สัมผัสแรกขับโคตรดี รถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL ชาร์จเต็มวิ่งไกล 650-700 กม. คาด เข้าไทยเร็วๆนี้

BYD SEAL Long range version มอเตอร์ไฟฟ้าขับหลัง 306 แรงม้า 360 นิวตันเมตร 0-100 ใน 5.8 วินาที ชาร์จเต็มลากยาว 550-700 กิโลเมตร ลุ้นเข้าไทยเอาใจสายซิ่งพลังไฟฟ้า

สัมผัสแรกขับโคตรดี รถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL ชาร์จเต็มวิ่งไกล 650-700 กม. คาด เข้าไทยเร็วๆนี้

รถยนต์ไฟฟ้า BYD Sealหรือชื่อในตลาดส่งออกเรียกว่า BYD Atto 4 ซึ่งขายในจีน และต่างประเทศอย่างออสเตรเลีย โดยมีการคาดกันว่า Seal น่าจะเข้ามาขายในไทยเร็วๆนี้ เนื่องจากเป็นรถที่อยู่ในความสนใจของผู้คนจำนวนมากที่อยากเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายในไปเป็นรถไฟฟ้า ปี 2566 เป็นปีที่ BYD เริ่มรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างหนัก Seal Electric จึงเป็นส่วนหนึ่งของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคตของแบรนด์ BYD ที่มุ่งสู่ตลาดโลกที่อยู่ในกลุ่มธีม 'Ocean' หรือ ทะเล การส่งออกในต้นปี 2566 คาดว่าน่าจะมีประเทศไทยอยู่ในแผนการทำตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า BYD เนื่องจากเชิญสื่อมวลชนไปทดลองขับสั้นๆ ที่สนามปทุมธานีสปีดเวย์

Seal Long range version คันทดสอบที่วิศวกรของ BYD แจ้งว่า วิ่งไกลถึง 700 กิโลเมตร อยู่ในกลุ่มซีดานไฟฟ้า มิติตัวถังมีขนาดใกล้เคียงกับ BMW Series-3 และ Mercedes-Benz C-Class Tesla Model 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และชุดแบตเตอรี่แบบใหม่ รถคันทดสอบ เป็นรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับหลัง 308 แรงม้า ชาร์จเต็มเคลมว่าวิ่งไกลถึง 700 กิโลเมตร สำหรับเป้าหมายในการเอาชนะรถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่งของ Seal ก็คือ รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมอย่าง Tesla Model 3 โดยมุ่งเป้าไปที่การทำราคาของ BYD Seal ให้มีค่าตัวที่ย่อมเยากว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดฮิตของ Tesla ปรับแต่งไดนามิกจนออกมาดี โดยเฉพาะการตอบสนองของมอเตอร์ ช่วงล่าง ชุดบังคับเลี้ยว และระบบเบรก นอกจากนี้ Seal ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายและความสามารถในการขับใช้งานแบบรถยนต์ซีดานไซล์กะทัดรัด การกำหนดราคาของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ น่าจะถูกกว่า SUV ไฟฟ้าขนาดกลางของแบรนด์ ซึ่งคาดกันว่า หากเข้ามาทำตลาดในไทย จะอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท หรือมากกว่าเล็กน้อย

Sela ใช้แนวทางการออกแบบภายนอกที่เน้นรูปทรงของตัวถังที่มีความโค้งมน เชื่อมโยงกับระบบอากาศพลศาสตร์เพื่อลดแรงต้านทานของกระแสอากาศที่จะส่งผลถึงการใช้พลังงานที่น้อยลงเมื่อตัวถังมีความลู่ลม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบแนวคิด BYD Ocean X ลักษณะการออกแบบที่น่ามองก็คือ สัดส่วนที่สปอร์ตของตัวรถ โดยเฉพาะส่วนท้ายที่ลงตัวจากความโค้งของเสาท้ายที่มีดีไซน์บางเฉียบ ด้านหน้าของ BYD Seal ออกแบบกันชนหน้าทรงต่ำ ไฟหน้า LED เพรียวบางพร้อมส่วนต่อขยายรูปตัว C ช่องอากาศด้านข้างเอียงรับในแนวตั้งในการออกแบบอย่างมีศิลปะ และช่องดูดอากาศล่างขนาดกะทัดรัดรูปตัว A ไฟหน้า LED ทรงโฉบเฉี่ยว กันชนหน้าตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำเงา ล้ออัลลอยลายกงจักรสีดำสลับสีเงิน ใส่ยาง continental sport contact 7 ไซล์ 235/45R19 Y

กระจกรอบคันรูปทรงโค้งมน มือจับประตูแบบเรียบ การออกแบบเส้นสายที่นุ่มนวลของด้านข้าง ลวดลายคล้ายหยดน้ำบนเสา C ส่วนเสริมคล้ายเหงือกปลาฉลามที่บริเวณแก้มข้าง ไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้างที่คล้ายกับ Mercedes EQE ช่องระบายอากาศด้านข้างแนวตั้ง กันชนหลังมีครีบดิฟฟิวเซอร์ ไฟถอยหลังแบบแยกตำแหน่งที่วางเคียงข้างไฟตัดหมอกหลัง โดยภาพรวม รูปลักษณ์ของ BYD Seal สวยงามใช้ได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Tesla Model 3 และ Nio ET5 ภายนอกถูกขัดเกลาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลดีต่อการใช้พลังงานและความสะดวกสบายของห้องโดยสาร มีแนวโน้มว่าแบตเตอรี่สามารถทำระยะทางได้ไกลขึ้นและรอบการชาร์จที่น้อยลงก็หมายถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น การออกแบบที่ลื่นไหลและถูกต้องตามหลักแอโรไดนามิกมากกว่าซีรีส์ Dynasty ซึ่งรวมถึง Han EV ดีไซน์แบบใหม่สอดคล้องกับแนวโน้มการออกแบบยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน ในตลาดส่งออก ความดุดัน ความสปอร์ต เส้นสายที่ซับซ้อน และความรู้สึกของรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่แตกต่างจากรุ่น Dynasty เป็นแบบอย่างตามหลักอากาศพลศาสตร์และมีประสิทธิภาพที่สุดในกลุ่มยานยนต์ ซีรีส์ Ocean ของ BYD

มิติตัวถัง ยาว 4,800 มิลลิเมตร กว้าง 1,875 มิลลิเมตร สูง 1,460 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระหลัง 320 ลิตร น้ำหนัก 1,950 กิโลกรัม น้ำหนักแบตเตอรี่ 558 กิโลกรัม มอเตอร์ไฟฟ้า 230 kW แรงบิด 360 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.9 วินาที ความจุแบตเตอรี่ Battery capacity: 82,56 kWh รูปแบบแบตเตอรี่ Battery configuration: 192s1p ( 192 cells of 135 Ah all connected in series) ความหนาแน่นของพลังงานแบตเตอรี่ - Battery energy density: 148 Wh/kg ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศ 0.219 Cd ชาร์จเต็ม วิ่งไกล 550-700 กิโลเมตร ชาร์จด้วยไฟกระแสตรง DC Fast charging นาน 30 นาที สามารถชาร์จไฟจาก 30 ไปจนถึง 80 % ทำระยะทางได้ 480 กิโลเมตร ด้วยเครื่องชาร์จขนาด 150 kW

ที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร 5 คน เบาะนั่งแบบสปอร์ต มีพนักพิงด้านข้างที่กว้างขวางที่ด้านหน้า และเบาะนั่งอันหรูหราที่ด้านหลัง เบาะสีน้ำเงินอ่อนครอบงำภายใน โดยสอดคล้องกับธีม Ocean ของโมเดล เบาะนั่งสีขาวสลับสีน้ำเงินอ่อนเพื่อลุคที่ตัดกัน ที่จับประตู มีรูปร่างเหมือนเปลือก หนังอัลคันทาร่าเพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสาร สามารถโหลดสัมภาระลงในพื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายพร้อมฝาท้ายไฟฟ้า

