รับมือโรคซึมเศร้าในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องรีบจัดการ
พ่อแม่หลายท่านมักจะกังวลว่าเมื่อลูกเราโตขึ้นจนกระทั่งเริ่มเข้าสู่วัยเรียน อาจมีการปรับตัวเข้าสู่สังคม การใช้ชีวิตของลูกเราจะเป็นอย่างไรบ้าง บางครั้งลูกๆ อาจพบความเครียดจนกระทั่งความเครียดสะสม มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูด ก็ทำให้พ่อแม่กังวลใจไม่น้อย
ด้วยความเข้าใจในความวิตกนี้ พญ.กมลวิสาข์ เตชะพูลผล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวชศาสตร์ สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2 จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์เรื่องโรคซึมเศร้าในเด็ก เพื่อให้พ่อแม่สามารถสังเกตลูกของตัวเองได้ เป็นการรับมือให้ทันกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของลูกน้อย
ลูกแค่เศร้า...หรือเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” กันแน่!
โรคซึมเศร้า (depression) เป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง
ที่อารมณ์ซึมเศร้าจะมีมากกว่าปกติ
คือมีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเกือบทั้งวัน ติดต่อกันทุกวันนานเกิน 2
สัปดาห์
โดยเมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า...จะมีอาการดังต่อไปนี้
· มีอารมณ์ที่ซึมเศร้าลง เบื่อหน่ายมากขึ้น
หรือบางรายอาจมีอารมณ์หงุดหงิด
· ไม่มีความสุขความเพลิดเพลินเมื่อทำกิจกรรมที่ชอบ
· ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลดลง
หรือในขณะที่บางรายก็ทานอาหารมากเกินไป
· นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นเร็วกว่าปกติ
ในขณะที่บางรายนอนทั้งวัน เฉื่อยชาไม่มีสมาธิในการเรียน
ความจำแย่ลง
· รู้สึกผิด โทษตัวเอง รู้สึกไร้ค่า
· อยากฆ่าตัวตาย
สาเหตุของโรคซึมเศร้าในเด็ก มักประกอบไปด้วย
ทางชีวภาพ เกิดจาก
· พันธุกรรม ถ้ามีประวัติโรคซึมเศร้าในครอบครัว
ก็จะทำให้เด็กมีโอกาสป่วยด้วยโรคซึมเศร้า มากกว่าเด็กทั่วไป
· ยาบางชนิดสามารถทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ เช่น ยาเคมีบำบัด
ยาลดความดัน สารเสพติด เป็นต้น
· โรคบางชนิด เช่นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เป็นต้น
ทางสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
สาเหตุของโรคซึมเศร้าในเด็กจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ประกอบไปด้วย
ความเครียด ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาในครอบครัว การทะเลาะกับแฟน
ผลการเรียนตกต่ำ การคบเพื่อน ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งเสมอๆ
หรือรู้สึกไม่ชอบ กลัว กังวล กับบุคคลรอบข้าง
หรือเด็กขาดความมั่นใจในตนเอง กลัวการแข่งขัน
พ่อ แม่ ควรสังเกตอาการลูกด้วยตนเอง..ก่อนสายเกินแก้
· เด็กเริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูดเหมือนก่อน
· เศร้า ร้องไห้ หงุดหงิดง่าย ทำอะไรก็ผิดหูผิดตา หงุดหงิดไปซะหมด
· ไม่ชอบทำกิจกรรมที่เคยชอบทำมาก่อน เช่นชอบวาดรูป
แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว
· ไม่อยากทำอะไรเลย นอนทั้งวัน แอบร้องไห้คนเดียว
· บ่นอยากตาย
วิธีรับมือ...เมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า
· พ่อแม่ควรหมั่นพูดคุยกับลูก สังเกตพฤติกรรม
สอบถามอาการสารทุกข์สุกดิบ ถามถึงความสุขของลูก
เพื่อช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้น ก่อนที่ลูกจะตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า
· การทำกิจกรรมร่วมกับลูก ไปทำกิจกรรมใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ
เพื่อให้เด็กมีความสุขเพิ่มขึ้น
แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่ทำให้แย่ลงไปกว่าเดิม
· พูดคุยกับลูกโดยเหตุและผล ไม่ใช้อารมณ์
ให้ความเอาใจใส่และความอบอุ่นแก่ลูกอยู่เสมอ
เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เร่งรัด
ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด
· คอยสำรวจพฤติกรรม
หรือขอความช่วยเหลือจากคุณครูให้ช่วยสอดส่องพฤติกรรมของลูก
และเปิดเผยพูดคุยกับคุณครูเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาของลูกที่พบที่บ้านและโรงเรียน
เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
เมื่อมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยเหลือดูแลเด็กแล้วหากอาการไม่ดีขึ้น
ควรปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วนเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
บทความโดย : พญ.กมลวิสาข์ เตชะพูลผล
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวชศาสตร์สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2
คุณกำลังดู: รับมือโรคซึมเศร้าในเด็ก ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องรีบจัดการ
หมวดหมู่: แม่และเด็ก