พ่อพ่อ “บีม กวี” สุดแฮปปี้ ลูกแฝด 4 มาเติมเต็มความสุขในครอบครัว

พ่อพ่อ “บีม กวี” สุดแฮปปี้ ลูกแฝด 4 มาเติมเต็มความสุขในครอบครัว

“วันพ่อ” ปีนี้อบอุ่นกว่าทุกครั้ง บีม-กวี ตันจรารักษ์ นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม กลายเป็น “คุณพ่อลูกดก” สุดฮอต หลังสองแฝด พี่ธีร์และน้องพีร์ ขึ้นแท่น “ซุปตาร์ฟันน้ำนม” ขวัญใจมหาชน พี่ป้าน้าอาโดนตกโดยไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้ ออย-อฏิพรณ์ ภรรยา คลอดลูกแฝดหญิงเพิ่มอีกคู่ น้องอัยวา-เด็กหญิงอัยย์วาริน และน้องอัญญา-เด็กหญิงอัญญ์ญาริน ทำให้เป็นครอบครัวใหญ่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก “คนดังนั่งคุย” เปิดใจพ่อพ่อมาเล่าถึงทายาทที่เปรียบเป็นแก้วตาดวงใจกับวิธีการรับมือเลี้ยงลูกที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ติดตามได้ไม่น้อยเลย

ปีนี้เป็นคุณพ่อลูก 4 แล้ว

“ใช่ครับ เร็วมาก (ยิ้ม) คือจริงๆแพลนไว้อยู่แล้วเราจะมีลูกอีกคู่นึง ตอนแรกไม่ได้คิดเป็นคู่ๆหรอก ถ้าธีร์พีร์มาเป็นชายหญิงก็พอแล้ว พอดีเป็นชาย-ชาย ก็เลยคิดเราน่าจะมีลูกสาวสักคนนึง เรายังมีตัวอ่อนที่เก็บไว้ ถามว่าอยากได้ลูกสาวมั้ย ผมอยากมีให้ครบทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง อยากรู้เป็นยังไง คือผมอยากมีลูกชาย พอมีแล้วก็โอเค แต่ถ้ามีลูกสาวมาด้วยมันครบ ดูบริบูรณ์”

สถานการณ์ตอนนี้อลเวงขนาดไหน

“มีหลายจังหวะที่รู้ว่าคนไม่พอ (หัวเราะ) ช่วงนี้แฝดหญิงยังเป็นทารกแม่ยังต้องป้อนนมต้องปั๊มนมด้วย ดูแลตอนกลางคืน ออยรับหน้าที่ดูแลแฝดหญิง ส่วนผมก็ดูแลแฝดชายไป โชคดีอย่างนึงเค้าคุยรู้เรื่องไม่งอแงอะไรในการอยู่กับเรา อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่กับเราตั้งแต่เด็กด้วย ไม่ได้ต้องหม่ามี้อย่างเดียว รวมๆชีวิตไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมาก เรายังมีเวลาให้แฝดชายและแฝดหญิง ลูกชายตอนกลางคืนเค้านอนเป็นเวลา สามทุ่มเข้านอนแล้ว ตื่นมาอีกทีเช้าผมนอนกับเค้า เช้า 6 โมง เค้าก็จะเดินมาแล้วมาปลุกจะกินนมทุกวันนี้เค้าจะมาปลุกผมทุกวัน”

ทุกวันนี้แยกห้องนอนกับออย“ใช่ครับ เพราะ ว่าแฝดหญิงเค้ายังกินนมทุก 2-3 ชม.จะตื่นมาร้องไห้กินนม ถ้านอนด้วยกันหมด แฝดชายก็จะตื่นกลางคืนจะวุ่นวาย อลเวง เลยแยกดีกว่า จัดการง่าย”

คืนแรกที่แฝดชายต้องแยกห้องนอนกับหม่ามี้เป็นยังไงบ้าง มีตื่นมาร้องหาหม่ามี้มั้ย

“ไม่มีเลย ไม่มีปัญหาแบบนี้เลย อาจจะเป็นเพราะว่าเราพูดปูให้เค้าฟังตลอดว่าหม่ามี้มีน้องนะ ให้เค้ามาจับให้เขารู้สึกถึงการมีน้อง พอถึงเวลามีจริงๆกลับบ้านปุ๊บ โอเค เดี๋ยวหนูนอนกับพ่อนะ เขาเลยไม่ขาดความรัก กลางวันอ้อนแม่ได้อยู่ บางวันตื่นมาก็จะบอกอยากไปหาหม่ามี้ ผมพาเดินไปหา เค้าก็เข้าไปกอดหม่ามี้แป๊บนึงแล้วกลับมากินนมนอนต่อได้”

ตอนแรกหนักใจในเรื่องการรับมือขนาดไหนเพราะพี่ธีร์กับน้องพีร์ เขาเริ่มโต ความแสบ ซนมาครบแล้ว

“จริงๆ จะมีเรื่องต่อต้านนิดนึง ยิ่งน้องพีร์แสดงออกเยอะ เขาสนุกด้วยแหละ (หัวเราะ) เวลาผู้ใหญ่ทำหน้าลำบากใจ หงุดหงิดเขาจะหัวเราะ แฮปปี้เหมือนเค้าเป็นผู้ชนะ ห้ามเล่นอันนี้นะ อุ้ย! พับพีร์ยังเล่นอยู่เลย” เวลาบีมทำเสียงเข้มๆ เจอพับพีร์พูดบีมก็จะแพ้ทางลูกหลุดขำตลอด “ใช่ๆ เราก็จะแพ้ทาง รู้สึกว่าลูกน่ารัก ขนาดทำเสียงเข้มเค้าก็ยังไม่กลัวผม ผมเป็นพ่อค่อนข้างใจดี” เวลาดื้อๆ เคยตีลูกบ้างมั้ย “ไม่เคยเลยครับ ชีวิตนี้ไม่เคยตีลูกมาก่อน ออยก็ไม่เคยตีลูกนะ แต่แปลกมากพับพีร์จะพูดเดี๋ยวหม่ามี้ตีเลยนะ แต่ไม่เคยตีสักครั้งเดียว”

คนจะเข้าใจออยสายโหดแน่ๆ ลูกเลยกลัวหม่ามี้

“ไม่มีเลย ช่วงแรกเวลาทำโทษจะกอดเค้ารัดเค้าแล้วนับเลขไปด้วย 1-20 พอเสร็จก็จะถามว่าสำนึกผิดหรือยัง ขอโทษหรือยัง จะทำอีกมั้ย เขาบอกไม่ทำแต่อีกสักพัก เขาก็ทำอีก (หัวเราะ) หลังๆเริ่มไม่กลัว กลายเป็นสนุกไป หลังๆพาไปเข้าห้องมืด มีห้องที่เราใช้รีดผ้าแต่เราไม่ได้ให้เค้าอยู่คนเดียว แม่เค้าเข้าไปด้วย ไม่เปิดไฟ ห้องจะมืดมากเค้าก็กลัวแต่เราก็จับมือเค้าไว้แหละ ทำโทษเค้าอันนี้ขั้นแรงสุด บางทีก็ให้หันหน้าคนเดียวเดี๋ยวไม่คุยด้วย ยิ่งพีร์แสดงออกมากเพราะเขาชอบคุยกับผู้ใหญ่ ชอบอยู่กับผู้ใหญ่ ก็จะรู้สึกเยอะ จะเป็นเค้าคนเดียวที่ซนมากๆ หน่อยพี่ธีร์ไม่ค่อยซน พี่ธีร์จะเป็นคนสวีตๆ จะเล่นอะไร น่ารักๆ เขามีสมาธิ แปลกมากลูกสองคนนิสัยไม่เหมือนกันเลย จริงๆ เราก็เลี้ยงเขาเหมือนกัน นิสัยต่างกันมาก ผมว่าก็มาจากนิสัยของเราสองคนนี่แหละ”

จากนั้น บีมหันไปถามออย “เธอว่าพี่ธีร์นิสัยเหมือนใคร?”

ออยตอบว่า “เหมือนออย (หัวเราะ) เรื่องเยอะ เป็นคนมีฟอร์ม ถ้าทำผิดจะไม่ยอมรับผิด ถ้าบอกผิดไม่ยอมเลย มีเส้นชัดเจน ไม่ล้ำเส้นใครและไม่ให้ใครล้ำเส้นด้วย” บีมกล่าวเสริม “พี่ธีร์จะเป็นคนมีระเบียบ ส่วนพับพีร์ก็ไม่เหมือนผม ผ่าเหล่า ผมเป็นคนเรียบร้อย จริงๆ เหมือนแหละ (หัวเราะ)”

