เทรนด์ความงาม 2023 ของกลุ่มอายุ 26-40 ปี จะรักใบหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า

เทรนด์ความงาม 2023 ของกลุ่มอายุ 26-40 ปี จะรักใบหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า

หมดยุคใช้รูปดาราเป็นเรฟให้คุณหมอความงามกันแล้ว ล่าสุด เมนารินี เอสเธติกส์ ประเทศไทย (Menarini Aesthetics Thailand) เผยเทรนด์ความงามของคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้บริโภคชาว Millennials ที่จะเลิกสวยตามดารา แต่รักใบหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า ให้ความสำคัญกับการดูแลคงสภาพผิว ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า ด้วยคอนเซ็ปต์ Optimal Volumization & Less is more (น้อยแต่มาก) ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจจาก 4 คุณหมอกูรูด้านความงาม จะมีอะไรบ้างเช็ค

1.กลุ่มอายุ 26-40 ปี มองว่าการฉีดฟิลเลอร์เป็นเรื่องปกติ มีไลฟ์สไตล์ที่เรียกว่า ‘PREJUVENATION’ เน้นการป้องกันและฟื้นฟู  

 

นายแพทย์วินเซนต์ วอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ดูแลใบหน้าให้คนดังและเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย เผยว่า ผิวสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิต (Skin Mirrors your well being ) เทรนด์ความงามหลังจากนี้จะมีมิติที่เปลี่ยนไป โดยกลุ่มที่แอคทีฟมากๆ คือ ผู้บริโภคกลุ่ม Millennials อายุ 26-40 ปี พวกเขาจะไม่รอให้ผิวหย่อนคล้อย หมองคล้ำ หรือมีริ้วรอยแล้วค่อยมารับการรักษา แต่เขาจะค้นคว้า หาข้อมูล และศึกษาจนรอบด้านว่า Treatments ไหนเหมาะกับเขา แล้วจึงเข้าไปรับคำปรึกษากับแพทย์ โดยสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่การหน้าเหมือนดาราคนไหน แต่เขาพึงพอใจที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่น
ที่ดีกว่า

เทรนด์การรักษาด้วยสารเติมเต็มก็จะแตกต่างจากอดีต เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจะ Tailormade ปรับรูปหน้าให้คนไข้ตามคาแรคเตอร์และภาพลักษณ์ของเขา เช่น กลุ่ม LGBTQ+ ที่จะมีมิติของการคอนทัวร์ให้ใบหน้ารับกันแบบ Total face เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมล่าสุดในการยกกระชับรูปหน้า เรียกว่า XTRTM (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) Technology คือ เทคโนโลยีที่มีในผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) ซึ่งเป็นนวัตกรรมในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Filler มีเฉพาะในแบรนด์คุณภาพสูงระดับโลก จะสามารถฟื้นฟูยกกระชับปรับรูปหน้าแบบไดนามิค 3 มิติ ช่วยในการเติมเต็ม คอนทัวร์มิติของใบหน้า ยกกระชับและปรับรูปหน้าให้รับทุกองศา คนไข้จะเห็นผลลัพธ์ว่าใบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่หลังทำ และไม่ทิ้งเอฟเฟคภายหลัง

2.เทรนด์ความงามของสาวเอเชีย รับอิทธิพลสายฝอ แต่นำมาปรับในสไตล์เอเชีย

ผศ.พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม เผยถึง Asian Beauty Trends ว่า สาวเอเชียรับวัฒนธรรมความงามและเปลี่ยนทัศนคติความสวยแบบเอเชีย มาเป็น ‘Globalization’ มากขึ้น เช่นแต่ก่อนสาวเอเชียจะนิยมผู้หญิงที่ริมฝีปากบาง แต่เราจะเห็นว่าทุกวันนี้ริมฝีปากหนาได้รูปกลายเป็นที่นิยม ซึ่งสาวเอเชียโดยเฉพาะสาวไทยจะ concern จุดสำคัญบนใบหน้า ทั้งการทำตา 2 ชั้น  การเสริมจมูก แก้ม หน้าผาก การเสริมคางให้รับกับจมูก และลดความกว้างของใบหน้าด้วยการสร้างมิติ เป็นต้น เช่น สาวไทยกลุ่ม Millennials แต่ละคนมีความ Individual สูง คนไข้จะหาข้อมูล ดูโซเชียลมีเดีย และเช็คมาก่อนแล้วว่าหมอความงามท่านไหนเก่งเรื่องอะไร แล้วจึงเลือกทำกับหมอคนนั้นๆ

ดังนั้นเทรนด์ในการดูแลคนไข้กลุ่ม Millennials แพทย์จึงต้องเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร พูดภาษาเดียวกับเขาและเข้าใจว่าความสวยในสายตาของเขาเป็นอย่างไร

3.จับตามองเทคโนโลยี XTRTM Technology และ Innovative Glass Syringe นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Filler เพื่อดูแลยกกระชับปรับรูปหน้า ในฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) ตอบโจทย์ความงามของคนกลุ่มมิลเลนเนียลในปี 2023

ดร.นพ.วรพล เวชชาภินันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวถึงความแตกต่างของฟิลเลอร์รุ่นเก่า กับฟิลเลอร์อิตาลีที่มาพร้อมเทคโนโลยี XTRTM Technology และ Innovative Glass Syringe ว่า XTRTM Technology  เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่ม HA Dermal Filler ที่ใช้เพียงในปริมาณที่เหมาะสม (Optimal Volumization) แต่สามารถให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับและปรับรูปหน้าได้ในทันที ให้คนไข้ได้ลุคที่ดูดีแบบเป็นธรรมชาติ (Immediate lifting effect with natural look and feel) ไม่สร้างอาการแพ้หรือบวมขึ้นภายหลัง อีกทั้งการมาพร้อมกับนวัตกรรม Glass Syringe ช่วยให้สัมผัสที่เบา คนไข้ไม่รู้สึกถึงแรงกด สะดวกต่อการใช้งานของแพทย์และความพึงพอใจของคนไข้ อีกทั้งช่วยลดขยะพลาสติกด้วยอีกทางหนึ่ง

4.เทรนด์การปรับรูปหน้าเปลี่ยนไป คนไข้ต้องการฟังการวิเคราะห์ใบหน้าของแพทย์ก่อนรับการรักษา

นพ.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม Aesthetics Practitioner & Surgeon กล่าวว่า เทรนด์การรับการรักษา ด้วยการปรับรูปหน้าเพื่อความงามและการชะลอวัยจะเปลี่ยนไป โดยคนไข้ต้องการปรึกษาพูดคุยและฟังการวิเคราะห์ใบหน้าจากแพทย์ก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตรงกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ เช่น คนไข้ที่มีใบหน้าค่อนข้างตอบ มีร่องแก้ม ใต้ตาลึก ถ้าแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากการสลายของชั้นไขมัน แพทย์จะแนะนำให้เพิ่ม Volume โดยใช้ฟิลเลอร์เพื่อการเติมเต็มและปรับรูปหน้า แต่ถ้าคนไข้ที่มีชั้นไขมันเยอะ มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้ม ใต้ตาลึก แพทย์จะแนะนำให้ใช้การร้อยไหมก่อนเพื่อเป็นการยกกระชับ หลังจากนั้นจึงใช้ฟิลเลอร์เพื่อเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ยังขาด Volume ซึ่งการวิเคราะห์ของแพทย์จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการมองสังเกตจากภายนอก และการสัมผัสร่วมด้วย เพื่อประเมินสาเหตุว่ามาจากโครงกระดูกของใบหน้าหรือจากส่วนใด จึงจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และการดูแลรักษาร่วมกันด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (Multimodality) ทั้งการร้อยไหมอิตาลี (Italian Threads Lifting) และฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) เพื่อช่วยในการดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด

คุณกำลังดู: เทรนด์ความงาม 2023 ของกลุ่มอายุ 26-40 ปี จะรักใบหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด