ส่องก่อนเข้าไทย รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal

เจาะรายละเอียดก่อนเข้าไทย รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal ของดีราคาไม่ถูก!

BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับคนที่กำลังมองหารถซีดานไฟฟ้าขนาดกลางที่มีเทคโนโลยีเทียบเท่า Tesla Model 3 แต่มีราคาถูกกว่า (ในตลาดต่างประเทศ) นอกจากนี้ Seal ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับรถ SUV ไฟฟ้าอย่าง Tang และ Atto 3 สำหรับลูกค้าที่ต้องการความคล่องตัวและไดนามิกในการขับขี่แบบรถสปอร์ตซีดาน ราคา (ในต่างประเทศ) ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ย่อมเยากว่าสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางของแบรนด์ BYD

Seal อาจดูคุ้นตาคล้ายกับรถรุ่นพี่อย่าง Han EV การออกแบบภายนอกที่ลื่นไหล ได้รับแรงบันดาลใจจากยานยนต์ต้นแบบแนวคิด BYD Ocean X งานดีไซน์ที่น่าดึงดูดของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือ สัดส่วนที่พลิ้วไหวไหลลื่นของรถ โดยเฉพาะส่วนท้ายที่ใช้ไฟท้าย LED สีเทาเชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองข้างด้วยเส้นขอบฝากระโปรงท้ายที่เพรียวบาง รูปลักษณ์ด้านหน้าของ BYD Seal ออกแบบให้ฝากระโปรงลาดต่ำ ไฟหน้าทรงเพรียวพร้อมส่วนต่อขยายรูปตัว C กันชนหน้าเรียบ ช่องรับอากาศด้านข้างแนวตั้งเอียง ช่องรับอากาศด้านล่างขนาดกะทัดรัดรูปตัว A

BYD Seal มีรูปลักษณ์เหมือนกับรถคูเป้สี่ประตู เส้นสายหลังคาทรงโค้ง เสาท้ายบางเฉียบและเรือนกระจกทรงโค้ง การตกแต่งรูปลูกศรบนแผงส่วนหน้า, ที่จับประตูแบบฝัง, เส้นนำสายตาบนประตู ลากจากแก้มข้างไปจนถึงบานประตูหลังแล้วโค้งลง ฝาปิดจุดชาร์จไฟคล้ายกับฝาถังเชื้อเพลิงของรถสันดาปภายในฝั่งยุโรป, ลวดลายคล้ายหยดน้ำบนเสา C ส่วนแทรกที่มีลักษณะคล้ายเหงือกปลาฉลามบริเวณแก้มข้าง บั้นท้ายของซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่มีไฟท้ายแบบเต็มความกว้างที่คล้ายกับไฟท้าย Mercedes EQE ช่องลมด้านข้างแนวตั้ง กันชนหลังมีครีบดิฟฟิวเซอร์ และไฟถอยหลังแยกตำแหน่งข้างไฟตัดหมอกหลังบนกันชนท้าย

BYD Seal มีรูปทรงไม่เหมือนใคร เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Tesla Model 3 และ Nio ET5 รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลดีต่อการใช้พลังงานและความสบายในห้องโดยสาร ทำให้มีระยะทางที่ไกลขึ้น รอบการชาร์จที่น้อยลง หมายถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4800 มิลลิเมตร กว้าง 1875 มิลลิเมตร สูง 1460 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2990 มิลลิเมตร ล้อและยางใส่ล้ออัลลอย ไซส์ 19 นิ้วยาง 235/45R19

BYD Ocean series vs Dynasty series
ซีรีส์ Ocean ของ BYD เน้นการออกแบบที่ลื่นไหล ด้วยอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกที่เหนือกว่าซีรีส์ Dynasty ซึ่งรวมถึง Han EV แนวทางการออกแบบใหม่สอดคล้องกับแนวโน้มของงานดีไซน์ยานยนต์รุ่นใหม่จากฝั่งยุโรปเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดส่งออกของประเทศจีนได้มากขึ้น ความดุดัน สปอร์ต ความประณีต และความรู้สึกของการนั่งขับระดับพรีเมียม เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์สูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ BYD Ocean series

เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง และรองรับบั้นเอวปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ ระบบปรับอากาศภายในพร้อมตัวกรอง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ที่วางแก้ว 2 ช่อง ระหว่างที่นั่งด้านหน้า และระหว่างที่นั่งด้านหลัง ระบบแอร์อัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมปั๊มความร้อนที่นำพลังงานความร้อนหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้พลังงาน ระบบกรองอากาศ PM 2.5 อุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เซนเซอร์วัดแสงสำหรับปรับความโปร่งใสแบบอัตโนมัติ

BYD Seal กับเบาะที่นั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ที่นุ่มเหลือกำลังลาก ด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่มีพนักรองด้านข้างขนาดใหญ่เบาะหลังหรูหราสีฟ้าอ่อนครอบงำการตกแต่งภายใน สอดคล้องกับธีมทะเลของโมเดล เบาะนั่งสีขาวมีเส้นสีฟ้าอ่อนเพื่อให้ดูตัดกัน ที่จับประตูมีรูปทรงเหมือนเปลือกหอย การใช้วัสดุไฟโครไฟเบอร์เลียนแบบ Alcantara ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้องโดยสาร ที่เก็บสัมภาระมีพื้นเรียบ ใส่ของชิ้นโตๆ ได้อย่างสะดวก เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับส่วนบั้นเอวปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ ระบบระบายอากาศในตัวเบาะ และระบบทำความร้อนสำหรับรถที่ขายในเขตหนาว เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบระบายอากาศและระบบทำความร้อน ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซนพร้อมปั๊มความร้อนที่นำพลังงานความร้อนทิ้งกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการใช้พลังงานเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีตัวกรองอากาศ PM 2.5 และซันรูฟแบบพาโนรามาพร้อมเซนเซอร์วัดแสงเพื่อปรับความโปร่งใสโดยอัตโนมัติ

แดชบอร์ดที่โฉบเฉี่ยวพร้อมช่องแอร์ ที่กว้างและโค้งมน, W-HUD, แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว, คอนโซลกลางที่เชื่อมต่อกับโซนของผู้โดยสารตอนหน้า ปุ่มช่วยจอด และส่วนควบคุมการขับขี่อื่นๆ กุญแจดิจิทัล NFC กาบข้างประตูแบรนด์ BYD แท่นชาร์จโทรศัพท์ Qi ระบบเสียง Dynadash เป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสาร Seal มีระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสสไตล์แท็บเล็ต ขนาด 15.6 นิ้วที่ปรับหมุนได้ สามารถเปลี่ยนการวางแนวของจอภาพมอนิเตอร์กลาง จากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ตามต้องการ เชื่อมต่อกับระบบที่เปิดใช้งาน 5G รวมถึงระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ของ BYD ที่ช่วยให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเหมือนสมาร์ทโฟนในระบบอินโฟเทนเมนท์

โครงสร้างแชสซีของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ใช้แพลตฟอร์ม BYD e-Platform 3.0 รองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งสี่ล้อ AWD แพลตฟอร์มรองรับแบตเตอรี่ที่เน้นเวลาในการชาร์จที่สั้นลง ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่ด้านหน้า ระบบกันสะเทือนแบบอิสระห้าลิงค์ที่ด้านหลัง แม้จะเล็กกว่า Han EV แต่ก็มีระยะฐานล้อเท่ากัน แพลตฟอร์ม EV มีพื้นที่ห้องโดยสารที่เหมาะสมในขณะที่ตัวถังมีขนาดเล็กลง ขนาดที่เล็ก ช่วยในด้านความคล่องแคล่วเมื่อขับใช้งานในเมือง

อายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จ
Seal เป็นรุ่นแรกของ BYD ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (cell-to-body) การประกอบแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถทำให้สามารถใช้โครงสร้างแบบแซนวิช ฝาปิดด้านบนของชุดแบตเตอรี่ รวมเข้ากับพื้นของตัวรถ CTB cell-to-body ทำให้ความแข็งในการต้านทานแรงบิดเพิ่มขึ้น 100% หรือ40,000+ Nm/°(เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มทั่วไป) CTB เปิดโอกาสให้เพิ่มความสูงของแชสซีได้ หมายความว่ารถมีโอกาสน้อยที่จะได้รับความเสียหายจากการกระแทก กรณีโดนชนด้านข้าง โครงสร้างของรถจะช่วยปกป้องผู้โดยสารภายในได้มากกว่า

BYD Seal มีให้เลือกสองระดับความจุของแบตเตอรี่(ในจีน) เริ่มจากรุ่น : 61.4 kWh และรุ่น 82.5 kWh รองรับการชาร์จไฟกระแสตรงหรือชาร์จด่วนที่ 110 กิโลวัตต์และ 150 กิโลวัตต์ ตามลำดับ ระยะเวลาในการชาร์จไฟ DC จาก 30-80% ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

ชุดแบตเตอรี่ขนาด 61.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีจำหน่ายในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD มอเตอร์เดี่ยวขนาด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) สองตัว ชาร์จเต็มทำระยะทาง 550 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC 110 กิโลวัตต์ เป็นกำลังไฟ DC สูงสุดในการชาร์จ และที่อัตราการชาร์จเร็วสูงสุด ชาร์จจาก 30 ถึง 80% SoC ใช้เวลา 30 นาที

ชุดแบตเตอรี่ขนาด 82.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำระยะทาง CLTC ได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร รุ่นขับหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยว กำลังมอเตอร์ 230 กิโลวัตต์ (308 แรงม้า) ทำระยะทาง 650 กิโลเมตร ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD มอเตอร์สองตัวมีกำลังรวม 390 กิโลวัตต์ (523 แรงม้า) เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ใน 5.9 วินาที ในขณะที่รุ่นสูงสุด สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที ชาร์จเร็ว DC ได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟจาก 30-80% ใช้เวลา 30 นาที

Seal เป็นรถยนต์คันแรกของ BYD ที่ใช้เทคโนโลยี iTAC ย่อมาจาก “Intelligence Torque Adaption Control ระบบนี้มีเป้าหมายเพื่อให้มีแรงฉุดลากมากกว่าระบบควบคุมเสถียรภาพทั่วไปที่ใช้เซนเซอร์ล้อ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความเร็วและเบรก เพื่อแทรกแซงเมื่อมีความจำเป็น เซนเซอร์ความเร็วล้อ จะแบ่งแต่ละรอบของปลายล้อออกเป็น 32 หรือ 48 บิต ใน iTAC วงล้อของแต่ละมุม สามารถแบ่งออกเป็น 4,096 บิต ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความแม่นยำของข้อมูลที่รวบรวมจะสูงขึ้นอย่างมาก iTAC สามารถปรับการส่งแรงบิดของมอเตอร์แบบเรียลไทม์ ได้ตามต้องการ ส่งแรงบิดบางส่วนหรือทั้งหมดไปยังล้อ ด้วยการยึดเกาะที่มากขึ้น หลีกเลี่ยงการสั่งงาน ESP เมื่อ BYD ทดสอบบนหิมะ พบว่า iTAC สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 กม./ชม. ได้เร็วขึ้น 0.7 วินาที นอกจากนี้ เมื่อดริฟต์ Seal ไม่ต้องการการแก้ไขทิศทางมากเกินไป

นักวิเคราะห์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกคาดกันว่า Seal จะสร้างกระแสความนิยมในจีน ตามรายงานของ CnEVPost Xu Huixiong นำโดยทีมนักวิเคราะห์ของ Essence Securities กล่าวว่า Seal เป็นการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ โดยอาจทำตัวเลขยอดขายในจีนได้มากกว่า 30,000 คันต่อเดือน รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ มีข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือ Tesla Model 3 ในด้านสมรรถนะของระยะทางการวิ่งด้วยไฟฟ้า

เดือนสิงหาคม 2565 ถึงธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา BYD ขาย Seal ในจีนได้ 51,200 คัน เริ่มจาก 1,726 คันในเดือนที่เปิดตัว และเพิ่มจำนวนเป็น 15,378 คัน ในเดือนสุดท้ายของปี 65 ตามรายงานของ CleanTechnica เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ในขณะที่ BYD ยังคงต้องเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าเพื่อ ให้บรรลุตามเป้าหมาย 30,000+ คันต่อเดือน

การเปิดตัว BYD Seal ทั่วโลก
BYD จะเปิดตัว Seal ในตลาดยุโรปหลายแห่งรวมถึงประเทศไทย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าในตลาดเอเชียและโอเชียเนีย BYD เริ่มทดสอบรถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นพวงมาลัยขวาแล้ว มีการเปิดเผยพร้อมภาพสปายช็อตเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 การพัฒนาน่าจะส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาการเปิดตัวในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไทยและประเทศอื่น ในเอเชียและโอเชียเนีย

BYD เปิดตัว Seal ครั้งแรกในยุโรปที่งาน Paris Motor Show ปี พศ. 2565 (17-23 ตุลาคม 2565) โดย BYD วางแผนที่จะเปิดตัว Seal ในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ในเดือนสิงหาคม 2566 โดยมีแผนที่จะนำเสนอ Seal ในรุ่นระดับกลางและระดับบน โดยมีตัวเลขระยะทางของ WLTP ที่ 570 กม. (354 ไมล์) และ 520 กม. (323 ไมล์) ตามลำดับ สำหรับประเทศไทย คาดเดาว่า ราคาของ BYD Seal จะอยู่ที่ประมาณ 1,650,000-1,850,000 บาท.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: ส่องก่อนเข้าไทย รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal

หมวดหมู่: รถยนต์