สมัยเด็กๆเราเฮี้ยวแบบนี้มั้ย“ผมไม่นะ แต่พีร์เฮี้ยวมากแปลกมากเลย แต่ฉลาดมากในการใช้คำพูด เรามีลูกสองคนก็จะรู้คนนี้เด่นมากเรื่องนี้ พี่ธีร์ตามวัย แต่น้องพีร์หัวไวมาก อย่างผู้ใหญ่คุยกันเขาจะจับคำพูดแล้ว อีกสักพักพอมีบริบทใช้คำนี้ได้เขาจะใช้แล้ว”

พับพีร์จะมีมุมเป็นเด็กเสียสละไม่แย่งของกันเล่น“อ่อ ใช่ครับ แต่ไม่ได้สอนให้เขาต้องเสียสละขนาดนั้น แต่มันมาจากจิตสำนึกของเค้าเองหรืออะไรที่เขารู้สึกอยากทำแบบนั้นเอง”

หลายๆ เรื่องพี่ธีร์จะต้องได้

“ใช่ๆ พี่ธีร์นิสัยเหมือนออย เรามองเขาเข้าใจนะ อันนี้เป็นสิทธิ์ของฉันก็เป็นของฉัน แต่น้องพีร์เฮฮาปาร์ตี้ อะลุ้มอล่วยแต่บางทีมีข้อจำกัดเหมือนกัน เราไม่ได้อยากให้น้องต้องยอมพี่ธีร์ตลอดเวลาหรอก บางทีมากเกินไป น้องพีร์ไม่แฮปปี้เราก็จะห้ามพี่ธีร์ บางทีสิ่งที่น้องพีร์ขอเป็นเพราะพี่ธีร์อยากได้แล้วเค้าจะแกล้ง เช่น เขาแบ่งตั้งแต่ต้นรถสีแดงของน้องพีร์ รถสีฟ้าของพี่ธีร์นะ คือพีร์เล่นของเล่นอะไรจะสนุกกับมันมาก น้องพีร์ จะอยากแกล้งพี่ น้องพีร์อยากเล่นรถสีฟ้าบ้าง เราเคลียร์กันแล้วไง ก็ต้องทำความเข้าใจ เลี้ยงลูกเป็นอะไรที่ไม่มีผิดหรือถูกชัดเจนแล้วแต่จังหวะ แล้วแต่สถานการณ์ในการจัดการ เราจะสอนลูกในสิ่งนี้”

แฝดพี่ชายดูรักน้องแฝด พยายามเล่นกับน้องด้วย

“อ่อๆ อันนั้นแค่คลิปที่เราถ่ายมาให้ดูครับ (หัวเราะ) ตัดมาแนวน่ารัก ชีวิตธรรมดาก็มีจังหวะที่เขาเล่นกันเองไม่ได้มาอะไรกับน้องขนาดนั้นแต่เราอยากมีมุมดีๆให้คนได้เห็นเวลาพี่สนใจน้อง ให้เขามีส่วนร่วม มันน่ารักยังไง ปกติพี่ชายเล่นกันสองคนอีกอย่างถ้าการมายุ่งกับน้องมากๆ ทำให้การเลี้ยงน้องลำบากไปด้วยเพราะพีร์ป่วนมาก บางทีจะเอาของเล่นมาให้น้อง จะถามนี่มันอะไร จะจิ้มๆ อันนี้น้องผมยังไม่ขึ้นเหรอ ดูขาสิ อัญญาจับแขนน้องพีร์ด้วย พี่มาโอ๋แล้วนะ บางทีเขาเห็นเราทำโอ๋ลูกสาวเขาจะเลียนแบบ”

ย้อนวัยตอนหนึ่งเดือนเท่าๆ กัน แฝดคู่ไหนเลี้ยงง่ายกว่ากัน

“จริงๆคล้ายกัน มีความรู้สึกแฝดสาวเรียบร้อยกว่า แฝดชายร้องเยอะกว่า ต้องถามแม่เค้าดู” พร้อมหันมาถามออยทันที โดยหม่ามี้ออยยืนยันพีร์ร้องเยอะกว่า บีมเล่าต่อว่า “อาจจะเป็นเพราะเรามือใหม่ยังจัดการไม่ได้ด้วยแหละเรายังไม่รู้เขาต้องการอะไร บางทีเราก็เดาไม่ออก” ออย “ถึงขั้นจดเลยนะทำอะไรกี่โมง อะไรไม่ใช่ติ๊กออกก็ยังร้องถึงขั้นต้องคุยกับแม่ซื้อ อย่าแกล้งน้อง ฟังจากป้าๆช่วยเลี้ยง วันพระ วันโกนจะร้องเยอะ ก็จะมีวิธีนี้จัดการยังไงไม่ให้ร้อง เป็นความรู้ใหม่ แต่เป็นความเชื่อนะคะ”

พับพีร์คัฟเวอร์เพลงซ่าส์ สั่นๆ บีมรู้สึกยังไงบ้าง

บีม “ใช่ๆ”

ออย “เขาร้องภาษามนุษย์ต่างดาว เราไม่รู้ว่าเป็นคำว่าอะไร บีมมาจับได้จังหวะ นางได้เมโลดี้ บีมเลยถามร้องเพลงพ่อ
เหรอลูก แต่ร้องไม่เป็นภาษานะ”

บีมกล่าว “จังหวะได้ถึงขนาดเฟซบุ๊กแจ้งเตือน ว่าติดลิขสิทธิ์นะ คือผมใช้เป็นเพจลูกไลฟ์ด้วยแหละ ผมเคยถ่ายคลิปเพลงตัวเองลงในเพจตัวเองก็ไม่ติดลิขสิทธิ์ เหมือนอาร์เอสเขาเปิดโอกาสให้ศิลปิน แต่พอเป็นเพจลูกไม่ใช่ศิลปินอาร์เอสไง เพจผมเองเคยตัดเพลง ผมเองก็ไม่โดนอะไร ต่อไปถ้าให้ลูกร้องเพลงจะให้มาร้องในเพจของผมแล้ว ลองดูได้หรือไม่ได้”

แฝดได้สายเลือดศิลปินจากพ่อพ่อ คนนึงเต้นคนนึงร้อง“ช่วงหลังๆแฝดก็เต้นแล้ว รู้ว่าเป็นเพลงของผมเอง ซ่าส์ สั่นๆ พี่ธีร์ การใช้ร่างกายออกกำลังกายจะเก่งกว่าน้องพีร์ ส่วนน้องพีร์จะเป็นเรื่องการพูด ร้องเพลงจะเก่งกว่า”

สนับสนุนผลักดันเข้าวงการเป็นศิลปินตามรอยพ่อมั้ย“ไม่ครับ เอาจริงๆมีคนติดต่อมานะ ติดต่อผ่านป้าเอ็ม ผู้จัดการส่วนตัว มาเหมือนกัน อยากเอาน้องพีร์เข้าสังกัดอะคาเดมี อยากพาไปเรียนตอนนี้ เซ็นสัญญาไว้ก่อนเลย ผมรู้สึกว่าให้เขาโตแล้วตัดสินใจด้วยตนเองดีกว่าว่าเขาอยากจะทำอะไร"

ยิ่งมีลูกยิ่งหนุนดวงพ่อให้ปังขึ้น งานเข้า มาแน่นไปอีก

“ผมคิดว่าเขามาพร้อมสิ่งที่จะเป็นของเค้า กิจกรรมใดๆทำกับเขามีเงิน มีรายได้เก็บไว้ให้เขาเพื่อเป็นทุนการศึกษาในอนาคต เราเป็นคนบริหารเก็บรักษาแต่ต่อยอด ก่อนหน้าผมกับออยไม่ได้ลำบากอะไรชีวิตก็อยู่ได้อยู่แล้ว หลังจากมีลูกมีงานเข้ามา มีรายได้เข้ามาตรงนั้น เขาคงส่งมาให้ดูแลลูก 4 คนมากกว่า เราจะมีความรู้สึกแบบนั้น ไม่ได้คิดต้องกอบโกยขนาดนั้น อย่างที่พูดถ้าไม่ได้เป็นการสร้างความรับผิดชอบ เหมือนเราเอาอิฐไปวางบนบ่าเค้าเราไม่ทำแบบนั้น บ้านเราไม่ได้เดือดร้อนแต่มีโอกาสเข้ามาเราก็ทำเตรียมเอาไว้ให้เขานั่นแหละ”

ตอนนี้ลูกสี่คนแล้วหยุดแค่นี้หรือยังมีไปต่อ

“พอแล้วครับ ไม่แล้ว ตอนแรกเราคิดว่า 3 คนก็ได้แต่ว่าอย่างที่บอกตัวอ่อนมันมีเหลืออยู่ ออยเขาเป็นคนขี้สงสาร เขาไม่อยากทิ้งเหมือนลูกเนอะ ถึงแม้เขายังไม่ได้เกิดเหมือนเป็นลูกเรา ลองดูถ้าติดแค่หนึ่งไม่เป็นไร เราก็คงไม่ใส่เพิ่มแล้วล่ะพอดีติดสองมาเป็น 4 คน แล้วเราก็อยากมีลูกหลายๆคนรู้สึกว่าอบอุ่นด้วยความที่ครอบครัวผมเลี้ยงลูกมาแบบนี้ด้วย ครอบครัวออยเป็นแบบนั้นด้วย มันอบอุ่นและช่วยกันคิดดี ไม่ต้องออกไปสุข ใดๆ ที่อยู่ข้างนอกเลย ก็ 4 คนพอแล้วครับ”

ทางแดน-วรเวช ได้สัมภาษณ์เกทับมีลูก 5 คน เรายังไงดี“มีให้ได้ก่อนคนนึง (หัวเราะ) เขามาถามเหมือนกัน วันก่อนแพตตี้มานั่งคุยกับออยอยู่ตั้งนาน ถ้าจะมีลูกเป็นยังไง ผมคุยกับแดนมีแล้วเป็นแบบนี้ ความรู้สึกเป็นแบบไหน แต่ช่วงนี้มีดาราหลายคนที่รู้สึกแพลนอยากเตรียมการมีในอนาคตก็ถามมาหลายคนหลังไมค์”

พ่อพ่อกลายเป็นกูรูเรื่องมีบุตรไปแล้ว“ไม่เชิง แต่เป็นคนคิดถึงขอคำปรึกษาได้ ข้อมูลแน่นมาก แต่ออยเป็นคนเก็บรายละเอียดครับ”

ตอนนี้มีแฝด 4 คนแล้ว บีมต้องแบ่งเวลางานกับครอบครัวยังไงบ้าง

“แล้วเรื่องงานเราจะต้องแบ่งสัดส่วนกันขนาดไหน ช่วงนี้ในวงการละคร เพลง แทบจะไม่ได้ทำ ส่วนใหญ่จะเป็นงานออนไลน์มากกว่า งานละครเรารอบทที่เราชอบจริงๆ เพราะว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ด้วยความท้องที่แล้วเราไม่มีเวลาอยู่กับเขาเลย เราเตรียมคอนเสิร์ตใหญ่ จริงๆปีนี้ก็จะมีแต่เราขอกับทางอาร์เอสเลื่อนไปก่อน ช่วง 3 เดือนแรกของเบบี๋ลูกสาว เราอยากมีเวลาให้เค้าเต็มที่ เพราะฉะนั้นช่วงนี้งานใดๆ ถ้าไม่ใช่งานที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวหรืออยู่ด้วยกันก็จะไม่รับเลย แต่ปีหน้ามีงานละครติดต่อมาก็น่าจะเริ่มรับแล้ว ขอพ้น 3 เดือนไปก่อน ช่วงนี้ งานวงการเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน มีลูกค้าติดต่อเข้ามา เขาอยากได้เรียลง่ายๆ อยู่กับบ้านก็เลยเป็นการทำงานค่อนข้างง่ายและได้ดูแลรอบครัวด้วย พูดตรงๆลูกชายนำพามาให้แหละ ก่อนเค้าเกิดจะลูบท้องออยแล้วบอกหยิบซาลาเปามาด้วยนะลูก เป็นความเชื่อคนจีนให้ลูกหยิบซาลาเปา ก็คือความอุดมสมบูรณ์ เค้าก็นำพาความสมบูรณ์มาให้ครอบครัว หลายๆ คนมีคำถามว่ามีลูกเพื่อให้เค้ามาเลี้ยงเราหรือเปล่า คือจริงๆเราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย อยากให้โอกาสได้มีคนที่มีความดีมาเกิดด้วยกัน มาสะสมบุญด้วยกัน มาอยู่ในครอบครัว ทำความดีไปด้วยกัน ถ้าเราคิดแบบนี้ทำให้การมีลูกแฮปปี้ขึ้นนะ เป็นการเติมความสุข ไม่ได้บอกว่าเราต้องให้ลูกอย่างเดียว กีฟแอนด์เทกได้ทุกอย่าง ถ้าบอกเป็นพ่อแม่ให้ลูกอย่างเดียว มันอะไรบางอย่างที่ลูกตอบแทนเรากลับมาอาจจะเป็นเรื่องจิตใจที่มันฟูหรือเรื่องช่วยกันทำงานดูแลบ้าน เป็นครอบครัวครับ”.

สถานที่ : Nana Coffee Roasters Bangna

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

คุณกำลังดู: พ่อพ่อ “บีม กวี” สุดแฮปปี้ ลูกแฝด 4 มาเติมเต็มความสุขในครอบครัว

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด