ประวัติที่มา เมนูข้าวเหนียวมะม่วง (Mango Sticky Rice) เป็นของประเทศอะไร

ข้าวเหนียวมะม่วง Mango Sticky Rice เป็นเมนูที่ได้รับการค้นหามากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 65 ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วคนไทยหันมาอยากกินผลไม้ประจำฤดูกาล #milliliveatcoachella

ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango Sticky Rice) กลายเป็นเมนูที่ได้รับการค้นหามากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วคนไทยหันมาอยากกินผลไม้ประจำฤดูกาล แต่มาจากกระแสแฮชแท็กในทวิตเตอร์#milliliveatcoachella ที่ MILLI ศิลปินเดี่ยวไทยคนแรกที่ก้าวขึ้นเวที Coachella 2022 หรือ เทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาวัลเลย์ 2022 แคลิฟอร์เนียร์ สหรัฐอเมริกา ได้นำ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ขึ้นโชว์ด้วย

การนำข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นโปรโมตเพลง Mango sticky rice เกิดเป็นคำถามในใจใครหลายคนว่า “ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของประเทศอะไร” เพราะเนื้อหาเพลงแร็ปบนเวทีนอกจากเล่าชีวิตในประเทศไทยแล้ว ยังแสดงพลัง Soft Power ว่ามีหลายสิ่งที่บ่งบอกความเป็นไทย และบางสิ่งที่ถูกเข้าใจผิด

ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของประเทศอะไร

เมื่อเพลงกระแส “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นที่สนใจ ทำให้เมนูนี้ได้รับการค้นหามากที่สุดในช่วงข้ามคืนวันที่ 17 เมษายน 2565 และข้อมูลที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้อย่างเว็บไซต์ wikipedia ระบุว่า เมนู “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นของหวานที่พบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) และเอเชียใต้ (South Asia)

แต่อย่างไรก็ดี เว็บไซต์สารานุกรมดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ใครต่อใครเข้าไปอัปเดตข้อมูลก็ได้ จึงยังขาดความน่าเชื่อถือทางวิชาการ ในอ้างอิงของ wikipedia พบว่า มีบันทึกของมิชชันนารีที่เดินทางมายังพื้นที่อุษาคเนย์ในปี ค.ศ.1876 หรือตรงกับ พ.ศ.2419 ได้กล่าวถึงข้าวที่กินกับผลไม้ เป็นอาหารในพิธีกรรมอย่างหนึ่งของประเทศลาว ซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของที่มาข้าวเหนียวมะม่วง

ที่มาข้าวเหนียวมะม่วงในประเทศไทย

ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นของหวานที่นิยมในไทยตั้งแต่สมัยปลายอยุธยา และช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ตามบันทึกในโคลงกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน บทประพันธ์ในรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนคิด แต่ปัจจุบันข้าวเหนียวมะม่วงเป็นที่รู้จักว่าเป็นอาหารไทย ผ่านการจัดอันดับของ Jen Rose Smith เชฟขนมหวาน นักชิมจาก CNN ในปี พ.ศ.2561

ประโยชน์ข้าวเหนียวมะม่วง

เมนูข้าวเหนียวมะม่วง ให้พลังงาน ไขมัน และใยอาหารสูง มีวิตามินหลายชนิด ช่วยให้ร่างกายสดชื่น และให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย นิยมรับประทานในฤดูร้อน เพราะร่างกายสูญเสียพลังงานไปกับความร้อน และเป็นฤดูกาลมะม่วงพอดี

ข้าวเหนียวมะม่วงกี่แคล

ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ หรือมะม่วงอื่นๆ ที่นำมารับประทานในเมนูข้าวเหนียวมะม่วง รวมๆ แล้วจะให้พลังงาน 200- 350 กิโลแคลอรีต่อจาน (คิดจาก 100 กรัม) หรือประมาณข้าวมันไก่ครึ่งจาน เพราะฉะนั้นข้าวเหนียวมะม่วงเป็นเมนูของหวานที่ให้พลังงานสูง และความหวานรวมกะทิของเมนูนี้เทียบเท่ากับน้ำตาล 5-6 ช้อนชา ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่ร่างกายควรได้รับน้ำตาลต่อวัน ดังนั้นแบ่งกินเป็นมื้อแต่พออร่อย อย่ารับประทานเยอะเกินไป

กะทิต้องราดที่ข้าวเหนียว หรือที่มะม่วงก่อน

คอข้าวเหนียวมะม่วงถกเถียงกันมาตลอดว่า ระหว่างมะม่วง กับข้าวเหนียว ต้องราดกะทิที่ข้าวเหนียว หรือที่มะม่วง เรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันตลอดทุกยุคทุกสมัย อย่างไรก็ดี การราดกะทิน่าจะขึ้นอยู่กับความชอบ แม้ฝั่งคนราดข้าวเหนียวจะบอกว่ามะม่วงจะไม่ซึมน้ำกะทิได้เหมือนข้าวเหนียว แต่คอมะม่วงก็อยากราดน้ำกะทิบนมะม่วงอยู่ดี

ที่มา : The Foreign Missionary, Mission House 1876

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 30 ขนมไทย สวยงามน่ารับประทานราวออกจากครัวท้าวทองกีบม้า

คุณกำลังดู: ประวัติที่มา เมนูข้าวเหนียวมะม่วง (Mango Sticky Rice) เป็นของประเทศอะไร

หมวดหมู่: วัฒนธรรม