วิ่งไกล เข้าไทยต้นปีหน้า รถยนต์ไฟฟ้า BMW iX1 ELECTRIC

BMW iX1 ELECTRIC มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive 308 แรงม้า 494 นิวตันเมตร 0-100 ใน 5.6 วินาที ขายจริงต้นปีหน้า...

BMW X1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 และตั้งแต่นั้นมา BMW ก็ได้ขายรถยนต์อเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle (SAV) ไปแล้ว 1.9 ล้านคัน 12 ปีหลังจากการเปิดตัว ล่าสุด BMW X1 เจเนอเรชันที่สาม เดินทางมาถึงพร้อมกับ iX1 ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรก หลังจาก BMW iX และ iX3 แล้ว iX1 ก็กลายเป็น SAV ไร้มลพิษรุ่นล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์จากแคว้น Bavarian

การออกแบบของ BMW iX1 เจเนอเรชันที่สามนั้นเฉียบคมขึ้นและมีหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ด้านหน้าของ iX1 ติดตั้งกระจังหน้าไตแบบปิดทึบ พร้อมแถบแนวตั้งประดับด้วยโครเมียมและกระจังหน้าโครเมียมล้อมรอบ ไฟหน้า LED แบบ Adaptive ปรับได้ พร้อมไฟสูงด้วยไฟ Matrix ไฟเลี้ยวแบบกะพริบ และการกระจายแสงแบบปรับได้ ส่วนล่างของกันชนหน้าดูเยอะไปนิด มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านล่าง แผ่นกันกระแทกที่ทำให้รถดูดีและเหมาะกับการทำตัวเป็นยานยนต์อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า

BMW iX1 มีกระจกมองข้างและล้ออัลลอยด์ที่ปรับรูปทรงให้เหมาะกับระบบอากาศพลศาสตร์ ที่จับประตูแบบฝังเรียบ รูปทรงโดยรวมคล้ายกับ X1 เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่พื้นผิวดูเรียบและไม่มีรอยตัดและรอยพับ เพื่อให้ iX1 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ แตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปอย่างเห็นได้ชัด BMW เน้นสีน้ำเงินที่ส่วนหุ้มตัวถังด้านข้างและกันชนหน้าและหลัง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ติดตั้งในรุ่นพื้นฐาน ขณะที่ล้อขนาด 18 นิ้ว จะมาพร้อมกับรุ่น xLine และ M Sport นอกจากนี้ยังมีล้อขนาด 19 และ 20 นิ้ว ให้เลือกเป็นออปชันเสริม (ในเกรด xLine และ M Sport)

ด้านหลังของยานยนต์ไฟฟ้า BMW iX1 แน่นอนอยู่แล้วว่ามันไม่มีท่อไอเสีย การออกแบบในเจเนอเรชันที่ 3 ยังคงไว้ซึ่งส่วนหลังที่เป็นทรงกล่อง ในขณะที่ไฟท้าย LED รูปตัว L มีความคมชัดสวยงามลงตัวยิ่งขึ้น SAV ขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ใส่สปอยเลอร์ติดหลังคา กระจกบังลมหลังลาดเอียง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ส่วนล่างของกันชนมีแผ่นกันกระแทก ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) ที่น่าประทับใจของ iX1 อยู่ที่ตัวเลข 0.26 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของวิศวกร BMW ในการทำให้รถอเนกประสงค์คันนี้แหวกอากาศได้ดี

การตกแต่งภายในของ BMW iX1 เน้นคุณภาพสูงกว่าเดิม ยกระดับความแพงและดูดีด้วยอุปกรณ์ใหม่ เนื่องจากวัสดุที่มีคุณภาพและการจัดวางที่ดูหรูหราราวกับรถรุ่นแพง ของ BMWขนาดที่เพิ่มขึ้นและการไม่มีอุโมงค์เพลากลาง ทำให้ iX มีขนาดที่กว้างกว่ารุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

ภายในแบบใหม่ ประกอบด้วยระบบนำทาง หน้าจอคู่ ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน ชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบใหม่ ระบบช่วยจอด กล้องมองหลัง และคุณสมบัติดิจิทัลอื่นๆ อีกเพียบ BMW นำรูปแบบงานตกแต่งใหม่เอี่ยมของ iX มาใช้ใน iX1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงรูปทรงเรขาคณิตของการตกแต่งภายใน ช่องวางเท้า ที่เปิดประตู ช่องเก็บของ แผงบุหลังคา และไฟอ่านหนังสือ แพ็กเกจไฟส่องสว่างรอบข้างเป็นอุปกรณ์เสริม ทำให้ห้องโดยสารมีความหรูหราเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น ด้วยการปรับความสว่างและโทนสีจากเมนู iDrive รวมถึงฟังก์ชันไฟภายในห้องโดยสารแบบไดนามิก พร้อมสัญญาณไฟกะพริบเมื่อมีสายเรียกเข้าที่ไฟตกแต่งภายใน

BMW ยังเสนอตัวเลือกการตกแต่งภายในห้าแบบ ซึ่งรวมถึงการตกแต่งด้วยลายไม้ยูคาลิปตัสแบบเปิดรูพรุน การตกแต่งอะลูมิเนียม Hexacube สำหรับรุ่น M Sport คนที่รักเสียงเพลงจะต้องเพลิดเพลิน เพราะ iX1 มาพร้อมกับการติดตั้งลำโพง 6 ตัวในรุ่นมาตรฐาน พร้อมแอมพลิฟายเออร์ 100 วัตต์ ตามด้วยออปชันจัดเต็ม ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon พร้อมลำโพง 12 ตัว และเอาต์พุตแอมพลิฟายเออร์กำลังขับ 450 วัตต์ เป็นตัวเลือก ทวีตเตอร์อยู่ในตำแหน่งที่แผงประตูและดูพรีเมียมมากด้วยฝาครอบสแตนเลสเงาแวววาว

iX1 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ BMW Live Cockpit Plus และ BMW Operating System 8 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ระบบ iDrive ถูกรวมเข้ากับจอแสดงผลโค้งคู่ขนาด 10.25 นิ้ว สำหรับจอภาพมาตรวัด และ 10.7 นิ้ว สำหรับหน้าจอมอนิเตอร์ของระบบสาระบันเทิงส่วนกลาง เป็นแผงกระจกเดียวที่มีหน้าจอความละเอียดสูง อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของหน้าจอเป็นแบบสมาร์ทโฟนเพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวก

BMW อัปเกรดระบบนำทางเพื่อให้ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะนี้ระบบนำทาง BMW Maps ต้องการเพียงหนึ่งในสี่ของเวลา มันเร็วกว่าเมื่อก่อนและตอบสนองอย่างว่องไวในการแจ้งข้อมูลเพื่อคำนวณเส้นทาง ระบบติดตามและใช้ข้อมูลการจราจรตามเวลาจริง เพื่อแนะนำเส้นทางที่ถูกปรับให้เหมาะสมสำหรับการเดินทาง หากระยะทางต่อไฟในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอที่จะไปถึงจุดหมายปลายทาง ระบบจะแจ้งเตือนถึงสถานีชาร์จที่ใกล้เคียง พร้อมคำนวณระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงการชาร์จไฟ

BMW Intelligent Personal Assistant สั่งงานและตอบโต้ด้วยบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติกับ AI เพื่อปรับให้รถสามารถโต้ตอบกับคนขับหรือผู้โดยสาร สามารถสั่งเปิดกระจกหน้าต่าง ปรับเครื่องปรับอากาศ หรือควบคุมซันรูฟแบบพาโนรามาโดยใช้คำสั่งเสียง นอกจากนี้ยังมีกล้องภายในห้องโดยสารที่สามารถใช้เพื่อถ่ายภาพช่วงเวลาพิเศษระหว่างการเดินทางบนท้องถนน

eSIM ส่วนตัว
eSIM ส่วนตัวช่วยให้ใช้ฟังก์ชันการเชื่อมต่อของสมาร์ทโฟนจากรถได้ การรับสัญญาณมือถือสำหรับข้อมูลและการโทร ได้รับการปรับปรุงโดยใช้เสาอากาศ 5G ของรถ อุปกรณ์สูงสุดสิบเครื่องสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยใช้ฮอตสปอตมือถือ นอกจากนี้ Personal eSIM ยังเชื่อมโยงกับ BMW ID สามารถใช้ฟังก์ชันนี้กับรถยนต์ BMW รุ่นอื่นๆ ที่มีคุณลักษณะ Personal eSIM ได้ โดยใช้ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ BMW ID ของตนเอง

เบาะที่นั่งใหม่
เบาะนั่งของ BMW เป็นหนึ่งในเบาะที่นั่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นที่รู้จักในด้านความสบายสูงสุดและการรองรับด้านข้างที่ดีเยี่ยม เช่นเดียวกับ iX1 เบาะนั่งมีการออกแบบใหม่ สามารถเลือกโทนหนังสีแดง สีดำ สีมอคค่า และสี Oyster สำหรับแต่ละรุ่น ระบบอุ่นที่นั่งและการปรับด้วยไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เสริม ในขณะที่ออปชันเสริม มีเบาะรองเอวและปุ่มนวดได้ เบาะผ้าสีแอนทราไซต์หุ้มหนัง Sensatec หรือ Vernasca เป็นตัวเลือกมาตรฐาน

แพ็กเกจ M Sport เพิ่มเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Sensatec หรือ Alcantara เย็บด้วยหนังสีดำและสีน้ำเงิน หรือหนัง Vernasca พนักพิงเบาะหลังแยก 40:20:40 สามารถพับราบเพื่อขยายพื้นที่เก็บสัมภาระ เบาะนั่งด้านหลังแบบ 60:40 สามารถเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้ 13 ซม. (5.1 นิ้ว) ไม่ว่าจะแยกกันหรือรวมกัน นอกจากนี้ยังสามารถปรับมุมพนักพิงแยกกันสำหรับเบาะนั่งสามชิ้นที่ด้านหลัง เบาะที่นั่งแบบโมดูลาร์ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระของ BMW X1 สามารถขยายได้จาก 17.3 เป็น 52.7 ลบ.ม. (490 เป็น 1,495 ลิตร) สามารถเพิ่มอุปกรณ์ลากจูงพ่วงแบบติดตั้งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีความสามารถในการลากจูงชั่วคราว 1,200 กก. สำหรับ BMW iX1 ระบบไฟฟ้า iX1 หรือแม้แต่ X1 ที่ขับเคลื่อนด้วยนำ้มันเชื้อเพลิง แม้มันจะเป็น SAV ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการขับทั้งในและนอกเมือง ไม่ใช่นำไปลากลากจูงเทรลเลอร์ แต่ iX1 ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังมากพอสำหรับความสามารถในการลากจูงแบบเบา

ที่วางแขนด้านหน้าของ BMW iX1 ออกแบบใหม่ มาพร้อมแผงควบคุมในตัว ซึ่งเปิดพื้นที่เก็บของด้านล่าง คันเกียร์ใหม่ มีการออกแบบให้เล็กลง ด้านล่างช่องแอร์ตรงกลาง มีพื้นที่สำหรับวางแก้วน้ำ 2 ช่อง และถาดวางสมาร์ทโฟน ถาดมาพร้อมกับตัวล็อกแบบเคลื่อนย้ายได้ สามารถวางสมาร์ทโฟนตั้งขึ้นได้ โดยมองเห็นได้สำหรับคนขับและผู้โดยสาร พร้อมอุปกรณ์ชาร์จมือถือแบบไร้สาย

BMW X1 เจเนอเรชันที่สามกับแพลตฟอร์ม FAAR แบบโมดูลาร์ (Frontantriebsarchitektur – ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษจะอ่านว่า Front Wheel Drive architecture) FAAR เป็นแพลตฟอร์มพลังงานหลากหลายได้รับการออกแบบให้เข้ากันได้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ปลั๊กอินไฮบริด และระบบส่งกำลังไฟฟ้า 100% เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม UKL ที่ยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นรากฐานของ BMW และ Mini การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW i3 ได้สิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน 2565 เป็นเวลาแปดปีครึ่งหลังจาก BMW i3 เปิดตัว โดยมียอดการผลิตมากกว่า 250,000 คัน ตลอดอายุโมเดล สำหรับผู้ซื้อที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมความสามารถด้านการบริหารพลังงานไฟฟ้า รถ SAV สองรุ่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ BMW ได้แก่ BMW iX3 และ BMW iX และ BMW iX1 รายงานจาก Süddeutsche Zeitung BMW ได้เรียนรู้ว่าลูกค้าต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้น หรือรุ่น (ขนาดใกล้เคียงกัน) ที่มีการออกแบบที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น นั่นคือจุดที่ BMW iX1 และ Mini Countryman Electric เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้สืบทอดทางอ้อมของ BMW i3

ข้อมูลจำเพาะ
ขนาด

BMW iX1 มีขนาดความยาว 4,500 มม. (177.2 นิ้ว) ความกว้าง 1,845 มม. (72.6 นิ้ว) และความสูง 1,616 มม. (63.6 นิ้ว) ระยะฐานล้อ 2,692 มม. (106.0 นิ้ว) ระยะห่างจากพื้น 170 มม. (6.7 นิ้ว) พื้นที่เก็บสัมภาระ 490-1,495 ลิตร

BMWiX1 มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ลอ AWD แบบมอเตอร์คู่ ที่เรียกว่า 'xDrive30' มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งเพลาหน้าและเพลาหลัง ชุดขับเคลื่อนพลังงานสะอาดนี้ให้กำลัง 230 กิโลวัตต์ หรือมากถึง 308 แรงม้า พร้อมบูสต์ชั่วคราว แรงบิดสูงสุด 494 นิวตันเมตร (364 ปอนด์-ฟุต) ด้วยผลลัพธ์ที่ดีต่อการทำความเร็วด้วยมอเตอร์คู่ BMW iX1 สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สำหรับ BMW iX1 รุ่น eDrive20 กำอยู่ในขั้นตอนการผลิต ซึ่งมีกำหนดเข้าสู่กระบวนการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2566 ไทม์ไลน์ SOP บ่งชี้ว่าแบรนด์รถยนต์หรูจากมิวนิกอาจเปิดตัว BMW iX1 eDrive20 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตในช่วงฤดูร้อนกลางปี 2566 พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ FWD ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียววางบนเพลาหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า

BMW iX1 xDrive30 ใช้แบตเตอรี่ 64.7 kWh มีความหนาแน่นของพลังงานสูง 152 Wh/kg ชาร์จไฟจนเต็มทำระยะการขับขี่ได้ไกล 440 กม. ส่วน iX1 eDrive20 อาจใช้ชุดแบตเตอรี่เดียวกันและทำระยะทางได้มากกว่า 500 กม.

iX1 xDrive30 รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC ขนาด 11 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ใหม่จนเต็มภายใน 6.5 ชั่วโมง สามารถเลือกเพิ่มอัตราการชาร์จเป็น 22 กิโลวัตต์ โดยชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ภายใน 3 ชั่วโมง 45 นาที ส่วนการชาร์จเร็ว 130 กิโลวัตต์ ด้วยไฟกระแสตรง DC สามารถเพิ่มพลังงานแบตเตอรี่จาก 10 จนไปถึง 80% ใน 29 นาที ภายในสิบนาที ระบบชาร์จไฟกระแสตรง DC เพิ่มระยะได้ 120 กิโลเมตร regenerative braking การฟื้นฟูพลังงานไม่ว่าจะยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง หรือแตะเบรก สูงถึง 60 กิโลวัตต์ หากผู้ขับ iX1 ใช้การขับด้วยแป้นเหยียบเดียว สามารถสร้างอัตราการฟื้นคืนกระแสไฟฟ้าถึง 120 กิโลวัตต์ได้โดยใช้เบรก วิศวกรของ BMW กล่าวว่า แรงบิดจะกระจายระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังอย่างสมดุล ด้วยระบบควบคุมแรงบิด xDrive ซึ่งรวมเข้ากับฟังก์ชันจำกัดการลื่นไถลของล้อ DSC

ระบบกันสะเทือน Adaptive M เป็นอุปกรณ์เสริมใน X1 เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน BMW iX1 ความสะดวกสบายในการขับ สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยโช้คอัพที่ปรับค่าการตอบสนองได้ ยิ่งไปกว่านั้น Adaptive M ยังเพิ่มพวงมาลัยแบบสปอร์ตที่มีการบังคับเลี้ยวแม่นยำ

BMW iX1 Specifications Value
Length 4,500 mm (177.2 in.)
Width 1,845 mm (72.6 in.)
Height 1,616 mm (63.6 in.)
Wheelbase 2,692 mm (106.0 in.)
Ground Clearance 170 mm (6.7 in.)
Luggage Capacity 490-1,495 liters (17.3-52.8 cu. ft.)
Drivetrain layout Dual-motor AWD
Total Power 230 kW (308 hp) with a temporary boost
Total Torque 494 Nm (364 lb.-ft.)
0-62 mph time 5.6 seconds
Top Speed 180 km/h (112 mph)
Battery (Net) 64.7 kWh
Range (WLTP) 440 km (273 miles)
AC Charging Power 11 kW (standard)/22 kW (optional)
0-100% AC Charging Time 6 hours 30 minutes (at 11 kW)/3 hours 45 minutes (at 22 kW)
DC Charging Power 130 kW
0-80% DC Charging Time 29 minutes
Braked Towing Capacity (12%) 1,200 kg (2645.5 lbs.)
Unbraked Towing Capacity 750 kg (1653.5 lbs.)

iX1 มีความสมดุล จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและตำแหน่งที่ต่ำของชุดแบตเตอรี่ การส่งพลังงานเกือบจะทันที Adaptive recuperation ซึ่งมาในเวอร์ชันอัปเกรด เพื่อประสิทธิภาพและระยะที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและใช้งานได้จริง iX1 ให้การขับขี่ที่ค่อนข้างสปอร์ต มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขั้นสูง อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ข้อมูลจำกัดความเร็วพร้อมไฟแสดงห้ามแซง ระบบช่วยจำกัดความเร็ว การเตือนการออกนอกเลน ระบบควบคุมระยะการจอดแบบแอ็กทีฟ พร้อมกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Driving Assistant Plus
แพ็กเกจความปลอดภัย Driving Assistant Plus เพื่อให้ BMW iX1 สามารถขับขี่อัตโนมัติได้ ระบบจะใช้กล้อง เรดาร์ และเซนเซอร์อัลตราโซนิกรอบๆ ตัวรถเพื่อติดตามสภาพแวดล้อม แพ็กเกจนี้มาพร้อมกับระบบช่วยบังคับเลี้ยวและควบคุมช่องทาง ใช้กล้องและเรดาร์ ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแอ็กทีฟพร้อม Stop & Go ด้วยความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระบบช่วยจำกัดความเร็ว รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ กล้องภายในห้องโดยสารด้านบน จะเปิดใช้งานเมื่อ Remote Theft Recorder ทำงาน สามารถบันทึกภาพของใครก็ตามที่ยุ่งเกี่ยวกับรถได้โดยอัตโนมัติ

การผลิต BMW iX1 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 ในเมืองเรเกนสบวร์ก ประเทศเยอรมนี เริ่มต้นด้วย X1 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในปลั๊กอินไฮบริด และ iX1 เริ่มทยอยออกจากสายการผลิตเดียวที่โรงงานเรเกนสบวร์ก BMW ยังผลิตชุดแบตเตอรี่ของ iX1 ที่โรงงานแห่งนี้ โรงงาน Regensburg ใช้ระบบสายพานลำเลียงและการประกอบใหม่ เพื่อผลิตแบตเตอรี่และการขนส่งภายในมีการปรับให้เหมาะสมโดยใช้ระบบดิจิทัล ห้องพ่นสีใช้กระบวนการพ่นสีแบบผสมผสาน (IPP) ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเคลือบสีในขณะที่ลดการใช้พลังงาน BMW กล่าวว่าพนักงานที่ทำงานในการผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าที่โรงงาน Regensburg จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 400 คน ภายในสิ้นปี 2565 ระหว่างปี 2563 ถึง 2565 BMW Group ได้ลงทุนมากกว่า 150 ล้านยูโร ในโรงงาน Regensburg เพื่อขยายขนาดการผลิตชิ้นส่วนแบตเตอรี่และแบตเตอรี่แรงดันสูง

ในเยอรมนี BMW iX1 มีราคาเริ่มต้นที่ 55,000 ยูโร (58,327 เหรียญสหรัฐ) ประมาณ 2,024,000 บาท BMW Group Thailand ยืนยันการเปิดตัว BMW iX1 ในประเทศไทย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม 2566)

แผนงานระยะยาวของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ตราใบพัด ภายในปี 2573 BMW Group ตั้งเป้าหมายที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 1.5 ล้านคันต่อปี และ iX1 ระดับเริ่มต้น คือการเปิดตัวเชิงกลยุทธ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สำหรับระยะกลาง BMW ตั้งเป้าส่งมอบรถ EV จำนวน 2 ล้านคันให้กับลูกค้าภายในปี 2568.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

คุณกำลังดู: วิ่งไกล เข้าไทยต้นปีหน้า รถยนต์ไฟฟ้า BMW iX1 ELECTRIC

หมวดหมู่: รถยนต์