BYD Seal มีการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายด้วยโทนสีขาวสลับสีดำ วัสดุหุ้มแดชบอร์ด เบาะและแผงประตูทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะเบาะหนังสีขาวกระจ่างตา ตัวเบาะตัดเย็บอย่างดี สวยงามนั่งนุ่มสบายก้นแต่ดูแลรักษายาก องค์ประกอบต่างๆ แผงหน้าปัดที่โฉบเฉี่ยว พร้อมช่องแอร์ที่กว้างและโค้งมน แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาดใหญ่ คอนโซลกลางแบบสะพาน พร้อมปุ่มช่วยจอด และส่วนควบคุมการขับเคลื่อนอื่นๆ หลังคากระจกแบบพาโนรามา กาบบันไดข้างแบรนด์ BYD, แผ่นชาร์จไร้สาย Qi และระบบเสียง Dynadash เป็นอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร Seal มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว แบบแท็บเล็ตที่เอียงได้ คนขับสามารถเปลี่ยนการวางแนวจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ตามความต้องการ ระบบที่รองรับ 5G นั้น รวมถึงระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ของ BYD ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันที่เหมือนสมาร์ทโฟนในระบบสาระบันเทิงได้

e-Platform 3.0 ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal รองรับรูปแบบระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แพลตฟอร์มดังกล่าว มีแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน และทำระยะทางได้ไกลมากขึ้น ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่ด้านหน้า และระบบกันสะเทือนแบบอิสระ Five-link ที่ด้านหลัง แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า Han EV แต่ฐานล้อมีขนาดความยาวเท่ากัน The Seal เป็นรุ่นแรกของ BYD ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (cell-to-body) การรวมแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถช่วยให้สามารถใช้โครงสร้างแบบแซนด์วิช ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้สำหรับชุดแบตเตอรี่ในรถยนต์ได้ ฝาครอบด้านบนของชุดแบตเตอรี่ ถูกรวมเข้ากับพื้นตัวรถ CTB ส่งผลให้มีความแข็งแบบต้านทานแรงบิดตัวเพิ่มขึ้น 100% หรือ– 40,000+ Nm/°

ลูกค้า BYD Seal ในประเทศจีนมีทางเลือกความจุของแบตเตอรี่สองแบบ: 61.4 kWh และ 82.5 kWh พร้อมระบบชาร์จเร็ว (DC) 110 กิโลวัตต์ และ 150 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จไฟจนได้ไฟใส่แบตฯ 30-80% อาจใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที


ชุดแบตเตอรี่ขนาด 61.4 kWh มาใน Seal รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยวขนาด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) ทำระยะทางไกล 550 กม. ระบบชาร์จเร็ว DC ได้ถึง 110 กิโลวัตต์

ชุดแบตเตอรี่ 82.5 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 700 กม. รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 230 กิโลวัตต์ หรือ 308 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.4 วินาที เป็นรถคันทดสอบที่อยู่ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าของ BYD ซึ่งมีการนำมาให้สื่อมวลชนทดลองขับสั้นๆในสนามปทุมธานีสปีดเวย์

รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบมอเตอร์คู่ กำลัง 390 กิโลวัตต์ (523 แรงม้า) มาพร้อม DC ชาร์จอย่างรวดเร็วได้ถึง 150 กิโลวัตต์ โดยใช้เวลาเติมไฟ 30-80% น้อยกว่า 30 นาที อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม. / ชม.ใน 3.8 วินาที ชาร์จเต็มทำระยะทางได้ไกล 650 กม.

เทคโนโลยี iTAC ใหม่ ย่อมาจาก "Intelligence Torque Adaption Control" ระบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีแรงฉุดลากมากกว่า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบเดิมที่ใช้เซนเซอร์ล้อ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความเร็วและเบรกเพื่อเข้าไปแทรกแซงเมื่อจำเป็น เซนเซอร์ความเร็วล้อ แบ่งแต่ละรอบของปลายล้อออกเป็น 32 หรือ 48 บิตในการรับข้อมูล จาก iTAC ปลายล้อของแต่ละเทิร์นสามารถแบ่งออกเป็น 4,096 บิต ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความแม่นยำของข้อมูลที่รวบรวมนั้นสูงขึ้นอย่างมาก iTAC สามารถปรับการส่งแรงบิดของมอเตอร์ตามเวลาจริงได้ตามต้องการ มันสามารถถ่ายโอนแรงบิดบางส่วนหรือทั้งหมด ไปยังล้อด้วยการยึดเกาะที่มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำให้รถต้องถูกแทรกแซงด้วยระบบรักษาเสถียรภาพ ESP เมื่อ BYD นำสื่อไปทดสอบ Seal ในสนามปทุมธานีสปีดเวย์ พบว่าระบบ iTAC สามารถเร่งความเร็วบนผิวแทร็คได้เร็วกว่า นอกจากนี้ เมื่อสูญเสียการทรงตัวในโค้งมุมแคบ คนขับก็ไม่ต้องการการแก้ไขทิศทางของรถมากเกินไป แค่ยกเท้าออกจากคันเร่งแล้วคืนพวงมาลัยเล็กน้อยเท่านั้น การทรงตัวในย่านความเร็วเดินทางมีทั้งความหนึบนุ่มและยึดเกาะถนนได้ดี เบาะที่นุ่มทำให้นั่งแล้วจะหลับเพราะสบายเกินไป แต่เบาะสีขาวดูแลลำบากต้องขยันทำความสะอาด พวงมาลัยไฟฟ้าตอบสนองได้ดี แม่นยำและมีน้ำหนักที่ดีมาก ในจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี และมีผลให้การควบคุมทิศทางของรถมีความง่ายดาย โดยเฉพาะการเลี้ยวกลับลำหรือเปลี่ยนช่องทาง ช่วงล่างคือจุดที่ทำได้ดีและมีผลต่อความสบายเมื่อบวกกับความนุ่มของเบาะโดยสารก็แทบจะหลับกันเลยทีเดียว การเก็บเสียงบนทางปูนซีเมนท์ มีแค่เสียงยางลอดเข้ามาให้ได้ยินเบาๆ โดยภาพรวม ถ้าขับความเร็ว 80-100 ก็เงียบกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างชัดเจน โดยภาพรวม เป็นซีดานไฟฟ้าที่คล่องตัวสูง นั่งสบายและมีลูกเล่นให้เลือกใช้เพียบ!


คาดว่า Seal จะเข้ามาสร้างกระแสในกลุ่มรถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมในไทย ตามรายงานของ CnEVPost ทีมนักวิเคราะห์ที่นำโดย Xu Huixiong ที่ Essence Securities กล่าวว่า Seal น่าจะเป็นการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ที่มีความสำคัญ โดยอาจทำยอดขายได้ 30,000 คันต่อเดือน (ในประเทศจีน) โดยมีข้อได้เปรียบมากกว่า Tesla Model 3 ทั้งประสิทธิภาพ ความสวยงาม การขับขี่และราคา

แบรนด์ BYD เข้าสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ.2565 โดยเปิดตัวรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นแรก BYD Atto 3 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนแบรนด์นี้ได้ขยายขอบเขตการขายไปทั่วโลก เพื่อส่ง BYD dolphin และ Atto 4 หรือ Seal เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย (ในอนาคต)

พบกับตัวเป็นๆ ของ BYD Seal ได้ในงาน Motor Show 2023 บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 วันที่ 22 มีนาคมนี้ ในบูธของ BYD ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: สัมผัสแรกขับโคตรดี รถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL ชาร์จเต็มวิ่งไกล 650-700 กม. คาด เข้าไทยเร็วๆนี้

หมวดหมู่: รถยนต์

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด