนั้น”.

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย

คุณกำลังดู: “พีพี” ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เติบโตรับมือเรื่องต่างๆได้ดี สุดภูมิใจมากันไกลขนาดนี้

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด